จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1251

สรุปบท บทที่ 1251 หลบหนี: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 1251 หลบหนี จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 1251 หลบหนี คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

จนกระทั่งตอนที่หลินหยุนกลับมาถึงเมืองเทียนหยุน พาตัวซิงเฟยจากไปนั้น ภายในสมองของพวกคนเหล่านี้ ถึงขนาดที่ว่างเปล่ากันไปหมด โดยอยู่ที่กลางอากาศ ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร

หลินหยุน ช่างน่ากลัวมากเหลือเกิน

พวกเขาไม่เคยได้พบเจอผู้บำเพ็ญฝึกฝนที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน

เริ่มแรกเผชิญหน้ากับเจียงยี่ที่เป็นยอดฝีมือขั้นยาทองระดับสี่ ก็ไม่ถือว่าเท่าไร จากนั้นก็ได้เผชิญหน้ากับยอดฝีมือขั้นยาทองระดับห้าอีกสองคน

ท้ายที่สุด ยังได้เผชิญหน้ากับยอดฝีมือขั้นยาทองระดับห้าอีกสามคน โดยหนึ่งในนั้นยังมีขั้นยาทองระดับหกอีกหนึ่งคน ซึ่งไม่นึกว่าจะถูกเขาสังหารลงได้ทันที มีเพียงแค่ผู้อาวุโสคนที่สี่ขั้นยาทองระดับหก ที่สามารถหลบหนีเอาตัวรอดไปได้

นี่มันช่างน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน?

อย่าพูดเลยว่าเคยพบเห็น ก่อนหน้าวันนี้นั้น ก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย

ต่อให้คนอื่นพูดแบบนี้ พวกเขาเองก็คงจะไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด

หลินชางฉองนั้น ราวกับว่าเป็นเทพสังหารอย่างไรอย่างนั้น

เก่งกาจไร้คู่ต่อกร!

ผู้อาวุโสคนที่สี่กลับมาถึงสำนักเทียนหยุน ก็รีบเหาะเหินขึ้นไปยังยอดเขาที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนัก

ไม่นาน ก็เกิดเสียงระฆังใหญ่ดังขึ้นติดต่อกัน โดยเสียงระฆังนั้นดังกังวานไปทั่วทั้งสำนัก

ลูกศิษย์ทุกคนต่างก็หยุดฝีเท้าหยุดทุกการกระทำลงกันหมด และพากันตกตะลึงขึ้นทันที

“เกิดอะไรขึ้น? ”

“ระฆังทองม่วงของสำนักทำไมถึงได้ดังขึ้นอย่างกะทันหัน? ”

“ผิดสังเกต มีแต่เวลาที่สำนักประสบกับเหตุร้ายอันตรายเท่านั้น ระฆังทองม่วงจึงจะถูกลั่นให้ดังขึ้น”

“คงจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วเป็นแน่! ”

ลูกศิษย์ทั้งหมดของสำนักเทียนหยุน ต่างก็พากันตื่นตระหนกขึ้นทันที

ผ่านไปชั่วครู่ เงาร่างที่แข็งแกร่งทรงพลังอย่างที่สุดจำนวนนับไม่ถ้วน ก็ได้มุ่งหน้าไปยังทิศที่ตั้งของสำนักเทียนหยุนอย่างรวดเร็ว

แรงกดดันถาโถมอย่างไร้ขอบเขต สะเทือนเลือนลั่นไปทั่วฟ้าดิน แพร่ปกคุลมไปทั่วทั้งสำนัก

เห็นดังนั้นแล้วลูกศิษย์ทุกคนต่างก็ตกใจจนกลืนน้ำลายลงอย่างไม่รู้ตัว

แต่ มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่า ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เวลานี้ ภายในวิมานของเจียงเผิง อลหม่านวุ่นวายไปกันหมด

โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน เจียงเผิงที่มีความมั่นอกมั่นใจอย่างมากนั้น เวลานี้ได้ตกอยู่ในสภาพที่บ้าคลั่งอย่างที่สุด คนที่อยู่ด้านข้างทั้งติงหลิง หลิ่วหยางและคนอื่น ๆ ต่างก็พยายามใช้กำลังควบคุมตัวเขา แต่เจียงเผิงในสภาวะที่บ้าคลั่งนั้นได้แสดงพลังอานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุดออกมา

แม้ว่าพวกเขากี่คนจะทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังคงต้องพยายามจนถึงที่สุด จึงจะสามารถควบคุมตัวเขาไว้ได้

ติงหลิงรีบพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่เจียง คุณเป็นอะไรไป? คุณใจเย็นลงหน่อย หากเป็นแบบนี้มันจะอันตรายนะ! ”

หลิ่วหยางเองก็พูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า “ศิษย์พี่เจียง! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะต้องใจเย็นเอาไว้! ใจเย็นนะ! ”

ดวงตาสองข้างของเจียงเผิงแดงก่ำอย่างที่สุด และร่างกายก็ปลดปล่อยลมหายใจที่โกลาหลวุ่นวายอย่างมากออกมา

ที่ใบหน้า ลำคอ ท่อนแขน ล้วนปรากฏหลอดเลือดสีเขียวขึ้นอย่างชัดเจน

ปากก็ตะโกนเสียงดังไม่หยุดว่า “หลินหยุน! หลินชางฉอง! ฉันสาบานว่า ไม่ว่าแกจะอยู่ที่ไหนแห่งใด ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้! ”

“ฉันจะต้องฆ่าแก! ”

“ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้......”

ติงหลิงรีบเอ่ยปากขึ้นว่า “ศิษย์พี่เจียง ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ”

เจียงเผิงได้ยินดังนั้น ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ”

“ดีเลย ฉันจะบอกให้เธอรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น! ”

“เจียงยี่พี่ชายของฉัน ปู่ของฉัน ซึ่งก็คือผู้อาวุโสสิบ ล้วนเสียชีวิตลงด้วยน้ำมือของหลินหยุนทั้งหมดแล้ว! ”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”

“ทั้งหมดได้เสียชีวิตลงด้วยน้ำมือของหลินหยุนแล้ว! ”

ได้ยินที่เจียงเผิงพูด จิตใจของทุกคนราวกับถูกคลื่นยักษ์ซัดโหมกระหน่ำ ซึ่งไม่กล้าที่จะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น!

“อะไรนะ? ” ติงหลิงอุทานขึ้นอย่างตกใจว่า “นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน? หลินหยุนผู้นั้น เป็นไปได้อย่างไร แม้แต่กับผู้อาวุโสสิบทำไมเขาถึงยังได้......”

“ใช่เลยศิษย์พี่เจียง เข้าใจผิดอะไรไปหรือเปล่า? ผู้อาวุโสสิบมีพลังบำเพ็ญที่สูงส่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะเสียชีวิต และยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเสียชีวิตภายใต้น้ำมือของหลินหยุน! ”

หลิ่วหยางเองก็เบิกตาโพลง พูดขึ้นด้วยความเหลือเชื่อ

เจียงเผิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง “พวกเธอไม่เชื่อใช่ไหม? ”

“ฉันเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน! ”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”

ทำไมเขาจะต้องทำแบบนั้นด้วย!

ถ้าหากเรื่องทั้งหมดนี้ไม่เกิดขึ้น ก็คงจะเป็นการดีอย่างมาก!

แต่น่าเสียดายที่ การเสียใจและสำนึกผิดในภายหลังนั้นไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย!

......

อีกฝั่งหนึ่ง หลินหยุนได้พาซิงเฟยเหาะเหินอยู่ในอากาศ ด้วยความรวดเร็วอย่างมาก

เขาในตอนนี้ ก็มีสีหน้าที่ขาวซีดอย่างที่สุดเช่นกัน

สู้รบศึกใหญ่ติดต่อกัน ทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังงานไปอย่างมาก โดยเฉพาะในตอนสุดท้ายที่แสดงพลังย่ำเท้าเก้าทีนั้น ยิ่งสิ้นเปลืองพลังงานอย่างที่สุด

ซิงเฟยถามขึ้นอย่างร้อนใจว่า “นาย ได้ลงมือสังหารเจียงยี่แล้วจริง ๆ ใช่ไหม? ”

หลินหยุนพยักหน้า โดยที่ไม่ได้พูดอะไร และได้ขับเคลื่อนพลังบำเพ็ญอย่างบ้าคลั่ง เพื่อเพิ่มความเร็ว

แต่จากนั้นไม่นาน ด้านหลังของพวกเขาทั้งสองคนก็มีห้าถึงหกลมหายใจอันทรงพลังไล่ตามมา ด้วยความเร็วสูงสุด ซึ่งน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก

หลินหยุนกะพริบตา แล้วพลิกฝ่ามือ แผ่นทองเกล็ดมังกรก็ปรากฏขึ้น

แล้วก็ได้โยนไปที่เบื้องหน้า

แผ่นทองสัมผัสกับลม จึงได้ขยายใหญ่ขึ้น

หลินหยุนพาซิงเฟยก้าวขึ้นไปด้านบน

แผ่นทองนั้นมีความรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ กลายร่างเป็นเศษเงา แล้วก็เหาะหนีหายไปทันที!

รู้สึกได้ว่าหลินหยุนนั้นได้เพิ่มความรวดเร็วขึ้นอีก ยอดฝีมือสำนักเทียนหยุนหลายคนที่อยู่ด้านหลังต่างก็พากันตกตะลึง คาดคิดไม่ถึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมิงเหอผู้ที่เป็นรองเจ้าสำนัก

ทราบกันดีว่า เขาเป็นถึงยอดฝีมือขั้นยาทองระดับแปด ซึ่งในโลกคุนชางนั้น ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือสูงสุดที่นับจำนวนได้เลย!

แต่ภายใต้การไล่ติดตามอย่างเต็มกำลังของเขา คิดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามยังจะสามารถเพิ่มความเร็วได้อีก อีกทั้งหลังจากที่เพิ่มความเร็วแล้วนั้น ถึงขั้นที่เกิดระยะห่างกับเขามากขึ้นไปอีกอย่างเห็นได้ชัด

สิ่งนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วสงสัยขึ้น

หรือว่า......

ผู้ที่สังหารผู้อาวุโสหลายคนของสำนักเทียนหยุนที่อยู่เบื้องหน้านั้น ไม่ใช่เด็กหนุ่มอะไรอย่างที่ทุกคนพูดกัน แต่เป็นผู้อาวุโสที่มีพลังบำเพ็ญในระดับขั้นที่ใกล้เคียงกับเขาอย่างนั้นเหรอ?

เขายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้! แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เขาเองก็ไม่หวาดกลัว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์