หญิงสาวนับสิบที่งามสง่าประดุจนางสวรรค์
คนที่นำอยู่หน้าสุดก็คือสองเยว่นั่นเอง
การมาเยือนของพวกเธอ ก็หมายถึงการมาเยือนอย่างเป็นทางการของสำนักหยุนเยว่ด้วยเช่นกัน
ผู้ที่อยู่ด้านหลังหยุนเยว่ ก็คือสามเยว่ แปดเยว่ เก้าเยว่ สิบเยว่ และศิษย์อัจฉริยะคนอื่นๆแห่งสำนักหยุนเยว่
ในฐานะที่เป็นศิษย์รักของสองเยว่
และก็เป็นถึงลูกรักสวรรค์ที่หนึ่งแห่งสำนักหยุนเยว่
นางฟ้าอิ้งเยว่ก็ย่อมต้องเป็นหนึ่งในนั้น
ทว่า พวกสี่เยว่ กลับไม่อยู่ พวกเธอไม่ได้มาที่นี่ด้วย
เห็นได้ชัด ว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหนือความคาดหมายอะไรสำหรับคนอื่นๆ
ในขณะที่พวกสองเยว่เหยียบฝีเท้าลงบนพื้น
พวกลู่หยู่และคนอื่นๆที่อยู่ในศาลาก็ย่อมไม่กล้าชักช้าเสียมารยาท ต่างเร่งฝีเท้ากันขึ้นมาต้อนรับ
ยังคงเป็นลู่หยู่และศิษย์น้องหญิงที่ดูหน้านิ่งเย็นชาของเขาเดินนำหน้า
พวกเขาโค้งคำนับพวกสองเยว่ทันที และเอ่ยว่า “ลู่หยู่และศิษย์แห่งแปดสำนัก น้อมคารวะผู้อาวุโสแห่งสำนักหยุนเยว่ทุกท่าน”
ทันใดนั้น ก็มีหนึ่งในหญิงสาวคนหนึ่ง หรือก็คือหญิงสาวเสื้อชมพูที่รับตัวนิ่งโม่เมื่อกี้นี้ เดินออกมาอย่างเร่งรีบ ก่อนจะน้อมตัวคารวะสองเยว่และเอ่ยว่า “ชิงเหอน้อมคารวะเจ้าสำนักและท่านอาจารย์ใหญ่”
สองเยว่พยักหน้า ก่อนจะยื่นป้ายประจำตัวออกมาให้ดู แล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า “นี่คือป้ายประจำตัวของสำนักหยุนเยว่”
ลู่หยู่รีบยื่นมือออกไปรับอย่างไว “ผู้อาวุโสไม่ถึงกับต้องส่งมอบด้วยตนเองหรอก ท่านอย่าได้เกรงใจอนุชนอย่างเราเลย!”
สองเยว่ตอบว่า “ไม่เป็นไร”
ลู่หยู่รีบส่งมอบป้ายประจำตัวกลับคืนให้สองเยว่ และเอ่ยว่า “ผู้อาวุโส ไม่มีปัญหาอะไรครับ เชิญผู้อาวุโสและศิษย์น้องหญิงทุกคนเข้ามาข้างในเถอะ!”
สองเยว่รับป้ายประจำตัวมาเก็บไว้ ทันใดนั้น หล่อนไม่ได้รีบเข้าไปข้างใน แต่กลับมองไปยังคนสองคนที่กำลังเดินมาทางนี้
ขณะเดียวกัน
ทุกคนต่างก็มองตามสายตาของสองเยว่ไปที่สองคนนั้น
ไม่ใช่ใครอื่นใด แต่คือหลินหยุนและซิงเฟยนั่นเอง
เมื่อเห็นหลินหยุนและซิงเฟยกำลังมุ่งมาทางนี้
ฉับพลันนั้น ทุกคนต่างเริ่มเก็บอาการกันไม่อยู่
“เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ?”
“หนุ่มสาวสองคนนี้ กล้ามาที่นี่ตอนนี้ได้ยังไง?”
“นี่คือเหล่าผู้แข็งแกร่งของสำนักหยุนเยว่เชียวนะ!”
“พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”
“พวกเขารนหาที่ตายอยู่หรือไง?”
เมื่อเห็นหลินหยุนและซิงเฟยเดินมา
ไม่ใช่แค่เหล่าคนที่กำลังต่อแถว แม้แต่พวกลู่หยู่เองก็คาดไม่ถึงด้วยเช่นกัน
พวกเขาอดเบิกตากว้างกับภาพตรงหน้าไม่ได้
ไม่รู้ว่าหลินหยุนและซิงเฟยคิดจะทำอะไรกันแน่
ทันใดนั้นเอง
หลินหยุนและซิงเฟยก็เดินมาถึงตรงหน้า
สิ่งที่ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกเหลือเชื่อกำลังเกิดขึ้นแล้ว
เห็นเพียงสองเยว่เผยยิ้มอ่อนๆ แล้วเอ่ยเสียงเบาว่า “รอนานแล้วสินะ?”
หลินหยุนส่ายหน้าเบาๆ ตอบว่า “ยังดี”
สองเยว่พูดต่อว่า “งั้นเราเข้าไปด้วยกันเถอะ!”
หลินหยุนพยักหน้า ไม่มากความอะไรอีก
จากนั้นก็ก้าวเดินไปยังทางเข้า
ส่วนสองเยว่ก็เดินเคียงข้างเขา
ณ วินาทีนี้ ทุกคนต่างรู้สึกอึ้งและตะลึงงัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เจ้าหนุ่มคนนี้ เป็นใครกันแน่?
นั่นคือเจ้าสำนักแห่งสำนักหยุนเยว่เชียวนะ!
ทำไมถึงมาเดินอยู่กับชายหนุ่มคนนี้ได้?
อีกทั้งพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?
ชั่วขณะนั้น
แทบจะทุกคนที่มีเครื่องหมายคำถามนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในหัว
พวกลู่หยู่เองก็มึนงงสับสนด้วยเช่นกัน
จนมีครู่หนึ่งที่ลืมแม้กระทั่งหลีกทางให้พวกเขาแล้วด้วยซ้ำ
เห็นเขาไม่หลบถอย สองเยว่จึงปริปากเอ่ยเสียงเบาว่า “ทำไม ยังมีปัญหาอะไรอีกงั้นหรือ?”
ลู่หยู่ได้ยินได้นั้น ก็พลันหลุดออกจากภวังค์ “ไม่มีครับๆ ท่านโปรดอย่าได้เข้าใจผิด เชิญเข้าไปข้างในเถอะครับ!”
พูดเสร็จ ก็รีบหลีกทางให้ทันที
ส่วนสองเยว่และหลินหยุนก็เข้าไปข้างในทีเดียวโดยไม่รอช้า
ผู้คนที่อยู่ตรงบริเวณทางเข้า เมื่อเห็นหลินหยุนและสองเยว่เดินเข้าไปข้างในด้วยกันก็ล้วนแต่อึ้งชะงักหยุดอยู่กับที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...