บทที่ 1468 แตกคอกัน – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1468 แตกคอกัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
นี่คือคฤหาสน์ที่ถูกแบ่งเป็นสามชั้น สองชั้นแรกเป็นด้านนอก สองข้างประตูเต็มแปลงดอกไม้
ในแปลงดอกไม้เต็มไปด้วยหญ้าทิพย์ต่างๆ แต่หญ้าทิพย์นั้นมีระดับที่ต่ำมากๆ และไม่ใช่ของหายากเลย
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าของคฤหาสน์ในสมัยนั้น ปลูกหญ้าทิพย์เหล้านี้ เขาไม่ได้เอาหญ้าทิพย์มาใช้ประโยชน์ เขาปลูกเพื่อการชื่นชมเท่านั้น และหญ้าทิพย์ที่อยู่ในสวนดอกไม้ มันก็เริ่มเหี่ยวเฉาแล้ว
เนื่องจากขาดแคลนพลังชี่ทิพย์จึงทำให้มันเหี่ยวเฉา
ทุกคนต่างพุ่งไปข้างหน้าทันที แต่หลินหยุนไม่ได้ใจร้อน สายตาของเขามองไปที่แปลงดอกไม้ทันที
ด้านในสมอง เจียซินเอ่ยปากพูด "เจ้าของคฤหาสน์น่าเป็นยอดฝีมือที่อยู่เหนือแดนจิตปฐม เพราะการออกแบบและตกแต่งของคฤหาสน์นี้ ยอดฝีมือแดนจิตปฐมทำไม่ได้อยู่แล้ว!"
"คนเหล่านั้นไม่มีสมอง พยายามเข้าไปด้านในให้ได้ นึกว่าคนที่เข้าไปคนแรกจะได้สมบัติล้ำค่ามาครอบครองเหรอ มันดูตลกสิ้นดี!"
"ถ้ามันง่ายขนาดนั้น คฤหาสน์นี้ก็คงอยู่ไม่ถึงตอนนี้หรอก!"
"คุณต้องระมัดระวังตัวให้มากๆ"
หลินหยุนพยักหน้า และมองดูแปลงดอกไม้ที่อยู่สองฝั่งของประตู ผ่านไปสักพัก เขาส่ายหัวเบาๆและเดินเข้าไปด้านในทันที
แปลงดอกไม้นี้มีความประหลาดอยู่ การปลูกหญ้าทิพย์กับการปลูกผักนั้นเหมือนกันเลย แต่มันจะยากกว่าปลูกผักมากๆอยู่แล้ว เพราะมีปัจจัยหลายๆอย่าง
ถึงแม้แปลงดอกไม้พวกนี้จะดูรกร้าง แต่มันกลับเป็นระเบียบมากๆ เมื่อหลินหยุนใช้มือไปจับดินที่อยู่ในแปลงดอกไม้ ดินนั้นมีความนิ่มและชุ่มไปด้วยน้ำ
พูดกันตามตรง สถานที่แห่งนี้ไม่มีใครมารดน้ำมาตั้งนานแล้ว
แต่ในดินยังมีความชุ่มอยู่ เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมากๆ และเขาใช้พลังจิตออกไปตรวจสอบด้านล่างของแปลงดอกไม้ แต่เขากลับไม่พบอะไรเลย
โดยปกติแล้ว ด้านบนมีต้นหญ้าเต็มไปหมด และมันน่าจะดูรกมากๆต่างหาก แต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย
ถึงแม้หลินหยุนจะรู้สึกสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากนัก เพราะมันเป็นแค่แปลงดอกไม้สำหรับชื่นชมเท่านั้น มันไม่คุ้มที่เขาจะไปเสียเวลามากกว่านี้
ชั้นที่สองนั้นก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก เพียงแต่ในแปลงดอกไม้มีพื้นที่ว่างๆอยู่ ด้านบนมีโต๊ะหินแปดเหลี่ยมและมีเก้าอี้หินอยู่สองตัว
หลินหยุนมองไปครั้งหนึ่ง เขาเห็นด้านขวาของชั้นที่สองมีบ้านเตี้ยๆอยู่สองหลัง
ด้านในมีกลิ่นอ่อนๆของโอสถโชยออกมา
หลินหยุนเดินเข้าไป และยืนอยู่ด้านนอกแล้วมองชั่วครู่ ด้านในนอกจากชั้นวางของสองข้างแล้ว ไม่มีสิ่งของอะไรเหลืออยู่เลย
ด้านบนของชั้นวางของเต็มไปด้วยฝุ่น สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ตรงนี้น่าจะเป็นสถานที่เก็บสมุนไพรทิพย์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเวลาผ่านมานานมากๆ ทำให้สมุนไพรเน่าเสียไปจนหมดแล้ว
หลินหยุนส่ายหัวเบาๆและเดินจากไปทันที
ในขณะที่หลินหยุนกำลังจะเดินเข้าไปด้านใน เขาก็ได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากตำหนักใหญ่ จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนด้วยความโกรธของคุณชายจินเอี้ยน
"จูหยู่ สมบัติชิ้นนี้ ฉันเป็นคนพบมันเป็นคนแรก มันต้องเป็นของฉัน!"
"คุณกล้าลงมือแย่งสมบัติกับฉันเหรอ?"
"คุณไม่คู่ควรครอบครองสมบัติชิ้นนี้!"
"คุณไม่กลัวว่าครอบครองมันแล้วต้องเสียชีวิตเหรอ?"
"ฉันรู้ว่าคุณแข็งแกร่งกว่าฉันนิดหน่อย แต่คุณก็ต้องคิดถึงผลที่จะตามมาด้วย!"
"ถ้าคุณล่วงเกินผิดใจกับฉัน เมื่อออกจากสถานที่แห่งนี้แล้ว ถึงแม้แคว้นน้ำแดงจะใหญ่มากๆ แต่คุณก็ไม่มีทางหลบซ่อนได้อย่างแน่นอน! สุดท้ายแล้วอาจจะทำให้สำนักกระบี่จริงใจต้องมาเดือดร้อนด้วย!"
จูหยู่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ "คุณชายจินเอี้ยน ฉันไม่เห็นด้วยกับคำพูดของคุณ ตอนที่ฉันมาถึงตรงนี้ คุณยังมองไม่เห็นสมบัติชิ้นนี้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดว่ามันเป็นของคุณเลย? พวกเราต่างใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อแย่งชิงมัน เรื่องนี้พวกเราก็คุยกันก่อนหน้านี้แล้ว ในเมื่อสมบัติชิ้นนี้ไม่มีเจ้าของ ทำไมฉันจะลงมือแย่งมันไม่ได้ละ?"
"คุณชายจินเอี้ยนจะใช้สำนักของตัวเองมากดดันฉันเหรอ ถ้าพูดออกไปทุกคนก็คงหัวเราะเยาะเย้ยคุณอย่างแน่นอน?"
"มีอีกเรื่องหนึ่ง พวกเราเดินทางมาด้วยกัน คุณชายจินเอี้ยนไม่ได้ออกแรงช่วยเหลือพวกเราเลย!"
หลินหยุนพยักหน้า ยอดฝีมือที่สร้างคฤหาสน์คนนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน
ส่วนอีกด้านหนึ่ง จูหยู่กับคุณชายจินเอี้ยนยังทะเลาะกันอยู่ เพราะใครก็ไม่อยากยกสมบัติล้ำค่าให้อีกฝ่าย
ลู่ซานพูด "สหายทั้งสองคน ฉันคิดว่าพวกคุณควรพูดจากันดีๆ! พวกเราทุกคนก็อยากจะได้สมบัติล้ำค่า ทุกคนต่างเป็นคนที่มีฐานะสูงศักดิ์ อย่าทะเลาะกันแบบนี้เลย"
เมื่อคุณชายจินเอี้ยนได้ยิน เขาก็หัวเราะอย่างเย็นชา "ลู่ซาน คุณไม่จำเป็นต้องมาตัวเป็นคนดีเลย ฉันรู้ว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจูหยู่ คุณคิดที่จะช่วยเหลือจูหยู่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องนี้!"
"ถ้าพวกคุณสองคนร่วมมือกัน ฉันสู้พวกคุณไม่ได้ แต่พวกคุณคิดว่าฉันจะยอมแพ้ง่ายๆเหรอ?"
"ถ้าแน่จริง พวกคุณสองคนก็ลงมือต่อสู้กับฉันตอนนี้เลย!"
"ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเมื่อออกจากสถานที่แห่งนี้ พวกคุณยังจะมีชีวิตรอดอยู่หรือเปล่า!"
ขณะพูด สายตาของคุณชายจินเอี้ยนก็มองไปที่จื่อหยุนทันที "นางฟ้าจื่อหยุนน่าจะไม่ร่วมมือกับพวกเขาสองคนใช่ไหม? พวกเขาเป็นคนยังไง ฉันคิดว่านางฟ้าจื่อหยุนน่าจะรู้ดี"
"ถ้านางฟ้าจื่อหยุนช่วยฉันจนได้สมบัติชิ้นนี้มาครอบครอง เมื่อออกจากสถานที่แห่งนี้ ฉันจะตอบแทนนางฟ้าจื่อหยุนทันที!"
เมื่อมองเห็นลู่ซานกับจูหยู่ยืนอยู่ด้วยกัน ทำให้คุณชายจินเอี้ยนรู้สึกถึงอันตรายทันที เขาก็เลยรีบชวนจื่อหยุนมาอยู่ข้างตัวเองทันที
จื่อหยุนพูด "พวกคุณสองคนไม่ต้องรีบร้อนใจขนาดนี้ก็ได้ มันคือสมบัติอะไรกันแน่ ถึงทำให้พวกคุณสองคนต้องลงมือต่อสู้กัน? พวกคุณเอามันออกมาให้ฉันกับสหายลู่ซานดูก่อนแล้วพวกเราค่อยมาว่ากัน?"
"ฉันคิดว่าถ้าไม่จำเป็นต้องลงมือ ก็ไม่ควรลงมือ!"
"สหายจูหยู่ คุณเห็นด้วยกับความคิดของฉันไหม?"
จูหยู่พูดด้วยสีหน้าเย็นชา "ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน แต่สหายจินเอี้ยนไม่ได้คิดแบบนี้ ฉันก็จนปัญญาจริงๆ!"
จูหยู่นิ่งเงียบไปสักพักแล้วพูด "ในเมื่อสหายจื่อหยุนพูดแบบนี้แล้ว งั้นก็ให้ทุกคนดูสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้แล้ว พวกเราค่อยมาว่ากัน!"
เมื่อพูดจบ เขาก็เดินเข้าไปในตำหนักใหญ่ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...