เมื่อชายชุดดำได้ยิน จึงถอนหายใจออกมาเบาๆ
จากนั้นยื่นมือถอดหมวกกุ้ยเล้ยบนศีรษะออก
หลินหยุนกับซิงเฟย เห็นหน้าตาที่แท้จริงของเขา
เป็นชายหนุ่มจริงๆ ดูยังเด็กเกินไปหน่อย
เหมือนยังอายุไม่ถึง 20 ปีเลย ประมาณ 17-18 ปี ยังเด็กกว่าหลินหยุนไม่น้อย
หน้าตายังดูมีความละอ่อน นี่ไม่สามารถหลอกคนอื่นได้
แทบจะไม่อยากเชื่อว่าคำพูดที่พูดตอนใส่หมวกกุ้ยเล้ย ออกมาจากปากคนอายุน้อยคนนี้
เอาหมวกกุ้ยเล้ยสะพายไว้ข้างหลังอย่างซื่อๆ
หมวกกุ้ยเล้ยนี้นานมากแล้ว และเก่ามากด้วย แต่เหมือนเขาให้ความสำคัญกับมันมาก
การกระทำของเขา เหมือนกำลังจัดวางสมบัติล้ำค่าอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเขาสะพายหมวกกุ้ยเล้ยเรียบร้อย จึงมองหลินหยุนอีกครั้ง
“นายไม่ใช่ศิษย์สำนักฉีซาน!”
“แต่กลับมีผลการฝึกตนแข็งแกร่ง”
“แข็งแกร่งจนขนาดฉัน ก็ไม่สามารถเอาชนะได้!”
“นี่ไม่สำคัญ”
“สิ่งสำคัญคือ”
“ฉันว่านาย”
“เหมือนจะเป็นคนมีเหตุผล”
“ใช่ไหม”
หลินหยุนพูดเบาๆ ว่า “ประมาณนั้น!”
คนอายุน้อยหัวเราะ แล้วพูดว่า “ใช่คือใช่ ไม่ใช่คือไม่ใช่ บนโลกนี้มีอะไรคลุมเครือด้วยเหรอ”
หลินหยุนพูดว่า “เหมือนโลกนี้ไม่ได้มีแค่ขาวกับดำไงล่ะ”
คนอายุน้อยอึ้งไป จากนั้นพยักหน้าแล้วพูดว่า “มีเหตุผล! ดูเหมือนนายเป็นคนมีเหตุผลจริงๆ! ฉันชอบทำความรู้จักกับคนมีเหตุผลที่สุด!”
หลินหยุนพยักหน้า “นายจะพูดเหตุผลกับฉันเหรอ”
หนุ่มชุดดำพูดว่า “ฉันต้องการผู้หญิงคนนี้ แต่ฉันเป็นคนมีเหตุผล ดังนั้นหวังว่านายจะตกลง!”
หลินหยุนพูดว่า “ถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ”
หนุ่มชุดดำพูดว่า “งั้นแสดงว่านายไร้เหตุผลแล้ว! ฉันปรึกษากับนายดีๆ ถ้านายเข้าใจเหตุผล นายควรจะตอบตกลง!”
แววตาหลินหยุนวูบไหว แล้วพูดว่า “นี่คือเหตุผลของนายเหรอ”
หนุ่มชุดดำพยักหน้า “ถูกต้อง!”
หลินหยุนพูดว่า “มีเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจ”
หนุ่มชุดดำพูดว่า “ถามมาได้เลย การทำให้สรรพสิ่งหลุดพ้นจากความทุกข์ คลายข้อสงสัยให้สรรพสิ่ง ก็เป็นหน้าที่ของฉัน”
หลินหยุนพูดว่า “เหตุผลของนาย ใช้ได้กับทุกสถานการณ์หรือเปล่า มีตอนที่ใช้ไม่ได้หรือเปล่า”
เมื่อชายชุดดำได้ยิน ก็ก้มหน้าครุ่นคิดอย่างจริงจัง
ผ่านไปนาน จึงเงยหน้าขึ้นมองหลินหยุน แล้วพูดว่า “ไม่มี เพราะฉันพูดเพียงเหตุผลของฉัน ส่วนเหตุผลของคนอื่น ไม่เกี่ยวกับฉัน”
เมื่อหลินหยุนได้ยิน จู่ๆ จึงหัวเราะออกมา
หัวเราะจริงๆ
นับตั้งแต่เกิดใหม่มานั้น เรื่องที่ทำให้เขาหัวเราะได้ มีน้อยลงทุกที
ถึงกระทั่งที่ลืมไปแล้ว ว่าเรื่องที่ตัวเองหัวเราะครั้งก่อนคือเรื่องอะไร
แต่ทว่าตอนนี้ เขาหัวเราะจริงๆ หัวเราะแบบเย้ยหยัน
น่าขำ
พูดแต่เหตุผลของตัวเอง ส่วนเหตุผลของคนอื่น ไม่เกี่ยวกับตัวเอง
ช่างมีเหตุผลเสียจริง!
จู่ๆ หลินหยุนรู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมา
คนที่อยู่ตรงหน้า น่าจะเหมาะกับการเป็นเกรียนคีย์บอร์ดในโลกภายนอก ถือคีย์บอร์ดเดินไปทั่ว
สูดหายใจลึก หลินหยุนมองอีกฝ่าย แล้วพูดว่า “คนอย่างฉัน บางครั้งก็ชอบพูดแต่เหตุผลของตัวเอง ส่วนเหตุผลของคนอื่น ก็ไม่เกี่ยวกับฉันเหมือนกัน”
“เพราะเหตุผลของฉันคือ”
“คนอื่นพูดเหตุผลกับฉันอย่างไร”
“ฉันก็พูดเหตุผลกับเขาด้วยวิธีเดียวกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...