สรุปเนื้อหา บทที่ 1454 มาถึงสำนักฉีซาน – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 1454 มาถึงสำนักฉีซาน ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
หลิ่วชินที่ไล่ตามหลินหยุนกับสองเยว่ไม่ทัน ทำให้เขาอารมณ์เสียมากๆ หลังจากนั้นสายตาขอเขาก็เปล่งประกายอีกครั้ง เขาบินกลับไปที่สำนักหยุนเยว่ทันที
ความสัมพันธ์ของหลินหยุนกับสำนักหยุนเยว่ เรื่องนี้ทุกคนต่างรู้ดี
ยังไงซะ ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องกลับมาที่สำนักหยุนเยว่อย่างแน่นอน
ตัวเองรออยู่ด้านนอกของสำนักหยุนเยว่ รอจนพวกเขากลับมา เมื่อก็เห็นหลินหยุนปรากฏตัวอีกครั้ง
ไม่ว่าจะทำยังไง เรื่องไหว้หลินหยุนเป็นอาจารย์ เป็นเรื่องที่จำเป็นและต้องทำให้ได้
ถ้าสามารถคว้าโอกาสครั้งนี้เอาไว้ได้ อนาคตของเขาก็จะเปลี่ยนแปลงไปทันที มันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
หลินหยุนไม่ได้สนใจหลิ่วชินอยู่แล้ว หลังจากออกจากสำนักหยุนเยว่ได้ครึ่งวัน หลินหยุนกับสองเยว่ก็หาพื้นที่ที่ไม่มีคน พวกเขาสร้างวิมานอันหนึ่งขึ้นมา
เมื่อเห็นการกระทำของหลินหยุน สองเยว่ถามด้วยความสงสัย "เจ้าพระคุณ ทำไมคุณต้องทำเรื่องนี้ด้วย?"
หลินหยุนพูด "ถ้ามอบสำนักหยุนเยว่ให้สี่เยว่ ฉันไม่ค่อยวางใจ! ฉันจะกลั่นโอสถบางอย่างให้คุณ คุณเก็บโอสถพวกนี้เอาไว้ในมือ มันคือโอสถที่สามารถเพิ่มพลังอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น"
หลินหยุนกลั่นโอสถไปด้วยและพูดไปด้วย "ถ้ายอดฝีมือแดนยาทองระดับเจ็ดทานโอสถอันนี้เข้าไป เขาจะฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับแปดได้อย่างรวดเร็ว ถ้ายอดฝีมือแดนยาทองระดับแปดทานโอสถอันนี้เข้าไป เขามีโอกาสสูงมากๆที่จะฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับเก้า"
"แต่หลังจากทานโอสถเข้าไปแล้ว มันมีผลข้างเคียงที่ใหญ่มากๆ!"
"คนที่ทานโอสถนี้เข้าไป พลังของเขาจะไม่สามารถเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต!"
"ดังนั้น นี่คือไผ่ตายที่ฉันเหลือไว้ให้คุณ"
"ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง นอกจากโอสถแล้ว ฉันจะบอกเส้นทางที่สามารถออกไปสู่โลกภายนอกให้คุณทราบ คุณต้องคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอกด้วย ถ้ามียอดฝีมือที่สำนักชางฉองไม่สามารถต่อกรได้ คุณก็ช่วยเหลือสำนักชางฉองด้วย"
"แต่จำเอาไว้เรื่องหนึ่ง ถ้าให้ดีที่สุดก็ควรลงมืออย่างลับๆ "
"ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คุณก็ไม่ต้องลงมือช่วย!"
เมื่อสองเยว่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอรีบพยักหน้าทันที
หลินหยุนพูดอีกครั้ง "ถ้ามันจำเป็นจริงๆ คุณก็พาคนของสำนักชางฉองเข้ามาในโลกคุนชางก็ได้"
สองเยว่พูด "เจ้าพระคุณโปรดวางใจ เรื่องเหล่านี้ฉันจำไว้หมดแล้ว!"
หลังจากผ่านไปสี่ชั่วโมง หลินหยุนก็กลั่นโอสถจนเสร็จ
หลินหยุนในตอนนี้ ไม่ขาดแคลนสมุนไพรในการกลั่นโอสถอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ตอนที่ออกจากสำนักอริยสัจ ถึงแม้เขาไม่ได้สมบัติล้ำค่าที่สามารถนำมาสร้างยาทองระดับเทพได้ แต่สมุนไพรที่นำมากลั่นโอสถนั้น เขาได้มาจำนวนมาก
เขานำโอสถสิบเม็ดให้สองเยว่ และบอกตำแหน่งของโลกภายนอกให้สองเยว่รับรู้ หลังจากนั้นพวกเขาสองคนก็ออกจากวิมาน และตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือทันที
ขณะบินอยู่ สองเยว่ถามขึ้นมา "เจ้าพระคุณ พวกเราใกล้จะถึงสำนักฉีซานแล้ว พวกเราจะไปสำนักฉีซานก่อนใช่ไหม "
หลินหยุนพยักหน้า "โอเค ยังไงก็ต้องไปอยู่แล้ว!"
สองเยว่พูด "เจ้าพระคุณ ก่อนหน้านี้สำนักเทียนหยุนได้ปิดสำนักแล้ว สำนักฉีซานก็ปิดสำนักตามทันที ตอนนี้ถ้าพวกเราไปถึงก็คงไม่ได้พบหน้าพวกเขาอย่างแน่นอน!"
หลินหยุนพูดเบาๆ "ไม่เป็นไร ถ้าพวกเขายืนกรานที่จะไม่ออกมา ฉันก็จะทำลายค่ายกลของสำนักทันที!"
"ฉันเชื่อว่าพวกเขาคงไม่ได้คิดว่าการปิดสำนักตัวเอง จะทำให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ง่ายๆอยู่แล้ว?"
"ถ้าพวกเขาคิดอย่างนั้นจริงๆ พวกเขาก็ไร้เดียงสามากเกินไปแล้ว!"
สำนักฉีซานกับสำนักเทียนหยุน พวกเขาคือกำลังหลักในการโจมตีสำนักหยุนเยว่
ถือได้ว่าพวกเขาออกแรงในการโจมตีสำนักหยุนเยว่มากที่สุดและอยู่สามอันดับแรกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังไม่ได้สังหารมู่หงเลย
แค่ทำตัวเหมือนเต่าหดหัวก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเหรอ?
แน่นอนว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นอยู่แล้ว !
ผู้อาวุโสปิงหลินมองไปที่เจ้าสำนักฉีซานและพูดอย่างเคร่งขรึม "ศิษย์พี่เจ้าสำนัก ในที่สุดหลินชางฉองก็มาแล้ว ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดี? ถ้าพวกเราไม่ยอมเปิดสำนัก เขา……เขาจะฆ่าล้างสำนักของเราจริงๆเหรอ?"
เมื่อเธอพูดจบ มีผู้อาวุโสคนหนึ่งเปล่งเสียงไม่พอใจออกมาและพูด "หลินชางฉองมาแล้วจะทำอะไรพวกเราได้เหรอ? ตอนนี้สำนักฉีซานของพวกเรายังแข็งแกร่งอยู่ พวกเขามีแค่สองคนก็คิดที่จะฆ่าล้างสำนักฉีซานของพวกเราเหรอ? มันเป็นเรื่องที่ตลกมากๆ!"
"พวกคุณต่างพูดว่าหลินชางฉองคือเทพสังหารและมีพลังที่น่ากลัวมากๆ!"
"แต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นอยู่แล้ว!"
"เขาเป็นเพียงแค่เด็กเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น!"
"เขาจะฆ่าล้างสำนักของเราได้จริงๆเหรอ?"
"ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสปิงหลินกับสำนักอื่นๆโจมตีสำนักหยุนเยว่ ฉันคิดว่าสำนักเหล่านั้นไม่ได้คิดที่จะฆ่าล้างสำนักหยุนเยว่อยู่แล้ว พวกเขาแค่อยากรู้ความแข็งแกร่งของสำนักหยุนเยว่เท่านั้น!"
"ถ้าพวกเขาสู้ตายจริงๆ สำนักหยุนเยว่คงโดนฆ่าล้างสำนักไปนานแล้ว!"
สำหรับคำพูดของผู้เฒ่า ทำให้ทุกคนที่อยู่ในตำหนักใหญ่มองไปที่เขาทันที
ปิงหลินพูดอย่างเย็นชา "ผู้อาวุโสเสวียน คุณไม่ได้เข้าร่วมการโจมตีสำนักหยุนเยว่ครั้งนี้ ดังนั้นคุณก็เลยดูถูกหลินหยุน เรื่องนี้ฉันพอจะเข้าใจ แต่ฉันก็อยากจะพูดเหมือนกัน ถ้าผู้อาวุโสเสวียนต้องเผชิญหน้ากับเจ้าสำนักอริยสัจและเจ้าสำนักเทียนหยุนที่เป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้าพร้อมกัน คุณคิดว่าคุณสามารถสู้กับพวกเขาสองคนและเอาชนะอีกฝ่ายได้เหรอ?"
เมื่อผู้อาวุโสเสวียนได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็หัวเราะออกมาทันทีและพูดอย่างดูถูก "ฉันทำไม่ได้อยู่แล้ว แต่หลินชางฉองคนนั้นน่าจะเป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้าจริงๆ อย่างไรก็ตามใครก็ไม่สามารถตอบได้จริงๆว่าเจ้าสำนักอริยสัจหรือเจ้าสำนักเทียนหยุน พวกเขาสองคนมีความคิดที่จะสังหารหลินชางฉองจริงๆหรือเปล่า?"
"ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง พวกเขาพ่ายแพ้จริงๆ!"
"แต่พวกเขาสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเปล่า?"
"ฉันพูดแบบนี้ก็แล้วกัน ถ้าเจ้าสำนักเทียนหยุน ต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้าสองคนพร้อมกัน ถ้าเขาคิดที่จะสู้ตาย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้คิดจะสู้ตาย คุณลองพูดมาสิ เขาจะทำได้หรือเปล่า?"
"ฮ่าๆๆๆ ฉันคิดว่าทุกคนมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว?"
"ดังนั้นหลินชางฉองไม่ได้เป็นคนที่น่ากลัวเลย!"
"ไม่ต้องพูดถึงสำนักฉีซานของเรายังมีค่ายกลฮู่ซานเลย ถึงแม้พวกเราไม่ใช้ค่ายกลมาช่วยในการต่อสู้ เมื่อพวกเราทุกคนยอมสู้ตาย การสังหารหลินชางฉองก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...