บทที่ 1408 ความเป็นมาของสำนักอริยสัจ – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1408 ความเป็นมาของสำนักอริยสัจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
"ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถึงแม้สำนักของเราจะไม่ค่อยทำตัวโดดเด่น แต่สำหรับเรื่องบางเรื่อง พวกเราก็แข็งกร้าวและไม่ยอมเหมือนกัน"
"ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของสำนักปฏิบัติธรรมกับเรื่องของสำนักธยานะ อย่างเช่นเรื่องของสำนักจวู้หลิงกับสำนักฉิวซาน"
"และมีเรื่องของสำนักตุ้นโคงด้วย"
"เรื่องเหล่านี้ ถึงแม้ในสายตาของคนส่วนใหญ่ในโลกคุนชาง เรื่องเหล่านี้จะไม่เกี่ยวข้องกับสำนักอริยสัจเลย"
"อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านี้สามารถปิดบังคนส่วนใหญ่ได้ แต่ไม่สามารถปิดบังสำนักอื่นๆได้"
"ฉันกังวลมากๆ พวกเขาไม่ได้คิดอยากจะสังหารหลินชางฉองเหมือนกับพวกเรา"
"ถ้าฉันเป็นพวกเขา ฉันก็คงต้องคิด ให้สำนักของเราหรือสำนักเทียนหยุนไปสู้กับหลินชางฉองจนตายไปข้างหนึ่ง หรือไม่ก็บาดเจ็บสาหัสทั้งสองฝ่าย ถ้าให้ดีที่สุดก็บาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิต สำหรับพวกเขาแล้ว มันเป็นผลลัพธ์ที่ดีมากๆ"
"ดังนั้น อาจารย์อา โอกาสสูงมากๆที่พวกเขาจะมองดูเหตุการณ์เฉยๆ!"
เมื่อชายชราได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูด "ใช่แล้ว ไม่ว่าพวกเราจะเป็นฝ่ายสังหารหลินชางฉอง หรือเปลี่ยนเป็นหลินชางฉองเอาชนะพวกเรา อันที่จริงแล้วสำหรับพวกเขา มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย"
"ส่วนสำนักหยุนเยว่ พวกเขาไม่ค่อยทำตัวโดดเด่นมาโดยตลอด!"
"บางทีตอนนี้ สำนักต่างๆอาจจะเข้าข้างหลินชางฉองมากกว่าเข้าข้างสำนักอริยสัจของเรา!"
เจ้าสำนักอริยสัจพยักหน้าและพูด "อาจารย์อาพูดถูกแล้ว มันน่าจะเป็นอย่างนี้!"
ชายชราถอนหายใจอีกครั้งและพูด "คิดไม่ถึงจริงๆ โลกคุนชางจะปรากฏสุดยอดอัจฉริยะแบบนี้! มันเป็นเพราะความประสงค์ของสวรรค์เหรอ? สวรรค์ไม่ต้องการให้สำนักอริยสัจของเรากลายเป็นเจ้าแห่งโลกคุนชาง?"
เจ้าสำนักอริยสัจก้มหน้า เขาขมวดคิ้วและพูดอย่างหนักแน่น "อาจารย์อา คุณน่าจะรู้ ฉันไม่เชื่อเรื่องโชคชะตา ถ้ามีโชคชะตาจริงๆละก็ สมัยนั้นสำนักของเราก็แทนที่สำนักหยุนเยว่ไม่ได้อยู่แล้ว!"
"คงไม่เจริญรุ่งเรืองจนถึงทุกวันนี้!"
"ตอนนี้สำนักอริยสัจของเราใกล้จะเป็นเจ้าแห่งโลกคุนชางแล้ว พูดได้เลยว่าเหลือแค่ไม่กี่ก้าว และมันก็ใกล้จะสำเร็จแล้ว"
"นี่คือจุดประสงค์ของสวรรค์เหรอ?"
"ฉันไม่เชื่อเรื่องโชคชะตา ฉันเชื่อแค่ตัวเองเท่านั้น!"
"ดังนั้นครั้งนี้ ฉันไม่อยากเอาความหวังทั้งหมดของสำนักเราไปอยู่ในมือของสำนักเหล่านั้น!"
"ฉันจะต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จด้วยมือของฉันเอง!"
เมื่อชายชราได้ยิน สายตาของเขาก็กระตุกทันที เขาหายใจเร็วด้วยความตกใจ เขามองหน้าเจ้าสำนักอริยสัจและพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "เจ้าสาม แกมั่นใจมากๆเหรอว่าตัวเองเตรียมพร้อมแล้ว?"
เจ้าสำนักอริยสัจส่ายหัวและพูดตามตรง "ยังเลย!"
ชายชราขมวดคิ้วทันทีและพูด "ในเมื่อยังไม่ได้เตรียมตัวพร้อม ทำไมแกถึงกล้า……"
เจ้าสำนักอริยสัจพูดทันที "อาจารย์อา ฉันเตรียมตัวมานานแล้ว จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเลย ตอนนี้ไม่เหลือเวลาให้พวกเรารออีกต่อไปแล้ว!"
"เพราะฉันกังวลใจมากๆ ถึงแม้พวกเราจะมีเวลามากกว่านี้ แต่พวกเราคงเตรียมพร้อมได้ยาก!"
"ฉันไม่อยากรออีกแล้ว ไม่อยากเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์!"!"
"ถึงแม้ฉันจะทำไม่สำเร็จ ประสบการณ์ของฉันก็จะเป็นแสงนำทางให้คนรุ่นหลัง!"
"ทำให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ พวกเขาควรเลือกเดินเส้นทางไหน!"
"ไม่อยากจะเหมือนตอนนี้ เพราะเส้นทางข้างหน้ามีแต่ความมืดมน!"
"ดังนั้น ฉันหวังว่าอาจารย์อาจะยอมรับปาก!"
"มีอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าฉันล้มเหลว อาจารย์อาปิดสำนักทันทีและล้มเลิกเรื่องที่จะเป็นเจ้าแห่งโลกคุนชาง!"
"ถ้าสำนักยังอยู่ ในอนาคตข้างหน้า สำนักของเราก็จะมีโอกาสกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง!"
ชายชราก้มหน้าทันที ดูเหมือนจิตใจของเขากำลังลังเลอยู่ เขามองไปที่เจ้าสำนักอริยสัจและพูด "เจ้าสาม แกเป็นสุดยอดอัจฉริยะ แกแน่ใจ……จริงๆเหรอว่าจะเลือกเส้นทางนี้?"
"มันเป็นเส้นทางที่มีแต่ความตายและไม่มีทางรอด!"
เจ้าสำนักอริยสัจหายใจเข้าลึกๆและพูด "อาจารย์อา ฉันคิดมาดีแล้ว ถ้าทำสำเร็จ โลกคุนชางก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก สำนักอริยสัจของเราจะกลายเป็นเจ้าแห่งโลกคุนชางที่ไม่มีใครสามารถต่อกร!"
"และเหตุการณ์ตอนนี้ก็ไม่มีเวลาให้ฉันลังเลอีกแล้ว!"
"ฉันตั้งใจจะเลือกเดินเส้นทางนี้!"
สีหน้าของชายชราเคร่งขรึมมากๆ เขาพยักหน้าและพูด "ได้ ในเมื่อแกตัดสินใจแล้ว ถ้างั้นก็ไปทำเลย! อาจารย์อาจะรอแกอยู่ตรงนี้ รอแกทำสำเร็จและเดินออกมา!"
เจ้าสำนักอริยสัจโค้งคำนับทันทีและพูด "อาจารย์อา เรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกคงต้องรบกวนท่านแล้ว!"
เมื่อพูดจบ เจ้าสำนักอริยสัจก็เดินไปข้างหน้าทันที
เขาเดินตามลำธารและเดินไปข้างหน้า
เป็นตัวนำพาโลหิต
แต่ไม่มีใครสามารถทำสำเร็จเลย
หลังจากเจ้าสำนักทุกคนเข้าไปแล้ว พวกเขาก็ไม่เคยรอดกลับมาอีก
เขาในเวลานี้ ไม่มีบุตรอริยสัจตามไปด้วย และเขาก็ยังไม่ได้แก่จนใกล้ตายด้วย
แต่เขาก็มาถึงที่นี่
เพื่อเลือกเส้นทางสุดท้ายของเจ้าสำนักรุ่นต่างๆเคยเดิน
เจ้าสำนักรุ่นก่อน มีตัวนำพาโลหิตมาด้วย แต่ก็ทำไม่สำเร็จ แต่เขาได้สูญเสียตัวนำพาโลหิตไปแล้ว เพราะตัวนำพาโลหิตของเขาโดนหลินชางฉองสังหารไปแล้ว!
บางทีเขาอาจจะไม่มีโอกาสสำเร็จเลย
แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องเลือกเส้นทางนี้
เขายืนอยู่หน้าประตูและมองเข้าไปในวิมาน อักษรอริยสัจที่เก่าแก่มากๆ ราวกับว่ามันมีความพิเศษบางอย่างอยู่
เจ้าสำนักอริยสัจหายใจเข้าลึกๆและเดินเข้ามา จากนั้นก็ผลักประตูและเดินเข้าไป……
……
ส่วนอีกด้านหนึ่ง เจ้าสำนักเทียนหยุนได้หนีกลับมาที่สำนักตัวเอง
รองเจ้าสำนักที่บาดเจ็บสาหัสก็ตามมาทีหลัง
การไปสำนักหยุนเยว่ครั้งนี้ มีเพียงพวกเขาสองคนที่รอดชีวิตกลับมาได้
สำนักเทียนหยุนปิดสำนักทันที!
พวกเขาไม่ได้ลังเลเลย
และพวกเขาก็ประกาศไปทั่วโลกคุนชาง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำนักเทียนหยุนจะปิดสำนักตลอดไป ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายนอกอีก และยกเลิกฐานะหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่ด้วย
สำนักที่ทำเหมือนกับสำนักเทียนหยุน ยังมีสำนักเต๋าเฉินเซียวกับสำนักฉีซาน
สองสำนักใหญ่นี้ ถึงแม้พวกเขาไม่ได้ประกาศยกเลิกฐานะเก้าสำนักใหญ่ แต่พวกเขาเลือกที่จะปิดสำนัก และไม่เข้าร่วมการต่อสู้ของสำนักอริยสัจและสำนักหยุนเยว่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...