ในมือของโม่หยู่มีแสงสว่างทันที เธอรีบหยิบหินผลึกสีฟ้าออกมา มีรูปร่างเหมือนหัวเข็มขัด
เมื่อมองเห็นหินผลึกอันนี้ ทั้งสามคนหายใจเร็วด้วยความตกใจ มองหน้าโม่หยู่ด้วยความตื่นเต้นและพูด "เป็นคนของตระกูลโม่จริงๆ!"
ชายวัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บ ดูเหมือนเขาลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังบาดเจ็บอยู่
เขาเอ่ยปากพูดกับโม่หยู่ทันที "ไม่ทราบว่าแม่นางชื่ออะไร?"
โม่หยู่แนะนำตัวทันที "ฉันชื่อโม่หยู่!"
"ผู้หญิงที่อยู่ด้านในคนนั้นชื่อฉินหลัน พวกคุณอย่าเข้าใจผิดนะ เพราะเธอก็มาจากดาวบรรพะเหมือนกัน พวกเธอมาจากค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติที่บรรพบุรุษของเราทิ้งไว้ในโลกคุนชาง!"
"ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เกิดการต่อสู้ขึ้น พวกคุณสามคนมองเห็นเหตุการณ์ใช่ไหม?"
"ผู้ชายที่มาพร้อมกับพวกเรา เขาชื่อคุณชายหลินหยุน เขาใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติมาโลกใบนี้พร้อมกับแม่นางฉินหลัน!"
ผู้ชายสามคนนี้มาได้จังหวะพอดีแบบนี้ ก่อนหน้านี้พวกเขาจะต้องหลบซ่อนตัวอยู่อย่างแน่นอน
ตอนที่พวกเธอต่อสู้กับกันตรงทางเข้าหุบเขา จากนั้นก็เข้ามาในนี้ น่าจะอยู่ในการเฝ้าสังเกตการณ์ของอีกฝ่าย
วัยรุ่นชายที่ได้รับบาดเจ็บพูด "เป็นอย่างนี้นี่เอง! ก่อนหน้านี้ฉันเห็นผู้ชายคนนั้นอยากจะพาพวกเธอสองคนข้ามภูเขาหิมะไป แต่เขาลองดูสองครั้งแล้วก็ทำไม่ได้ เขาก็เลยปล่อยพวกเธอสองคนเอาไว้ตรงนี้ และเข้าไปคนเดียว เขาไปหาพวกเราใช่ไหม?"
โม่หยู่พูด "ใช่แล้ว! คุณชายหลินหยุนเป็นนักบำเพ็ญเซียนจากดาวบรรพะ พวกคุณสามคนก็น่าจะมองพลังของคุณชายหลินหยุนออก!"
"คุณชายหลินหยุนเป็นยอดฝีมือแดนจิตปฐมแล้ว!"
"ครั้งนี้ที่พวกเรามาแดนเหมันต์ เพื่อมาดูว่าพวกคุณมีอะไรที่ต้องการให้พวกเราช่วยไหม!"
วัยรุ่นชายพยักหน้าทันทีและพูด "เป็นอย่างนี้นี่เอง แต่พวกเราไม่ได้อยู่ตำแหน่งเดิมเมื่อพันปีที่แล้ว ถ้าเขาตามหาตำแหน่งตามที่เธอให้ เขาก็หาพวกเราไม่เจออยู่แล้ว!"
"แต่ระยะทางก็ไม่ได้ไกลมากเท่าไหร่!"
"เอาอย่างนี้ละกัน ฉันจะพาพวกเธอสองคนไล่ตามเขาไป!"
"มิฉะนั้น คนที่ชื่อคุณชายหลินหยุน เขาไม่มีอะไรมายืนยันฐานะตัวเอง อาจจะเกิดความเข้าใจผิดก็ได้!"
"ถ้าลงมือกันจริงๆ ใครได้รับบาดเจ็บก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย!"
เมื่อโม่หยู่ได้ยินก็กังวลใจทันที เรื่องนี้เธอลืมไปเลยจริงๆ
เธอหันหน้ากลับไปมองฉินหลันที่อยู่ในวิมานทันที ตอนนี้ฉินหลันยืนอยู่หน้าวิมานด้วยความหวาดกลัว
โม่หยู่หายใจเข้าลึกๆและพูด "พี่ชายสามคน ฉันยังจากที่นี่ไปไม่ได้ เพราะแม่นางฉินหลันคนนี้ เป็นคนธรรมดาและไม่ได้ฝึกฝนบำเพ็ญเซียนเลย เธอรับมือกับสภาพแวดล้อมตรงนี้ไม่ไหวหรอก!"
"ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง พี่ชายสามคนรู้จักเส้นทางอื่นๆใช่ไหม?"
"มิฉะนั้น ถึงแม้พวกเราจากไป ก็คงข้ามภูเขาหิมะตรงนี้ไม่ได้!"
วัยรุ่นชายที่บาดเจ็บพูดทันที "แม่นางโม่หยู่โปรดวางใจ! พวกเรามีเส้นทางอื่นๆอยู่แล้ว มิฉะนั้น ด้วยพลังของพวกเราสามคน คงข้ามภูเขาหิมะไม่ได้เหมือนกัน!"
"สำหรับแม่นางฉินหลันที่อยู่ในวิมาน ถึงแม้เธอจะเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพลังอะไรเลย แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก!"
ขณะที่วัยรุ่นชายพูด เขาก็หยิบผลไม้สีแดงเข้มที่มีขนาดเท่าลูกวอลนัตออกมา
ผลไม้อันนี้แห้งเหี่ยวมากๆ แต่บนผลไม้มีพลังที่นุ่มนวลและอบอุ่นกระจายออกมาตลอดเวลา
วัยรุ่นชายพูด "นี่คือลูกเมฆไฟ คือผลไม้ที่มาจากต้นเมฆไฟที่อยู่บนภูมิเมฆไฟ เนื่องจากตอนที่ผลไม้ยังสดอยู่ บนผลไม้มีลวดลายคล้ายกับก้อนเมฆ ก็เลยได้ชื่อแบบนี้!"
"การที่พวกเราสามารถเคลื่อนไหวอยู่ในหิมะได้อย่างอิสระ"
"เนื่องจากบนร่างกายของพวกเราทุกคน ต่างมีลูกเมฆไฟติดตัวอยู่!"
"มิฉะนั้น ถึงแม้พวกเราสามารถต้านรับสภาพแวดล้อมอันเยือกเย็นได้สักระยะหนึ่ง แต่พวกเราก็คงออกมาด้านนอกแบบนี้นานๆไม่ได้!"
เมื่อโม่หยู่ได้ยิน สายตาของเธอก็เปล่งประกายทันทีและพูด "มีของวิเศษอย่างนี้นี่เอง!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...