จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1261

สำนักเทียนหยุนเป็นสำนักที่แข็งแกร่งขนาดไหน?

พวกเขาเป็นหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่ของโลกคุนชาง!

พวกเขาเป็นสำนักที่ยอมให้เรื่องจบลงง่ายๆเหรอ?

ดังนั้น ฉินห้าวเทียนคิดเยอะมากและคิดอย่างรอบคอบแล้ว

สำนักเทียนหยุนต้องมาหาเขาอย่างแน่นอน เรื่องนี้อยู่ในการคาดเดาของเขาอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ เขาเคยมีความคิดที่จะให้คนของตระกูลฉินออกจากตระกูลไปเลย

แต่หลังจากครุ่นคิดแล้ว เขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้น

เนื่องจากสำนักเทียนหยุนเป็นสำนักใหญ่ พวกเขาคงไม่ทำอะไรเกินกว่าเหตุอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาได้คิดหาวิธีรับมือไว้แล้ว นั้นก็คือพูดความจริง

ตอนนี้เขาก็ไม่กล้าปิดปังอะไรเลย เขามองไปที่สองคนนั้นและพูด "ฉันรู้จักคนที่ชื่อหลินชางฉอง! แต่เขากับตระกูลฉินของเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันเลย! ก่อนหน้านี้เขาเคยมาที่ตระกูลฉิน แต่เขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว"

"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดปังเลย!"

"หลังจากฉันได้รู้เรื่องของสำนักคุณกับหลินชางฉองแล้ว ฉันก็รู้ได้ทันที สำนักของคุณต้องส่งคนมาหาฉันอย่างแน่นอน"

"ถ้าตระกูลฉินของเรามีความเกี่ยวข้องกับหลินชางฉองจริงๆ ถ้างั้นฉันคงไม่อยู่ที่ตระกูลฉินและรอพบหน้าพวกคุณสองคนอยู่แล้ว!"

ผู้ชายสองคนได้ยินคำพูดเหล่านี้ พวกเขาสบตากันและพยักหน้าทันที พวกเขามองไปที่ฉินห้าวเทียนและพูด "เจ้าบ้านฉิน เรื่องของสำนักเทียนหยุนได้เผยแพร่ไปทั่วโลกคุนชางแล้ว เรื่องนี้ทำให้สำนักของเรากลายเป็นตัวตลกของโลกคุนชางไปเลย!"

"เรื่องทั้งหมดก็เพราะหลินชางฉองเพียงคนเดียว!"

"ในเมื่อเจ้าบ้านฉินพูดว่าตระกูลฉินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลินชางฉองเลย พวกเราหวังว่าเจ้าบ้านฉินจะยอมพูดข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับหลินชางฉองที่พวกคุณรู้ออกมา ฉันคิดว่าคำขอของฉันคงไม่มากเกินไปใช่ไหม?"

"คนของตระกูลฉินเคยติดต่อกับเขา พวกคุณก็น่าจะรู้ข้อมูลของเขามาบ้าง?"

เมื่อฉินห้าวเทียนได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและถอนหายใจ

แน่นอน เรื่องพวกนี้เขารู้อยู่แล้ว

หลินหยุนกับสำนักหยุนเยว่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา

แต่คำพูดนี้เขากล้าพูดกับผู้ชายสองคนนี้เหรอ?

เขาไม่อยากจะพูด

เพราะเขาไม่อยากจะมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับสำนักหยุนเยว่อีก

เขาไม่อยากจะเอ่ยถึงหรือได้ยินคำว่าสำนักหยุนเยว่ด้วยซ้ำ

ฉินห้าวเทียนหายใจเข้าลึกๆและพูด "พวกคุณสองคน หลินชางฉองคนนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลฉินจริงๆ!"

"ตระกูลฉินของเราไม่อยากติดต่อกับคนๆนี้ด้วยซ้ำ!"

"สำหรับคำถามของพวกคุณสองคน ฉันต้องขอโทษจริงๆ ฉันตอบไม่ได้จริงๆ ฉันหวังว่าพวกคุณสองจะให้อภัยฉัน!"

"สำหรับเรื่องของหลินชางฉอง พวกคุณสองคนก็ไม่จำเป็นต้องถามอีกแล้ว!"

เมื่อชายวัยกลางคนสองคนนั้นได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของพวกเขาเย็นชาขึ้นมาทันที

ชายวัยกลางคนที่เอ่ยปากพูดคนแรกเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา "เจ้าบ้านฉิน คุณพูดอย่างเต็มปากว่าหลินชางฉองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลฉินเลย!"

"แต่คุณกลับไม่ยอมบอกข้อมูลของอีกฝ่ายเลย คุณตั้งใจปิดบังและปกป้องเขา ท่าทางที่คุณแสดงออกมานั้น เหมือนคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเลยเหรอ?"

"สำนักเทียนหยุนของเราเป็นหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่ พวกเราไม่อยากรังแกคนที่อ่อนแอกว่า!"

"แต่เจ้าบ้านฉินคิดว่าสำนักเทียนหยุนของเราจะยอมให้เรื่องนี้จบง่ายๆเหรอ?"

"ถ้าเจ้าบ้านฉินคิดแบบนี้จริงๆ ฉันจะบอกให้คุณรับรู้ คุณคิดผิดไปแล้ว!"

เมื่อพูดจบ พลังอันน่ากลัวก็ถูกปลดปล่อยจากร่างกายของสองคนนี้ทันที และปิดล้อมบริเวณทั้งหมดของตระกูลฉินเอาไว้

ทำให้ทุกคนในเมืองมี่หยุนรับรู้และสัมผัสได้ทันที

พวกเขาสองคน คนหนึ่งคือยอดฝีมือแดนยาทองระดับห้า ส่วนอีกคนคือยอดฝีมือแดนยาทองระดับหก

ยอดฝีมือที่ร้ายกาจอย่างพวกเขาสองคน ถึงแม้ยอดฝีมือทุกคนในเมืองมี่หยุนร่วมมือกัน ก็สู้พวกเขาสองคนไม่ได้ และอาจจะโดนฆ่าล้างทั้งเมืองด้วย

ฉินห้าวเทียนหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าของเขาเคร่งขรึมมากๆและพูด "พวกคุณสองคน ฉันได้พูดความจริงทุกอย่างแล้ว! หลินชางฉองคนนั้นเกือบจะทำให้ตระกูลฉินของเราโดนฆ่าล้างเหมือนกัน เรื่องนี้ทุกคนในเมืองเทียนหยุนต่างรู้ดี!"

"สำหรับข้อมูลของคนๆนี้ ฉันไม่อยากจะพูดถึงเขาเลย!"

"พวกคุณสองคน ถึงแม้พวกคุณจะฆ่าล้างทุกคนในตระกูลฉิน คำตอบของฉันก็ยังคงเหมือนเดิม!"

พูดได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ พวกเขาสองคนไม่เหมือนพ่อลูกกันเลย

ฉินเหมยรู้สึกว่าพ่อคนนี้เหมือนคนแปลกหน้า สำหรับความรู้สึกของพ่อนั้น ก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย?

เขายังหวนกลับไปนึกถึง ถ้าเขาไม่ได้ทำเรื่องนั้น เธอก็คงไม่ต้องตาย?

เขาเกลียดตัวเอง และเกลียดลูกสาวคนนี้ด้วย ถึงแม้จะเป็นเวลาแบบนี้ เขาก็พูดออกมาได้แค่ประโยคเดียว

คำพูดนั้นก็คือ"ทำไมต้องทำแบบนี้"

ชุดยาวของฉินเหมยเต็มไปด้วยเลือดสด

ในเวลานี้ ยังมีเลือดสดไหลออกมาจากปากของเธอไม่หยุด

เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มีเลือดอยู่เต็มปาก ทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก

ฉินห้าวเทียนมองหน้าเธอ จากนั้นก็มองผู้ชายสองคนของสำนักเทียนหยุนที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า

เขาเอ่ยปากพูดเบาๆ "พวกคุณสองคนโปรดรอสักครู่!"

ขณะพูด เขาก็อุ้มฉินเหมยเข้าไปในตระกูล จากนั้นก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง และยืนอยู่ด้านหน้าพวกเขา

ฉินห้าวเทียนมองหน้าพวกเขาสองคนและพูดด้วยน้ำเสียงปกติ "พวกคุณทำร้ายลูกสาวของฉัน! ถึงแม้คนอย่างฉัน ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีลูกสาวคนนี้ และฉันก็ไม่อยากมีลูกสาวคนนี้ด้วย "

"แต่ถึงยังไง เธอก็เป็นลูกสาวของฉันจริงๆ!"

"พวกคุณแข็งแกร่งมากๆ สำนักเทียนหยุนของพวกคุณก็แข็งแกร่งมากๆเหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง พวกคุณก็ไม่ควรทำร้ายลูกสาวของฉัน!"

เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็หัวเราะออกมาและพูดด้วยความดูถูก "ฉันไว้หน้าคุณแล้ว แต่คุณไม่สนใจเอง! รีบๆบอกข้อมูลทั้งหมดของหลินชางฉองออกมา ถ้าคุณยังกล้าปกปิดอีก ฉันไม่เพียงแค่จะทำร้ายลูกสาวคุณเท่านั้น ฉันจะฆ่าล้างทุกคนในตระกูลฉินด้วย!"

ฉินห้าวเทียนพยักหน้าและหายใจเข้าลึกๆ

"แข็งกร้าวมากๆ ป่าเถื่อนมากๆ!"

"อย่าจะฆ่าล้างทุกคนในตระกูลฉินเหรอ ฮ่าๆๆ!"

"ดีเลย ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ายอดฝีมือของสำนักเทียนหยุนจะแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่!"

"คนที่อ่อนแอเหมือนไข่ไก่อย่างฉัน ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าสำนักเทียนหยุนจะแข็งแกร่งดั่งก้อนหิน มันจะแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่"