สรุปเนื้อหา บทที่ 1467 หมาเฝ้าประตู – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 1467 หมาเฝ้าประตู ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
"นอกจากวิธีนี้แล้ว น่าจะไม่มีวิธีอื่นๆอีกแล้ว"
"พวกเราต้องลบพลังจิตที่อยู่ด้านใน และทำให้มันกลายเป็นประตูที่ไม่มีเจ้าของ"
"พวกเราใช้พลังจิตของตัวเองค่อยๆลบพลังจิตที่อยู่ในประตูออก เมื่อทำอย่างนี้ก็น่าจะเปิดออกได้!"
จูหยู่พยักหน้าและพูด "โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่ควรเสียเวลาอีก ฉันจะขอลองดูก่อน!"
ขณะพูด พลังจิตของเขาก็ปลดปล่อยออกมาทันที และเข้าไปด้านในของประตูทันที
เขาเป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้า พลังจิตของเขาแข็งแกร่งมากๆ แต่เวลาผ่านไปแค่หนึ่งก้านธูป สีหน้าของเขาก็ขาวซีดทันที
จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึกๆและพูด "เป็นอย่างที่สหายหลินหยุนพูดจริงๆ ตรงนี้มีพลังจิตที่แข็งแกร่งมากๆอยู่"
จูหยู่ถอนหายใจยาวๆและเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากแล้วพูด "พลังจิตอันนี้แข็งแกร่งมากๆ และฉันก็สัมผัสได้ เวลามันผ่านมานานมากๆแล้วและพลังจิตนี้ก็อ่อนแอลงมาเยอะมากๆ!"
"มิฉะนั้น พวกเราคงลบพลังจิตนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน"
"อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเรายังมีโอกาสอยู่ ถ้าพวกเราลงมืออย่างต่อเนื่อง ใช้เวลาสามวันก็คงทำสำเร็จ!"
จื่อหยุนพูด "ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว พวกเราก็อย่าเสียเวลาอีกเลย!"
ขณะพูด เธอก็ปลดปล่อยพลังจิตออกมา และค่อยๆลบพลังจิตที่อยู่ในประตูทันที
แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจื่อหยุนได้เก็บซ่อนพลังของตัวเองเอาไว้บางส่วน
เนื่องจากเธอเคยเจอเรื่องไม่ดีก่อนหน้านี้ ทำให้ทุกคนเข้าใจการกระทำของเธอทันที
ถึงแม้ทุกคนจะมองออก แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรเลย เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป สีหน้าของจื่อหยุนก็ขาวซีดเหมือนกัน
ลู่ซานไม่พูดอะไรเลย เขาลงมือต่อจากเธอทันที เมื่อเวลาผ่านไปอีกหนึ่งก้านธูป ครั้งนี้ถึงหลินหยุนลงมือแล้ว
แน่นอนว่าหลินหยุนไม่ได้ใช้พลังจิตของตัวเองอยู่แล้ว เขาเก็บซ่อนพลังทั้งหมดของตัวเองเอาไว้
พลังจิตของเจียซินค่อยๆลบพลังจิตที่อยู่บนประตูออกทีละนิดๆ
ทำให้พลังจิตที่อยู่ในประตูลดลงทีละนิดๆเหมือนกัน
เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป สีหน้าของหลินหยุนขาวซีดขึ้นมาและเก็บพลังจิตของตัวเองทันที
คนที่ลงมือเป็นคนสุดท้ายคือคุณชายจินเอี้ยน
เขาไม่ได้พูดอะไรมาก และปลดปล่อยพลังจิตทันที
ทุกคนต่างลงมือแค่คนละหนึ่งก้านธูปเท่านั้น เวลานี้ไม่ได้ยาวเกินไปและก็ไม่ได้สั้นจนเกินไป
และไม่ได้สูญเสียพลังจำนวนมากไป เพราะพวกเขายังเหลือพลังบางส่วนเอาไว้
พวกเขาสามารถฟื้นฟู่พลังของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเป็นแบบนี้ถึงสามารถลงมือได้อย่างต่อเนื่อง
เป็นอย่างที่หลินหยุนคาดเอาไว้เลย หลังจากผ่านไปสองวัน พลังจิตที่อยู่ในประตูก็ถูกลบไปสองในสามแล้ว
ความคืบหน้าแบบนี้ ทำให้ทุกคนดีใจทันที แต่ทุกคนก็สูญเสียพลังไปจำนวนมาก
ถึงแม้จะกินโอสถที่ช่วยฟื้นฟูพลังจิตเข้าไป แต่มันก็ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้ว
การสูญเสียต่อเนื่องอย่างนี้ สำหรับทุกคนแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่ยากที่จะแบกรับเหมือนกัน
จูหยู่ถอนหายใจยาวๆและพูด "พวกเราต่างสูญเสียพลังไปมาก ขอเวลาอีกแค่หนึ่งวัน พวกเราก็น่าจะเปิดมันออกได้ ถ้าให้ดีที่สุด ช่วงนี้อย่าเกิดเรื่องไม่คาดคิดเลย!"
ลู่ซานพยักหน้าและพูด "ฉันก็หวังแบบนั้นเหมือนกัน! อย่างไรก็ตาม สองวันที่ผ่านมาก็นิ่งสงบเหมือนกัน มันก็คงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาสุดท้ายอย่างแน่นอน"
วันที่สาม หลังจากเกิดเสียงดังและสั่นสะเทือนขึ้น
พลังจิตที่อยู่ด้านในของประตูหินหมึกเทาก็ถูกลบไปหมดแล้ว เมื่อทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ดีใจมากๆ
จูหยู่พูดด้วยความตื่นเต้นดีใจ "สหายทุกท่าน พลังจิตได้ถูกพวกเราลบไปหมดแล้ว พวกเราเข้าไปพร้อมกันเลย!"
ทุกคนพยักหน้าทันที จากนั้นก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและหายไปจากที่เดิมทันที
คุณชายจินเอี้ยนพูดด้วยความตื่นเต้นดีใจ "มีหุ่นเชิดค่อยเฝ้าที่นี่เอาไว้ มันมีพลังเทียบเท่ายอดฝีมือแดนจิตปฐม สถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน! ทุกคนลงมือพร้อมกันและสังหารหุ่นเชิดให้ได้!"
ขณะพูด ในมือของเขาก็มีแสงสว่างทันที จากนั้นก็มีโซ่สีทองที่ไม่ค่อยยาวนักปรากฏที่มือของเขาทันที
หลังจากนั้นโซ่สีทองก็เปล่งประกายทันที และโจมตีใส่หมาดำตัวใหญ่ทันที
โซ่สีทองอันนี้ ไม่ใช่อาวุธประจำกายของเขา แต่เขาที่มีฐานะสูงศักดิ์ แน่นอนว่าเขาต้องมีอาวุธหลายชิ้นอยู่แล้ว
แต่การใช้อาวุธแบบนี้ ทำให้เขาไม่ค่อยถนัดเท่านั้น
ในเวลานี้ จูหยู่กับลู่ซานและจื่อหยุนก็ลงมือทันที หลินหยุนก็ลงมือด้วยเช่นกัน
หมาดำตัวใหญ่นี้ไม่ธรรมดาเลย ถ้าพวกเขาไม่ได้ร่วมมือกัน คงเอาชนะมันได้ยากมากๆ
ทุกคนลงมือและล้อมโจมตีหมาดำตัวใหญ่ทันที หุ่นเชิดยังไงก็เป็นหุ่นเชิด มันสู้สิ่งมีชีวิตไม่ได้
ถึงแม้พลังของมันจะเทียบเท่ายอดฝีมือแดนจิตปฐม แต่เมื่อถูกทุกคนล้อมโจมตี มันก็ค่อยๆต้านรับไม่ไหวแล้ว
การที่มันเป็นแบบนี้ เพราะมีเหตุผลสำคัญข้อหนึ่ง นั้นก็คือหุ่นเชิดหมาดำตัวใหญ่สูญเสียพลังอย่างรวดเร็ว
เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป พลังของหมาดำตัวใหญ่ก็สูญเสียไปหมดแล้ว
แต่เวลาสั้นๆเพียงแค่หนึ่งก้านธูป แต่มันกลับสร้างแรงกดดันมหาศาลให้ทุกคน
เมื่อเห็นชิ้นส่วนต่างๆที่ตกอยู่บนพื้น จูหยู่ถอนหายใจออกมาและพูด "ถ้าหุ่นเชิดอันนี้ยังมีพลังที่มากพอ บางทีพวกเราอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ได้!"
ทุกคนพยักหน้าทันที อย่างไรก็ตามหลังจากจูหยู่พูดจบ คุณชายจินเอี้ยนก็พุ่งเข้าไปในคฤหาสน์ทันที
เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนขมวดคิ้วทันที
จากนั้นจูหยู่ก็เอ่ยปากพูด "ทุกท่าน ก่อนหน้านี้ฉันก็คาดคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะเป็นแบบนี้ ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ทุกท่านจะได้สมบัติล้ำค่าอะไรจากสถานที่แห่งนี้ ก็คงอาศัยดวงของแต่ละคนแล้ว!"
ขณะพูด เขาก็พุ่งเข้าไปด้านในของคฤหาสน์ทันที!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...