อ่านสรุป บทที่ 1503 ประหลาดใจ จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บทที่ บทที่ 1503 ประหลาดใจ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ชายร่างใหญ่ชุดดำมีพลังที่แข็งแกร่งมากๆ เขาสะบัดหอกที่อยู่ในมือ ทำให้มันเปล่งรังสีฆ่าฟันออกมาทันที
เขาโค้งคำนับให้ชายชราทุกคน จากนั้นก็หันหลังและบินจากไปทันที
ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลังจากหลินหยุนได้พักไประยะหนึ่งแล้ว เขาก็เก็บซากศพของหมีขาวเข้าไปในถุงเก็บของทันที
หมีขาวตัวนี้เทียบเท่ายอดฝีมือแดนจิตปฐมตอนกลาง ร่างกายของมันทั้งหมดคือสมบัติล้ำค่า
เลือดเนื้อของมันสามารถรับประทานได้ สำหรับนักบำเพ็ญเซียนนั้น เลือดเนื้อของมันคือของบำรุงร่างกายชั้นดี
ยังมีกระดูกของมัน สามารถเอามาสร้างอาวุธได้
ถ้าใช้มันมาสร้างอาวุธสำหรับป้องกันตัวหนึ่งชุด ยอดฝีมือแดนจิตปฐมตอนต้นคงไม่สามารถทำลายมันได้
ถ้ามีเพิ่มวัสดุอย่างดีอื่นๆเข้าไปด้วย แม้แต่ยอดฝีมือแดนจิตปฐมก็คงอยากจะได้อาวุธชิ้นนี้เหมือนกัน
หลังจากเก็บซากศพของหมีขาวแล้ว หลินหยุนก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือทันที
เมื่อเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ จุดดำที่อยู่ด้านหน้าของเขาก็ค่อยๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากบินไปได้ครึ่งวัน หลินหยุนที่บินอยู่กลางอากาศก็หยุดลงทันที และสายตาของเขาก็มองไปที่ด้านหน้า
มีพลังที่ป่าเถื่อนมากๆและเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันจากคนๆหนึ่ง กำลังบินมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปไม่นาน คนที่บินเข้ามา เมื่ออยู่ในระยะพันเมตรแล้ว เขาก็หยุดลงทันที
เขาไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ใช้สายตามองไปที่ด้านหลังของหลินหยุนทันที
ถึงแม้ระยะห่างยังไกลอยู่ แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังจากแรงระเบิดที่เหลืออยู่ในอากาศ
ผ่านไปไม่นาน ชายชุดดำก็มองหน้าหลินหยุน สายตาของเขาหนักแน่มากๆ เย็นชามากๆและมีพลังมากๆ
ในมือจับหอกสีดำอันหนึ่ง จากการสะท้อนของแสง ทำให้หอกเผยกลิ่นอายของเลือดสดออกมา และมีแสงสีแดงออกมาด้วย บนร่างกายของคนๆนี้ มีรังสีฆ่าฟันอันแรงกล้าอยู่
เมื่อมองเห็นอีกฝ่าย สายตาของหลินหยุนเปล่งประกายทันที เขาเอ่ยปากพูด "คุณเป็นลูกหลายของดาวไกอาใช่ไหม?"
เขาใช้ภาษาของดาวไกอา สมัยนั้นยอดฝีมือของดาวไกอามาถึงดาวนกขาว พวกเขาก็เคยรุ่งเรืองมาก่อน
พวกเขาน่าจะใช้ภาษาของดาวนกขาวได้ ถ้างั้นลูกหลานของพวกเขา น่าจะรู้จักภาษาพวกนี้
หลินหยุนใช้ภาษาของดาวไกอาเพื่อต้องการบ่งบอกฐานะของตัวเอง
เมื่อได้ยินหลินหยุนใช้ภาษาของดาวไกอา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าชายชุดดำอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็กลับมาเย็นชาเหมือนเดิม
เขามองหน้าหลินหยุนและพูดอย่างเย็นชา "คุณเป็นใคร? เป็นคนของนิกายวิญญาณบริสุทธิ์หรือเปล่า?"
หลินหยุนพูด "คุณน่าจะเป็นยอดฝีมือแดนจิตปฐมตอนกลางใช่ไหม"
"แต่ฉันได้ยินมาว่าลูกหลานจากดาวไกอาที่อยู่ในแดนเหมันต์ ไม่สามารถฝึกฝนถึงแดนจิตปฐมอย่างแน่นอน"
"แม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุด ก็ฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับเก้าสูงสุดเท่านั้น!"
"แต่คุณกลับมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้!"
"เรื่องนี้ทำให้ฉันประหลาดใจเหมือนกัน!"
หลินหยุนนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ถามทันที "ตอนนี้พวกคุณยังมีคนอยู่เท่าไหร่ มียอดฝีมือแดนจิตปฐมอย่างคุณอีกกี่คน ? คนที่แข็งแกร่งที่สุดฝึกฝนถึงขั้นไหนแล้ว?"
เมื่อชายชุดดำได้ยิน เขาก็เปล่งเสียงไม่เย็นชาออกมาทันที
เขามองหน้าหลินหยุน สายตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
เขาไม่พูดอะไรอีก หอกที่อยู่ในมือก็ปลดปล่อยพลังอันน่ากลัวออกมาและโจมตีใส่หลินหยุนทันที
สายตาของหลินหยุนเปล่งประกายทันที เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
คิดไม่ถึงจริงๆว่าเขาจะเป็นคนป่าเถื่อนแบบนี้ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ เพราะร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
ชายที่อยู่ด้านหน้าคนนี้จะต้องฆ่าคนมานับไม่ถ้วน การโจมตีด้วยหอกของอีกฝ่าย มีพลังเยือกเย็นมากๆและมีรังสีฆ่าฟันที่รุนแรงมากๆ และมีพลังกฎเกณฑ์ต้าเต๋าเล็กน้อยด้วย
นอกจากตัวเองแล้ว นี่คือครั้งแรกที่หลินหยุนมองเห็นคนที่ใช้วิชาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่มีกฎเกณฑ์ต้าเต๋าอยู่
แต่ก็สามารถมองออกอย่างชัดเจน อันที่จริงๆคนๆนี้ไม่ค่อยเข้าใจกฎเกณฑ์ต้าเต๋าเลยและใช้ไม่ค่อยเป็นด้วย
มียอดฝีมือของนิกายวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในบริเวณรอบนอกของแดนเหมันต์ตลอด
สถานที่ตรงนั้นก็คือปากทางเข้าหุบเขา เรื่องนี้พวกเขารู้มาตั้งนานแล้ว
หลายพันปีที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ พวกเขาทำแบบนี้ตลอด
แน่นอนว่าพวกเขาสามารถสังหารนักบำเพ็ญเซียนที่มาเฝ้าประตูทางเข้าหุบเขาได้อยู่แล้ว
ถึงแม้พวกเขาสังหารคนพวกนั้น พวกเขาก็ออกจากสถานที่แห่งนี้ไม่ได้
แต่หลินหยุนสามารถเข้ามาได้ ถ้าพูดว่าหลินหยุนไม่ใช่คนของนิกายวิญญาณบริสุทธิ์ เรื่องนี้ก็แปลกมากๆ
แต่หลินหยุนพูดภาษาดาวไกอาได้อย่างคล่องแคล่ว เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจมากๆเช่นกัน
เมื่อหลินหยุนได้ยิน เขาก็พูดเบาๆ "คุณน่าจะตอบคำถามของฉันก่อน หลังจากนั้นฉันอาจจะให้คำตอบที่คุณต้องการก็ได้!"
"อย่างไรก็ตาม เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความจริงใจ"
"ยังไงซะ มันก็คือการได้พบคนบ้านเดียวกันในต่างถิ่น!"
"ฉันจะตอบคำถามพวกนี้ของคุณก่อน!"
"ฉันเป็นนักบำเพ็ญเซียนจากดาวไกอา และมาถึงดาวนกขาวได้ไม่นาน!"
"ฉันได้ข่าวมาว่าสมัยก่อนตอนที่บรรพบุรุษของพวกคุณมาถึงดาวแห่งนี้และได้ต่อสู้กับยอดฝีมือของดาวแห่งนี้ด้วย!"
"สุดท้ายแล้วต้องถอยหนีมาอยู่ในแดนเหมันต์!"
"ดังนั้น ลูกหลานของตระกูลโม่ที่ออกจากแดนเหมันต์เมื่อพันปีที่แล้วขอร้องฉัน ฉันถึงได้มายังสถานที่แห่งนี้"
"สำหรับจุดประสงค์ของฉัน มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ "
"ฉันอยากจะเห็นลูกหลานของยอดฝีมือจากดาวไกอา คนพวกนั้นก็คือพวกคุณ อยากรู้ว่าตอนนี้พวกคุณเป็นยังไงบ้าง!"
"ถ้าจำเป็นจริงๆ ฉันอาจจะลงมือช่วยเหลือบ้าง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...