หลินหยุนยังคงไม่ตอบคำถามนี้ เพราะว่าไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เพราะไม่ควรที่จะนำเรื่องของโลกอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากโลกคุนชางมาพูดได้
ซิงเฟยพลันพูดไม่ออกอีกครั้ง และก็ไม่ได้จี้ถามต่ออีก
“อย่างไรก็ตามฉันได้เตือนนายเอาไว้แล้ว หากครั้งนี้นายยังก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ทั้งโลกคุนชางก็คงจะไม่มีสถานที่ให้นายดำรงชีวิตต่อไปอีกแล้ว”
“เท่าที่ฉันมอง หากนายคิดที่จะลงมือจัดการกับมู่หงนั้น ควรจะเปลี่ยนวิธีการอีกแบบหนึ่งจะดีกว่า”
หลินหยุนดวงตาเป็นประกาย ครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ลองพูดมาหน่อยสิ! ”
ซิงเฟยพลันพูดขึ้นว่า “ง่ายมาก พวกเราเพียงแค่ใช้วิธีการล่องูออกจากถ้ำเท่านั้น! ”
หลินหยุนพยักหน้า “พูดให้ละเอียดอีกสักหน่อย”
ซิงเฟยพูดว่า “ได้ยินว่า มู่หงนั้นเป็นเพื่อนสนิทของเจียงยี่ จากตลอดทางที่พวกเราได้สอบถามและรับทราบนั้น ครั้งก่อนที่มู่หงปรากฏตัวขึ้นนั้น ก็คือการออกเดินทางไปกับเจี่ยงยี่! ”
“กี่เดือนก่อนหน้านี้ ทั้งสองคนก็กลับกันมา จากนั้นก็ไม่ได้ออกมาจากสำนักของตนเองอีกเลย”
“ชัดเจนว่า ตอนนี้เขากำลังบำเพ็ญฝึกฝนอยู่ในสำนักฉีซานมาโดยตลอด! ”
“เพียงแค่พวกเราก่อเรื่องอะไรขึ้นเล็กน้อย ก็เพียงพอที่จะล่อลวงให้เขาออกมา และก็สามารถที่จะลงมือสังหารเขาได้อย่างง่ายดายแล้ว! ”
“เพียงแค่ไม่อยู่ใกล้กับบริเวณของสำนักฉีซาน พวกยอดฝีมือของสำนักฉีซานก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้แล้ว! ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “นี่เป็นวิธีการที่ดี! แต่ว่า......”
ซิงเฟยพูดว่า “แต่ว่าอะไร? ”
หลินหยุนพูดว่า “มันยุ่งยากเกินไปหน่อย! ”
ซิงเฟยเหลือกตาขาวใส่อย่างไม่สบอารมณ์ และพูดว่า “อย่างไรก็ดีกว่าที่จะต้องตาย! นายคิดว่าสำนักฉีซานกระจอกอย่างนั้นเหรอ นายคิดที่จะลงมือทำอะไรก็ได้? ”
หลินหยุนส่ายศีรษะ และพูดว่า “ค่อยว่ากันเถอะ! ”
ซิงเฟยพูดว่า “แล้วจะทำอย่างไรต่อ หรือตอนนี้จะนั่งรอคอยให้พวกเขามาติดกับอย่างนั้นเหรอ? ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “ไม่รีบร้อน ลองดูสถานการณ์กันก่อนว่าเมืองฉีซานกับสำนักฉีซานนั้นเป็นอย่างไรแล้วค่อยว่ากันอีกครั้ง”
“เขาไม่รีบร้อนแต่อย่างใด โดยการกระทำเรื่องแบบนี้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็ถือว่าเป็นคนวงใน”
ชาติที่แล้วเพื่อต้องการที่จะลงมือสังหารผู้ที่ดูหมิ่นเย่เยว่ เขาได้พักอยู่ในเมืองของฝ่ายตรงข้ามเป็นเวลานับสิบปี ในที่สุดเขาก็ได้พบกับโอกาส ลงมือสังหารฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ สุดท้ายยังถูกตระกูลของฝ่ายตรงข้ามไล่ล่าตามฆ่านับร้อยปี
ดังนั้น การไล่ล่าสังหาร การหลบหนีเอาตัวรอดนั้น หลินหยุนมีประสบการณ์อย่างมาก
ได้ยินเขาพูดแบบนี้แล้ว ซิงเฟยเองก็ไม่พูดอะไรมาก ติดตามหลินหยุนมุ่งหน้าไปยังเมืองฉีซานต่อ
ระยะทางกว่าร้อยลี้ สำหรับพวกเขาแล้วก็ไม่ถือว่าหนักหนาอะไร
แต่หลังจากที่เข้าใกล้มากยิ่งขึ้น ซิงเฟยเองก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น
เมื่อมาถึงบริเวณนอกเมืองฉีซานที่ห่างออกไปประมาณไม่กี่ลี้ ทั้งสองคนก็หยุดลง
ซิงเฟยสวมใส่หน้ากากของเธอ เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์
ส่วนหลินหยุนก็ใช้วิชาแปลงกายอย่างง่าย เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์หน้าตาเช่นกัน
วิชาแปลงกายนี้ไม่ได้สูงส่งอะไรมากนัก เพียงแค่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปะทะลงมือ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกพบเจอตัวได้
เข้าเมือง
ทั้งสองคนได้หาร้านอาหารแห่งหนึ่งแล้วก็เดินเข้าไปด้านใน ไม่นานนักก็ดึงดูดสายตาของผู้คนเป็นอย่างมาก
ต้องจำยอม เพราะว่าด้านข้างมีหญิงสาวที่งดงามมีเสน่ห์อย่างซิงเฟยนี้ คิดที่จะถ่อมตัวก็คงจะถ่อมตัวไม่ได้
สองคนหาที่นั่งในตำแหน่งที่เงียบสงบ และก็ได้ยินผู้คนโดยรอบจำนวนไม่น้อยกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องหนึ่ง
งานประลองยุทธสำนักฉีซาน
ฟังไปชั่วครู่ ทั้งสองคนก็เข้าใจถ่องแท้แล้ว
งานประลองยุทธของเก้าสำนักใหญ่ใกล้จะถึงแล้ว ซึ่งเกี่ยวโยงไปถึงการจัดแบ่งระดับอิทธิพลอำนาจครั้งใหม่
ดังนั้นสำนักฉีซานจำเป็นจะต้องทำการประลองยุทธในกลุ่มลูกศิษย์วัยรุ่น เพื่อคัดเลือกลูกศิษย์ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมเป็นตัวแทนของสำนักเข้าประลองยุทธ
อีกทั้งนี่ยังเป็นวันที่สำนักฉีซานเปิดรับสมัครลูกศิษย์ประจำปีอีกด้วย
เปิดรับลูกศิษย์ก่อน แล้วค่อยทำการประลองยุทธ
ดังนั้นการจัดเรียงขั้นตอนแบบนี้ สะท้อนให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...