หลิ่วชินที่ไล่ตามหลินหยุนกับสองเยว่ไม่ทัน ทำให้เขาอารมณ์เสียมากๆ หลังจากนั้นสายตาขอเขาก็เปล่งประกายอีกครั้ง เขาบินกลับไปที่สำนักหยุนเยว่ทันที
ความสัมพันธ์ของหลินหยุนกับสำนักหยุนเยว่ เรื่องนี้ทุกคนต่างรู้ดี
ยังไงซะ ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องกลับมาที่สำนักหยุนเยว่อย่างแน่นอน
ตัวเองรออยู่ด้านนอกของสำนักหยุนเยว่ รอจนพวกเขากลับมา เมื่อก็เห็นหลินหยุนปรากฏตัวอีกครั้ง
ไม่ว่าจะทำยังไง เรื่องไหว้หลินหยุนเป็นอาจารย์ เป็นเรื่องที่จำเป็นและต้องทำให้ได้
ถ้าสามารถคว้าโอกาสครั้งนี้เอาไว้ได้ อนาคตของเขาก็จะเปลี่ยนแปลงไปทันที มันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
หลินหยุนไม่ได้สนใจหลิ่วชินอยู่แล้ว หลังจากออกจากสำนักหยุนเยว่ได้ครึ่งวัน หลินหยุนกับสองเยว่ก็หาพื้นที่ที่ไม่มีคน พวกเขาสร้างวิมานอันหนึ่งขึ้นมา
เมื่อเห็นการกระทำของหลินหยุน สองเยว่ถามด้วยความสงสัย "เจ้าพระคุณ ทำไมคุณต้องทำเรื่องนี้ด้วย?"
หลินหยุนพูด "ถ้ามอบสำนักหยุนเยว่ให้สี่เยว่ ฉันไม่ค่อยวางใจ! ฉันจะกลั่นโอสถบางอย่างให้คุณ คุณเก็บโอสถพวกนี้เอาไว้ในมือ มันคือโอสถที่สามารถเพิ่มพลังอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น"
หลินหยุนกลั่นโอสถไปด้วยและพูดไปด้วย "ถ้ายอดฝีมือแดนยาทองระดับเจ็ดทานโอสถอันนี้เข้าไป เขาจะฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับแปดได้อย่างรวดเร็ว ถ้ายอดฝีมือแดนยาทองระดับแปดทานโอสถอันนี้เข้าไป เขามีโอกาสสูงมากๆที่จะฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับเก้า"
"แต่หลังจากทานโอสถเข้าไปแล้ว มันมีผลข้างเคียงที่ใหญ่มากๆ!"
"คนที่ทานโอสถนี้เข้าไป พลังของเขาจะไม่สามารถเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต!"
"ดังนั้น นี่คือไผ่ตายที่ฉันเหลือไว้ให้คุณ"
"ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง นอกจากโอสถแล้ว ฉันจะบอกเส้นทางที่สามารถออกไปสู่โลกภายนอกให้คุณทราบ คุณต้องคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอกด้วย ถ้ามียอดฝีมือที่สำนักชางฉองไม่สามารถต่อกรได้ คุณก็ช่วยเหลือสำนักชางฉองด้วย"
"แต่จำเอาไว้เรื่องหนึ่ง ถ้าให้ดีที่สุดก็ควรลงมืออย่างลับๆ "
"ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คุณก็ไม่ต้องลงมือช่วย!"
เมื่อสองเยว่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอรีบพยักหน้าทันที
หลินหยุนพูดอีกครั้ง "ถ้ามันจำเป็นจริงๆ คุณก็พาคนของสำนักชางฉองเข้ามาในโลกคุนชางก็ได้"
สองเยว่พูด "เจ้าพระคุณโปรดวางใจ เรื่องเหล่านี้ฉันจำไว้หมดแล้ว!"
หลังจากผ่านไปสี่ชั่วโมง หลินหยุนก็กลั่นโอสถจนเสร็จ
หลินหยุนในตอนนี้ ไม่ขาดแคลนสมุนไพรในการกลั่นโอสถอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ตอนที่ออกจากสำนักอริยสัจ ถึงแม้เขาไม่ได้สมบัติล้ำค่าที่สามารถนำมาสร้างยาทองระดับเทพได้ แต่สมุนไพรที่นำมากลั่นโอสถนั้น เขาได้มาจำนวนมาก
เขานำโอสถสิบเม็ดให้สองเยว่ และบอกตำแหน่งของโลกภายนอกให้สองเยว่รับรู้ หลังจากนั้นพวกเขาสองคนก็ออกจากวิมาน และตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือทันที
ขณะบินอยู่ สองเยว่ถามขึ้นมา "เจ้าพระคุณ พวกเราใกล้จะถึงสำนักฉีซานแล้ว พวกเราจะไปสำนักฉีซานก่อนใช่ไหม "
หลินหยุนพยักหน้า "โอเค ยังไงก็ต้องไปอยู่แล้ว!"
สองเยว่พูด "เจ้าพระคุณ ก่อนหน้านี้สำนักเทียนหยุนได้ปิดสำนักแล้ว สำนักฉีซานก็ปิดสำนักตามทันที ตอนนี้ถ้าพวกเราไปถึงก็คงไม่ได้พบหน้าพวกเขาอย่างแน่นอน!"
หลินหยุนพูดเบาๆ "ไม่เป็นไร ถ้าพวกเขายืนกรานที่จะไม่ออกมา ฉันก็จะทำลายค่ายกลของสำนักทันที!"
"ฉันเชื่อว่าพวกเขาคงไม่ได้คิดว่าการปิดสำนักตัวเอง จะทำให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ง่ายๆอยู่แล้ว?"
"ถ้าพวกเขาคิดอย่างนั้นจริงๆ พวกเขาก็ไร้เดียงสามากเกินไปแล้ว!"
สำนักฉีซานกับสำนักเทียนหยุน พวกเขาคือกำลังหลักในการโจมตีสำนักหยุนเยว่
ถือได้ว่าพวกเขาออกแรงในการโจมตีสำนักหยุนเยว่มากที่สุดและอยู่สามอันดับแรกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังไม่ได้สังหารมู่หงเลย
แค่ทำตัวเหมือนเต่าหดหัวก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเหรอ?
แน่นอนว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นอยู่แล้ว !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...