คำพูดของหลินหยุน ไม่เพียงทำให้สี่เยว่ตกตะลึง แม้แต่สองเยว่ก็คาดคิดไม่ถึงจริงๆ
การที่หลินหยุนให้สี่เยว่กลับมาครั้งนี้ เพราะเขามีความคิดแบบนี้นี่เอง
อย่างไรก็ตาม สองเยว่ไม่ได้รีบร้อนที่จะเอ่ยปากพูด
เพราะตัวเธอเองก็รู้ตัวดี อันที่จริงหลินหยุนพูดได้ไม่ผิดเลย
ถ้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับสี่เยว่ พวกเธอต่างไม่เหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าสำนัก และไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้บริหารของสำนักหยุนเยว่
ถ้าต้องเลือกระหว่างพวกเธอสองคน สี่เยว่เหมาะสมมากกว่าเธอจริงๆ
แน่นอนว่าหลินหยุนยังคงพูดต่อ "พวกเธอก็ไม่ต้องคิดมาก ถ้าอยู่ในช่วงเวลาปกติ สถานการณ์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง สองเยว่เหมาะที่จะเป็นเจ้าสำนักมากกว่า"
"ถ้าพวกเธอตั้งใจช่วยเหลือสองเยว่อย่างเต็มที่ สองเยว่สามารถรักษาสำนักหยุนเยว่เอาไว้ได้"
"เพียงแต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว!"
"ตอนนี้ทั่วทั้งโลกคุนชางกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่"
"ตอนนี้ต้องการให้สำนักหยุนเยว่แข็งแกร่งมากๆขึ้น และกลายเป็นเจ้าแห่งโลกคุนชาง"
"ถ้าทำได้ พวกเราถึงสามารถเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"
"ดังนั้นในเวลานี้ สี่เยว่เหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าสำนักมากกว่า"
สายตาของหลินหยุนมองไปที่สี่เยว่และพูดอย่างเคร่งขรึม "ตอนนี้ คุณบอกฉันมาตามตรง คุณสามารถทำได้หรือเปล่า?"
สี่เยว่หายใจเข้าลึกๆ เธอเงยหน้าขึ้นมาและพูดกับหลินหยุนด้วยสายตาที่แน่วแน่ "ฉันทำได้! ถ้าทำทุกอย่างตามความคิดของฉัน ไม่มีใครมาแทรกแซง ฉันสามารถทำได้อยู่แล้ว!"
นี่คือความมั่นใจของเธอ
ในมุมมองของเธอ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เธออยากจะทำแต่กลับทำไม่ได้
เพราะเธอไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของสองเยว่ และเธอไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่
ดังนั้นเธอจึงไม่พอใจสองเยว่มากๆ
ในความคิดของเธอ การที่สำนักหยุนเยว่อ่อนแอลง เพราะหยวนเยว่จากไปและเสียชีวิตด้วย
มิฉะนั้น ตอนนี้สำนักหยุนเยว่ก็คงไม่เป็นแบบนี้อยู่แล้ว
ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ แต่ถ้าสองเยว่ทำได้ดีกว่านี้ ก็คงไม่ทำให้สำนักหยุนเยว่ตกต่ำขนาดนี้
ดังนั้นเธอก็เลยอยากจะแย่งอำนาจมาจากสองเยว่
หลินหยุนพยักหน้าและพูด "พวกคุณเป็นผู้อาวุโสของสำนักหยุนเยว่ และเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆของโลกคุนชาง ช่วงนี้พวกคุณก็น่าจะสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกคุนชาง"
"นี่ไม่ใช่แค่พลังชี่ทิพย์ค่อยๆเพิ่มขึ้นเท่านั้น"
"ฉันกำลังคิดอยู่เลย ถ้าพลังชี่ทิพย์เพิ่มขึ้นมาจนถึงระดับหนึ่งแล้ว น่าจะมียอดฝีมือแดนจิตปฐมปรากฏตัวต่อเนื่องอย่างแน่นอน"
"แน่นอน เมื่อถึงตอนนี้ก็คงยังมีเวลาอีกนานพอสมควร"
"อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาอีกหลายร้อยปีจนไปถึงพันปี"
"บางทีมันอาจจะมาถึงเร็วกว่านั้นก็ได้"
"สิ่งที่ฉันอยากจะบอกพวกเธอก็คือ"
"ในอนาคตข้างหน้า ค่ายกลที่ปิดผนึกโลกคุนชางไว้ อาจจะเปิดออกก็ได้"
"เมื่อค่ายกลปิดผนึกถูกเปิดออก โลกคุนชางกับโลกภายนอกก็จะรวมตัวกัน"
"โลกคุนชางก็จะหายไปเลย"
เมื่อได้ยินหลินหยุนพูดถึงเรื่องนี้ สองคนตกตะลึงอีกครั้ง เพราะนี่คือครั้งแรกที่พวกเธอได้ยินเรื่องของโลกภายนอก
โลกคุนชางเป็นเพียงแค่โลกอันเล็กๆ ที่ถูกปิดผนึกเอาไว้และติดต่อกับโลกภายนอกไม่ได้
พวกเธอก็เหมือนสัตว์เลี้ยงที่ถูกเลี้ยงไว้ในที่แคบๆ
ตั้งแต่โบราณกาลจนถึงตอนนี้ อันที่จริงนักบำเพ็ญเซียนทุกคนก็เกิดความสงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน
เพราะไม่รู้เลยว่าด้านนอกของโลกคุนชางเป็นยังไงกันแน่
โลกภายนอกกับโลกคุนชาง มันแตกต่างกันตรงไหนกันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...