และ ตอนนี้เธอยังคงขาดสมบัติสุดท้ายของการกลั่นยา
ถ้าอยู่ในครอบครัว
งั้นก็ยังคงมีอยู่
แต่ในระดับนั้นก็ไม่ถึงระดับของแก้วรวมสารภูติน้ำแข็ง 1000 ปีที่อยู่ตรงหน้าหรอก
อย่างที่เราเคยพูดกัน สมบัติการกลั่นยา ยิ่งระดับสูงมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดี
แน่นอน
ระดับสูงเกินไป พรสวรรค์ของคุณ ปัญญาของคุณยังไม่พอ งั้นใช้สมบัติระดับสูงเกินไปในการกลั่นยา ไม่เพียงแค่ไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่กลับเป็นเรื่องที่โง่เขลาที่สุด
เพราะคุณไม่มีปัญญาทำได้
ยิ่งควบคุมไม่ได้เลย!
โม่หยู่ผลิตยาทองระดับดิน แน่นอนว่าไม่มีปัญหา
จุดนี้เธอเองก็รู้ดี
งั้นก็สามารถใช้สมบัติที่หล่อหลอมใกล้เคียงกับยาทองระดับฟ้าได้ ก็ย่อมเหมาะสมที่สุดอยู่แล้ว และเป็นเรื่องที่เธอใฝ่ฝันมากที่สุด
หลินหยุนในตอนนี้เพิ่งมอบสมบัติดังกล่าวให้เธอ
ไม่พูดถึงก่อนหน้านี้
พูดถึงแค่ตอนนี้
บุญคุณนี้ใหญ่หลวงเกินไป
หลินหยุนกล่าวเบาๆ “รับหน่อยเถอะ ช่วงเวลานี้ก็ต้องขอบคุณคุณที่บอกฉันหลายๆอย่าง แล้วก็ที่ช่วยเหลือฉินหลัน! นี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุณควรได้รับ!”
คำพูดของหลินหยุนจริงแท้แน่นอน
โม่หยู่สูดหายใจเข้าลึกๆ กล่องหยกในมือหนักยิ่งกว่า หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็พยักหน้า
จากนั้นก็พูดกับหลินหยุนว่า “งั้นต้องขอบคุณพี่หลินมาก!”
แสงวูบวาบ และโม่หยู่รับกล่องหยกแล้ว
บอกลาหลินหยุนด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน จากนั้นก็ก้าวออกมาจากห้องของหลินหยุน
มองเงาโม่หยู่ที่เดินจากไป
หลินหยุนปิดประตูห้อง
จากนั้นก็ฝึกฝนต่อไป
แต่ก็ยังเหมือนเดิม
การฝึกฝนของเขาไม่ใช่การเก็บตัวในระยะยาว
ผู้อารักขาคนนั้นยังไงก็เป็นภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นได้
หลินหยุนไม่กลัวว่าเขาจะต่อสู้กับตน
กังวลว่าเขาจะลงมือกับโม่หยู่หญิงสาว 3 คน
นี่คือการข่มขู่
แล้วยังต้องหาโอกาสเพื่อแก้ไขถึงจะได้
และเก็บตัวอีกเป็นช่วงๆเป็นเวลาหลายเดือน
และก็ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ในวันนี้ เรือใหญ่ยังคงแล่นตามปกติ
โม่หยู่มาหาหลินหยุนที่ห้องอีกครั้ง และมองไปที่หลินหยุนและพูดว่า “พี่หลิน ช่วงนี้ฉันไปสืบมาชัดเจนแล้ว ก่อนหน้านี้คุณสับฆ่า 3 คนของสำนักเทียนหั่ว”
“ป้ายประจำตัวพวกเขาทั้งสามคน น่าจะอยู่ที่คุณสินะ?”
“ถ้ายังอยู่ พวกเราสามารถนำห้องของพวกเขาทั้งสามคนไปขายในราคาต่ำได้!”
“ห้องในชั้นนี้ ราคาเดิมคือ หินทิพย์ 250,000 ก้อนต่อตั๋วเรือ 1 ใบ”
“ถ้าหากขายออกไปได้ 200,000 ต่อ 1 ใบก็ได้!”
“นี่ก็ถือว่าเป็นรายได้ก้อนหนึ่งที่เยอะมาก พี่หลินลองคิดดูได้นะ”
เมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาของหลินหยุนอดไม่ได้ที่จะเป็นประกาย จากนั้นก็พูดว่า “ยังสามารถขายตั๋วเรือได้ต่อเหรอ?”
เรื่องนี้เขาไม่รู้จริงๆ
โม่หยู่รีบพูด “ได้สิ! ขอเพียงแค่มีป้ายหยกอนัตตาอยู่ งั้นก็ไม่มีปัญหา! เรื่องแบบนี้ผู้อารักขาต่างก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ทั้งนั้น!”
ดวงตาหลินหยุนเป็นประกาย
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งเขาก็พูดว่า “เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว คุณสามารถไปชั้นล่างเพื่อค้นหาพวกเป้าหมาย แต่ไม่ต้องรีบร้อนเกินไป”
“ฉันต้องจัดการผู้อารักขาคนนั้นก่อนค่อยว่ากัน!”
ได้ยินหลินหยุนพูดเช่นนี้ โม่หยู่ก็อึ้งทันที ทันใดนั้นเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “พี่หลินอย่าบอกนะว่าคุณ……”
หลินหยุนพยักหน้า กล่าว “คุณน่าจะรู้สึกได้แล้วสินะว่าผู้อารักขาคนนั้นกับฉันมีความรู้สึกที่เป็นศัตรูกัน ในเมื่อเขามีเจตนาที่เป็นศัตรู งั้นก็ไม่สามารถเก็บเขาไว้แล้ว!”
โม่หยู่หายใจเข้าลึกๆอีกครั้งและพูดด้วยความตกใจ “แต่ว่า……พี่หลิน คนนั้นยังไงก็เป็นผู้อารักขา แต่พวกเราลงมือที่นี่……อย่างที่รู้ บนเรือใหญ่ลำนี้ยังมีผู้เก่งกาจแดนดั่งเทพอยู่ 2 คนนะ……”
หลินหยุนกล่าว “ดังนั้นต้องหาโอกาสที่เหมาะสม!”
เจตนาฆ่าของหลินหยุนก็มีขึ้นมาแล้ว
ผู้อารักขาคนนั้น เขาต้องฆ่า!
ที่นี่ไม่ใช่โลกอีกต่อไปแล้ว!
และไม่สามารถท่องไปตามหลักการของโลกได้แล้ว!
ที่นี่คือหมื่นจักรวาล
“ฉันยอมทำผิดต่อคนในใต้หล้า แต่ไม่ยอมให้คนในใต้หล้าผิดต่อฉัน” นี่คือโลกแห่งความจริง!
ไม่งั้นคุณก็อาจตายได้!
แม้ว่าหลินหยุนไม่ได้สุดโต่งซะขนาดนั้น
แต่สำหรับความรู้สึกที่สามารถสัมผัสได้ถึงวิกฤต จะต้องฆ่าก่อน!
ที่นี่มีดั่งเทพนั่งอยู่สองคน
ต้องการฆ่าผู้อารักขาคนหนึ่ง
จะต้องหาโอกาสที่ดีจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...