ตอน บทที่ 1492 ปฏิเสธโม่เทียนเจิน จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1492 ปฏิเสธโม่เทียนเจิน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
โม่หยู่พยักหน้าเหมือนกับหุ่นยนต์ เธอเดินอยู่ด้านหลังหลินหยุน ทั้งสองคนออกจากหินหมึกเทา
เมื่อมาถึงด้านนอก พลังของหลินหยุนก็ปะทุออกมาทันที
ภายในชั่วพริบตา สัตว์อสูรที่ร้ายกาจมากๆและอยู่ในหนองน้ำใหญ่ก็เงียบสงบทันที
เมื่อพวกเขาสองคนเดิมออกมาจากหนองน้ำใหญ่ โม่เทียนเจินก็มองหลินหยุนด้วยสายตาที่ซับซ้อนมากๆ
แต่ฉินหลันกลับตื่นเต้นดีใจมากๆ
เพราะหลินหยุนในเวลานี้ ไม่ได้มีรูปร่างแก่ชราเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย
เมื่อมองเห็นหลินหยุนบินมา ฉินหลันก็รีบเดินไปข้างหน้าทันที
หลินหยุนจับมืออันเล็กๆของเธอและเผยรอยยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็มองไปที่โม่เทียนเจินและพูดเบาๆ "ผนึกสายเลือดที่อยู่ในร่างกายของลูกสาวคุณ ได้ถูกฉันปลดออกแล้ว ข้อตกลงของพวกเราสองคนก็สำเร็จแล้ว!"
"อย่างไรก็ตาม ฉันขอเตือนคุณหน่อย"
"ตอนที่ปลดผนึกสายเลือดนั้น มีโอกาสสูงมากๆที่ยอดฝีมือที่สร้างผนึกสายเลือดนี้จะรับรู้เรื่องนี้"
"อย่างไรก็ตาม ถ้าให้ดีที่สุดก็ส่งลูกสาวของคุณไปสถานที่ลึกลับหน่อย!"
"อย่าให้เธอมีความสัมพันธ์กับตระกูลโม่อีก!"
"มีอีกเรื่องหนึ่ง ตระกูลโม่ที่มาจากดาวไกอา เรื่องนี้ก็น่าจะถูกเปิดเผยแล้ว!"
"หลังจากนี้ควรทำอะไร ก็คงต้องดูทางเลือกของพวกคุณแล้ว !"
"ฉันรับรู้ได้ ยอดฝีมือคนนั้นน่าจะเป็นยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะ!"
"พวกคุณรับมือเขาไม่ไหวอยู่แล้ว"
"ฉันขอพูดเพียงแค่นี้ เจ้าบ้านโม่ จะทำอะไรก็คิดให้ดีๆละ!"
ขณะพูด หลินหยุนก็หันหน้าไปมองฉินหลันและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "พี่ฉินหลัน พวกเราไปกันเถอะ สถานที่แห่งนี้ไม่ควรอยู่อีกต่อไป!"
ฉินหลันพยักหน้าและรับปากทันที เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่ควรอยู่อีกต่อไปจริงๆ
ก่อนหน้านี้เกิดเสียงดังสนั่น จะต้องมีนักบำเพ็ญเซียนจำนวนมากเดินทางมาที่นี่อย่างแน่นอน
การมีอยู่ของหินหมึกเทาอันนี้ น่าจะถูกคนอื่นๆค้นพบอย่างรวดเร็วแน่นอน
หลินหยุนพาฉินหลันบินไปทันที โม่เทียนเจินกับโม่หยู่ที่อยู่ด้านหลัง พวกเขาไม่มีเวลามานั่งดีใจเลย พ่อลูกคู่นี้สบตากัน จากนั้นก็ไล่ตามไปทันที
โม่เทียนเจินมาถึงด้านหลังของหลินหยุน เขาหายใจเข้าลึกๆและพูด "สหายหลินหยุน รอเดี๋ยวก่อน ฉันมีเรื่องจะหารือกับคุณ!"
หลินหยุนไม่ได้หันหน้ากลับไปและพูด "สหายต้องการพูดอะไร ฉันพอจะเดาออก ข้อตกลงของพวกเราสองคนได้สิ้นสุดไปแล้ว ถ้าสหายอยากจะพูดถึงแดนเหมันต์จริงๆ เรื่องนี้ไม่ต้องพูดแล้ว!"
"ก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดไว้ จะช่วยคนของแดนเหมันต์ปลดผนึกสายเลือดออก"
"ทำให้พวกเขาเดินออกมาจากสถานที่แห่งนั้น!"
"อย่างไรก็ตาม สหายไม่ได้เลือกที่จะรับปากทันที!"
"ดังนั้นฉันก็เลยพูดว่าจะปลดผนึกสายเลือดให้ลูกสาวของคุณ"
"ตอนนี้ฉันทำสำเร็จแล้ว สหายอย่ามายุ่งกับฉันจะดีกว่า!"
สีหน้าของโม่เทียนเจินแย่มากๆ เขาอยากจะตบหน้าตัวเองจริงๆ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาโทษตัวเอง เขาหายใจเข้าลึกๆและพูดกับหลินหยุนทันที "สหายหลินหยุนอย่าพูดแบบนี้เลย!"
"ไม่ว่าจะพูดยังไง สหายก็มาจากดาวบรรพะ พวกเราเป็นคนบ้านเดียวกัน!"
"พวกเราต่างเป็นเผ่ามนุษย์เหมือนกัน!"
ดาวบรรพะคือคำพูดที่พวกเขาใช้เรียกดาวไกอา
"ตอนนี้เผ่ามนุษย์ตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย สหายไม่สงสารเผ่ามนุษย์บ้างเหรอ?"
"สหาย ฉันพูดแบบนี้ไม่ได้คิดจะบังคับคุณ!"
"แต่ขอให้สหายเห็นแก่ที่พวกเราเป็นเผ่ามนุษย์เหมือนกัน ลงมือช่วยเหลือพวกเราบ้าง!"
เดิมทีฉินหลันไม่ได้รู้เรื่องเหล่านี้เลย แต่หลังจากได้ยินคำพูดของโม่เทียนเจิน เธอก็ทนไม่ไหวแล้วพูด "เสี่ยวหยุน คำพูดของเขาหมายความว่ายังไง?"
"พวกเขาก็มาจากดาวไกอาเหรอ ?"
"ถ้าตอนนี้ฉันไปทำเรื่องนี้"
"ไม่เพียงพวกเขาต้องเสียชีวิต"
"ฉันก็ต้องเสียชีวิตเหมือนกัน!"
"ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยพูดกับคุณแล้ว!"
"ตอนที่ฉันปลดผนึกสายเลือดที่อยู่ในร่างกายของลูกสาวคุณ น่าจะทำให้ยอดฝีมือที่สร้างผนึกอันนี้รู้ตัวแล้ว!"
"พวกเขาคงจะลงมืออย่างแน่นอน!"
"ถ้าพวกเขาปรากฏตัวและมองเห็นฉันกำลังปลดผนึกสายเลือดให้ทุกคนอยู่ สหายโม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?"
อันที่จริง ถูกยอดฝีมือคนนั้นรับรู้ มันเป็นแค่เหตุสุดวิสัย
ถ้าเลือดสีดำหยดนั้นไม่ได้ถูกไหมจัญไรไร้เงากลืนกิน อีกฝ่ายก็คงไม่รู้เรื่อง
แต่ก็พูดได้แค่อีกฝ่ายอาจจะไม่รู้ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ
ดังนั้นในเวลานี้ เขาไม่เลือกที่จะเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงอยู่แล้ว
หลังจากหลินหยุนกับโม่เทียนเจินและคนอื่นๆจากไปได้ไม่นาน
บริเวณรอบๆหนองน้ำใหญ่ มียอดฝีมือแข็งแกร่งมากๆปรากฏตัวทีละคนๆ
นักบำเพ็ญส่วนใหญ่เป็นยอดฝีมือแดนยาทอง มียอดฝีมือแดนจิตปฐมน้อยมากๆ
แต่หนองน้ำใหญ่ในเวลานี้ กลับมาเงียบสงบเหมือนเดิมแล้ว
โม่เทียนเจินหายใจเข้าลึกๆและพูด "สหายหลินหยุน คุณ……ไปพักที่ตระกูลโม่สักพักได้ไหม? ฉันอยากจะฟังเรื่องราวต่างๆของดาวบรรพะจากปากของคุณ!"
"หลายพันปีที่ผ่านมา สำหรับตำนานของดาวบรรพะ พวกเราสืบทอดกันปากต่อปาก"
"พูดกันตามตรง สำหรับพวกเราแล้ว มันเป็นเรื่องราวที่ไกลตัวมากๆ!"
"พวกเราเหนื่อยมากๆ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...