จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1338

สรุปบท บทที่ 1338 ตกตะลึงกันถ้วนหน้า: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 1338 ตกตะลึงกันถ้วนหน้า จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 1338 ตกตะลึงกันถ้วนหน้า คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หญิงสาวนับสิบที่งามสง่าประดุจนางสวรรค์

คนที่นำอยู่หน้าสุดก็คือสองเยว่นั่นเอง

การมาเยือนของพวกเธอ ก็หมายถึงการมาเยือนอย่างเป็นทางการของสำนักหยุนเยว่ด้วยเช่นกัน

ผู้ที่อยู่ด้านหลังหยุนเยว่ ก็คือสามเยว่ แปดเยว่ เก้าเยว่ สิบเยว่ และศิษย์อัจฉริยะคนอื่นๆแห่งสำนักหยุนเยว่

ในฐานะที่เป็นศิษย์รักของสองเยว่

และก็เป็นถึงลูกรักสวรรค์ที่หนึ่งแห่งสำนักหยุนเยว่

นางฟ้าอิ้งเยว่ก็ย่อมต้องเป็นหนึ่งในนั้น

ทว่า พวกสี่เยว่ กลับไม่อยู่ พวกเธอไม่ได้มาที่นี่ด้วย

เห็นได้ชัด ว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหนือความคาดหมายอะไรสำหรับคนอื่นๆ

ในขณะที่พวกสองเยว่เหยียบฝีเท้าลงบนพื้น

พวกลู่หยู่และคนอื่นๆที่อยู่ในศาลาก็ย่อมไม่กล้าชักช้าเสียมารยาท ต่างเร่งฝีเท้ากันขึ้นมาต้อนรับ

ยังคงเป็นลู่หยู่และศิษย์น้องหญิงที่ดูหน้านิ่งเย็นชาของเขาเดินนำหน้า

พวกเขาโค้งคำนับพวกสองเยว่ทันที และเอ่ยว่า “ลู่หยู่และศิษย์แห่งแปดสำนัก น้อมคารวะผู้อาวุโสแห่งสำนักหยุนเยว่ทุกท่าน”

ทันใดนั้น ก็มีหนึ่งในหญิงสาวคนหนึ่ง หรือก็คือหญิงสาวเสื้อชมพูที่รับตัวนิ่งโม่เมื่อกี้นี้ เดินออกมาอย่างเร่งรีบ ก่อนจะน้อมตัวคารวะสองเยว่และเอ่ยว่า “ชิงเหอน้อมคารวะเจ้าสำนักและท่านอาจารย์ใหญ่”

สองเยว่พยักหน้า ก่อนจะยื่นป้ายประจำตัวออกมาให้ดู แล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า “นี่คือป้ายประจำตัวของสำนักหยุนเยว่”

ลู่หยู่รีบยื่นมือออกไปรับอย่างไว “ผู้อาวุโสไม่ถึงกับต้องส่งมอบด้วยตนเองหรอก ท่านอย่าได้เกรงใจอนุชนอย่างเราเลย!”

สองเยว่ตอบว่า “ไม่เป็นไร”

ลู่หยู่รีบส่งมอบป้ายประจำตัวกลับคืนให้สองเยว่ และเอ่ยว่า “ผู้อาวุโส ไม่มีปัญหาอะไรครับ เชิญผู้อาวุโสและศิษย์น้องหญิงทุกคนเข้ามาข้างในเถอะ!”

สองเยว่รับป้ายประจำตัวมาเก็บไว้ ทันใดนั้น หล่อนไม่ได้รีบเข้าไปข้างใน แต่กลับมองไปยังคนสองคนที่กำลังเดินมาทางนี้

ขณะเดียวกัน

ทุกคนต่างก็มองตามสายตาของสองเยว่ไปที่สองคนนั้น

ไม่ใช่ใครอื่นใด แต่คือหลินหยุนและซิงเฟยนั่นเอง

เมื่อเห็นหลินหยุนและซิงเฟยกำลังมุ่งมาทางนี้

ฉับพลันนั้น ทุกคนต่างเริ่มเก็บอาการกันไม่อยู่

“เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ?”

“หนุ่มสาวสองคนนี้ กล้ามาที่นี่ตอนนี้ได้ยังไง?”

“นี่คือเหล่าผู้แข็งแกร่งของสำนักหยุนเยว่เชียวนะ!”

“พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”

“พวกเขารนหาที่ตายอยู่หรือไง?”

เมื่อเห็นหลินหยุนและซิงเฟยเดินมา

ไม่ใช่แค่เหล่าคนที่กำลังต่อแถว แม้แต่พวกลู่หยู่เองก็คาดไม่ถึงด้วยเช่นกัน

พวกเขาอดเบิกตากว้างกับภาพตรงหน้าไม่ได้

ไม่รู้ว่าหลินหยุนและซิงเฟยคิดจะทำอะไรกันแน่

ทันใดนั้นเอง

หลินหยุนและซิงเฟยก็เดินมาถึงตรงหน้า

สิ่งที่ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกเหลือเชื่อกำลังเกิดขึ้นแล้ว

เห็นเพียงสองเยว่เผยยิ้มอ่อนๆ แล้วเอ่ยเสียงเบาว่า “รอนานแล้วสินะ?”

หลินหยุนส่ายหน้าเบาๆ ตอบว่า “ยังดี”

สองเยว่พูดต่อว่า “งั้นเราเข้าไปด้วยกันเถอะ!”

หลินหยุนพยักหน้า ไม่มากความอะไรอีก

จากนั้นก็ก้าวเดินไปยังทางเข้า

ส่วนสองเยว่ก็เดินเคียงข้างเขา

ณ วินาทีนี้ ทุกคนต่างรู้สึกอึ้งและตะลึงงัน

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

เจ้าหนุ่มคนนี้ เป็นใครกันแน่?

นั่นคือเจ้าสำนักแห่งสำนักหยุนเยว่เชียวนะ!

ทำไมถึงมาเดินอยู่กับชายหนุ่มคนนี้ได้?

อีกทั้งพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?

ชั่วขณะนั้น

แทบจะทุกคนที่มีเครื่องหมายคำถามนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในหัว

พวกลู่หยู่เองก็มึนงงสับสนด้วยเช่นกัน

จนมีครู่หนึ่งที่ลืมแม้กระทั่งหลีกทางให้พวกเขาแล้วด้วยซ้ำ

เห็นเขาไม่หลบถอย สองเยว่จึงปริปากเอ่ยเสียงเบาว่า “ทำไม ยังมีปัญหาอะไรอีกงั้นหรือ?”

ลู่หยู่ได้ยินได้นั้น ก็พลันหลุดออกจากภวังค์ “ไม่มีครับๆ ท่านโปรดอย่าได้เข้าใจผิด เชิญเข้าไปข้างในเถอะครับ!”

พูดเสร็จ ก็รีบหลีกทางให้ทันที

ส่วนสองเยว่และหลินหยุนก็เข้าไปข้างในทีเดียวโดยไม่รอช้า

ผู้คนที่อยู่ตรงบริเวณทางเข้า เมื่อเห็นหลินหยุนและสองเยว่เดินเข้าไปข้างในด้วยกันก็ล้วนแต่อึ้งชะงักหยุดอยู่กับที่

กลับให้ความเคารพนับถือ......กับเด็กหนุ่มที่ดูธรรมดาคนนี้เนี่ยนะ?

จะเป็นไปได้ยังไงกัน?

ยังคงเป็นคำถามเดิม ชายหนุ่มคนนี้ เป็นใครกันแน่?

แน่นอน

ว่าดูจากการปะทะกันกับนิ่งโม่ช่วงสั้นๆเมื่อกี้นี้

ก็พอจะดูออก ว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องมีพลังบำเพ็ญที่แกร่งกล้าอย่างแน่นอน

อย่างน้อยๆ ก็คงจะอยู่ในขั้นแดนยาทองระดับสี่แล้ว

อายุเพียงเท่านี้ ก็สามารถมีพลังบำเพ็ญถึงแดนยาทองระดับสี่ได้

หากนับรวมเหล่าศิษย์อัจฉริยะแห่งเก้าสำนักด้วยแล้วล่ะก็

ชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย

ทว่า อย่างไรก็ตาม อย่าว่าแต่ยอดฝีมือทองแดนยาทองระดับสี่เลย ถึงจะเป็นหวงฉาว หรือบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ หรือจะเป็นบุตรธยานะแห่งสำนักธยานะอะไรก็ตามแต่ ก็ไม่น่าจะได้รับการปฏิบัติเยี่ยงนี้จากเจ้าสำนักสองเยว่ด้วยซ้ำ!

คนคนนี้ เป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่?

แต่เห็นได้ชัด ว่าคำถามนี้ของพวกเขาย่อมไม่ได้รับคำตอบอยู่แล้ว

เพราะหลังจากที่หลินหยุนกับซิงเฟยเข้าไปยังทางเข้าพร้อมกับสองเยว่และคนอื่นๆ พวกเขาก็เดินไปไกลแล้ว

และหากจะพูดถึงคนอีกคนที่ตกตะลึงมากที่สุด

จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอิ้งเยว่

ตอนที่อยู่ตรงหน้าทางเข้า เมื่อยามที่เธอเห็นหลินหยุนและซิงเฟยในแวบแรก ภายในใจก็พลันขึ้นๆลงๆประหนึ่งคลื่นพายุที่โหมกระหน่ำ

ยิ่งตอนที่หลินหยุนเดินมา ก็รู้สึกประหม่าจนใจแทบหยุดเต้น

เธอนึกแม้กระทั่งว่าหลินหยุนจะปะทะกับซือจุนของเธอ

เธอคิดมาตลอด ว่าถ้าหลินหยุนปะทะกับซือจุนของเธอขึ้นมาจริงๆ งั้นเธอก็ต้องปริปากอ้อนวอนแน่ ๆ

อย่างไรก็ตามแต่

ก็ไม่อาจให้ซือจุนลงมือกับผู้มีพระคุณของตัวเองได้

ทว่า สิ่งที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงเลยก็คือ

เรื่องราวไม่เพียงแค่ไม่เป็นไปตามที่เธอกังวล กลับกันยังเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม

ซือจุนปฏิบัติตัวให้เกียรติและให้ความเคารพกับคนผู้นี้

ประหนึ่งว่าได้นัดแนะกับผู้มีพระคุณคนนี้ของเธอมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ซ้ำยังพาอีกฝ่ายเข้ามาข้างในอย่างง่ายดาย

หรือว่าซือจุนของเธอ จะรู้จักกับคนคนนี้ตั้งนานแล้วงั้นหรือ?

นอกจากที่ว่ามานี้ ก็ไม่มีคำอธิบายอื่นใดอีกแล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์