นิ่งโม่ไปแล้ว
มองแผ่นหลังของเขาที่จากไป
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างรู้สึกคาดไม่ถึง
แต่ละคนล้วนแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ
รวมทั้งหลินหยุนและซิงเฟย หรือแม้แต่โจวฮ่าวก็รู้สึกไม่ต่างกัน
โดยเฉพาะโจวฮ่าว ที่ตอนแรกเขาคิดว่าจะเกิดการปะทะกันขึ้นมากันแล้วจริงๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้
หลินหยุนเองก็คาดไม่ถึงว่าจะจบลงเช่นนี้
สายตาที่จดจ้องไปยังลู่หยู่พลันเผยแววเหนือความคาดหมายเล็กน้อย
ลู่หยู่เองก็ดูสถานการณ์ตรงหน้าออก พลางเหลือบมองหลินหยุนแวบเดียวด้วยเช่นกัน
จากนั้นก็กวาดสายตามองผู้คนโดยรอบ ก่อนจะเอ่ยเสียงกังวานว่า “งานประลองยุทธเก้าสำนัก คืองานอันทรงเกียรติที่หนึ่งแห่งโลกคุนชาง ดังนั้นย่อมต้องการผู้คนจากทั่วมุมทิศของโลกคุนชางมาเข้าร่วมพิธี ณ ที่นี่!”
“เพียงแต่ ทุกท่านเองน่าจะรู้ดี”
“แม้จะมีกฎกำหนดว่าต้องใช้น้ำชี่ทิพย์มาแลกชำระแผ่นหยกแสดงตัวตน แต่แท้จริงแล้วนี่ก็เป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้ในการคัดเลือกคนเท่านั้น!”
“เก้าสำนักเองก็จะไม่ถือตัวเป็นใหญ่ ไปกดทับผู้ใดทั้งสิ้น!”
“ไม่เช่นนั้น เรายังจะเป็นหัวหอกแห่งโลกคุนชางได้อย่างไรกัน?”
“เมื่อกี้ที่สหายนิ่งโม่ลงมือโจมตี หนึ่งในเหตุผลก็เพราะเกี่ยวพันกับเรื่องบางอย่าง”
“ฉะนั้นหวังว่าทุกท่านโปรดอย่าได้ถือสา!”
“เอาล่ะ แจกแผ่นหยกแสดงตัวตนต่อได้!”
พูดเสร็จ เขาไม่ได้มองไปที่หลินหยุนต่อ กลับหมุนตัวกลับไปยังศาลานั่นอีกครั้งกับคนอื่นๆ
คนอื่นๆที่เหลือ ต่างมองหลินหยุนแวบหนึ่งแล้วจึงจะเดินตามไป
หลินหยุนพาซิงเฟยเดินออกจากแถว
ทว่า ก็ไม่มีใครเข้ามาซื้อเครื่องรางทิพย์ชั้นสูงสองชิ้นนี้กับพวกเขาอีก
แม้ว่าเรื่องจะไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่ก็ไม่นับว่าเล็กน้อยแน่นอน
คนที่อยู่ที่นี่ ต่างไม่ใช่คนโง่เขลา
นิ่งโม่นั่นทำไมจึงต้องลงมือ?
เหตุผลก็คงไม่พ้นเพราะต้องใจเครื่องรางทิพย์ชั้นสูงที่อยู่ในมือหลินหยุนก็เท่านั้น
ตอนนี้ ไม่ว่าจะอยากได้เพียงใด ก็ไม่อาจไปได้แล้ว มีเรื่องบาดหมางกับศิษย์อัจฉริยะแห่งสำนักเต๋าเฉินเซียว ก็ไม่ต่างกับมีเรื่องบาดหมางกับสำนักเต๋าเฉินเซียวเอง
หากนับตามพลังอำนาจที่พวกเขามีอยู่ในมือ สำนักเต๋าเฉินเซียวย่อมไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากล้าดูเบาแน่ ๆ
แต่หากมองดูทั้งโลกคุนชาง
เมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของสำนักเต๋าเฉินเซียวแล้วนั้น แท้จริงแล้วคนเหล่านี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับมดแมลง
ตอนนี้ถ้าพวกเขาไปแลกซื้อเครื่องรางทิพย์กับหลินหยุน ก็ไม่ต่างจากกำลังรนหาที่ตาย
ซิงเฟยเผยสีหน้าไม่สู้ดีนัก หงุดหงิดขุ่นเคืองจนถึงขีดสุด
เธอถลึงตาใส่ไปยังทิศทางของศาลานั่น ก่อนจะละสายตามาถามหลินหยุนว่า “ตอนนี้ควรทำยังไง?”
สถานการณ์ ณ ตอนนี้ บอกตรงๆว่าเริ่มลำบากสำหรับพวกเขาแล้ว
หากไม่เข้าไป ก็ไม่อาจไปยังสุดหล้าทะเลได้
หากเข้าไป ก็เกรงว่านิ่งโม่และสำนักเต๋าเฉินเซียวต้องไม่ยอมรามือเสียแน่
อย่าว่าแต่เข้าไปข้างในเลย
กระทั่งแม้แต่หยุดอยู่ตรงนี้เป็นเวลานาน ก็คงจะเสี่ยงเกิดเรื่องขึ้นเป็นแน่
ครุ่นคิดสักพัก หลินหยุนก็เอ่ยเสียงเบาว่า “หากเราแลกแผ่นหยกแสดงตัวตนกับคนอื่น จะได้หรือเปล่า?”
ซิงเฟยชะงัก “อันนี้ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”
เพราะว่าไม่มีใครคิดจะทำเรื่องแบบนั้น มีที่ไหนที่ตัวเองซื้อแผ่นหยกแสดงตัวตนเสร็จ ก็เอาไปแลกซื้อกับคนอื่นต่อ
ตัวเธอเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบพวกนี้เหมือนกัน
หลินหยุนพยักหน้า เอ่ยว่า “ไม่ต้องรีบร้อน เช่นนั้น ก็รออยู่ที่นี่อีกครู่หนึ่งเถอะ ยังไงก็เข้าไปได้แน่นอน!”
หลินหยุนมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถเข้าไปได้
ซิงเฟยรีบเอ่ยถามทันทีว่า “นายยังมีวิธีอื่นอีกงั้นเหรอ? วิธีอะไร? ถ้าซื้อแผ่นแสดงตัวตนจากคนอื่นไม่ได้จริงๆ พวกฉันก็คงไม่มีทางเข้าไปได้แน่ ๆ!”
บอกตามตรง ว่าซิงเฟยเองก็คาดหวังว่าจะได้เข้าไปร่วมชมงานประลองยุทธเก้าสำนักอยู่เหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...