หลินหยุนได้ยินชื่อใหม่ๆจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเหล่านี้
หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้องโดยสารของเรือทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องโดยสารของเรือ เขาก็นึกอะไรบางอย่างออกทันที
นางฟ้าปรวนแปรคนนั้นมีฐานะที่สูงศักดิ์มากๆ ข้างๆเธอยังมียอดฝีมือแดนดั่งเทพค่อยปกป้องอยู่
โดยปกติ แม้แต่ยอดฝีมือแดนดั่งเทพสองคนที่ประจำอยู่บนเรือก็คงไม่กล้าล่วงเกินพวกเธอ
ถ้าอยากจะลงมือกับผู้อารักขาละก็ บางทีอาจจะต้องหาโอกาสสักครั้ง
คงต้องใช้วิธียืมมีดฆ่าคน แต่ว่า……
มีเรื่องเดียวที่สามารถทำได้ คือหาวิธีรักษาโรคประหลาดของนางฟ้าปรวนแปร
นอกจากว่าเขาสามารถรักษาโรคประหลาดของอีกฝ่ายได้ ไม่งั้นการยืมมีดฆ่าคนคงเป็นไปได้ยาก
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ง่ายเลย เพราะอีกฝ่ายก็คงไม่เชื่อใจหลินหยุนอยู่แล้ว
ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เขาไม่รู้โรคประหลาดของอีกฝ่ายเลย ไม่รู้จริงๆว่าตัวเองสามารถรักษาได้ไหม
ถึงแม้ความคิดนี้จะไม่เลวเลย แต่จะสามารถใช้วิธีนี้ได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
ถ้าอยากจะทำสำเร็จ มันยากมากๆ
หลังจากคิดไปสักพัก หลินหยุนก็หยุดความคิดนี้ทันที
คงต้องหาโอกาสอื่นๆแล้ว เวลาผ่านไปหลายเดือนอย่างรวดเร็ว
เรือใหญ่แล่นอยู่กลางทะเลเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งแล้ว
ถ้าคำนวณจากระยะทางและเวลาละก็ ตอนนี้ได้เดินมาถึงครึ่งทางแล้ว
และเขากับผู้อารักขามีเรื่องกันก็ได้ผ่านมาครึ่งปีแล้ว
ผู้อารักขาคนนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม เขาไม่ได้ทำเรื่องกลั่นแกล้งหรือหาเรื่องหลินหยุนเลย
แต่หลินหยุนก็ไม่กล้าชะล่าใจ เพราะนี่คือถิ่นของอีกฝ่าย
และการที่อีกฝ่ายเก็บความแค้นเอาไว้และยังไม่มาหาเรื่องเขา เรื่องแบบนี้มันน่ากลัวมากๆ
นี่คือประสบการณ์ของหลินหยุนจากชาติที่แล้ว เขาท่องเที่ยวไปทั่วหมื่นจักรวาลถึงได้เข้าใจเรื่องเหล่านี้
สำหรับคนที่เกิดความโมโหได้ง่ายๆ ไม่รู้จักเก็บอารมณ์ของตัวเอง คนแบบนี้ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่
เพราะสุนัขที่กล้ากัดคนจริงๆ โดยปกติแล้วมันจะไม่ค่อยเห่า
หลังจากเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ถึงแม้มันจะนิ่งสงบมากๆ
หลินหยุนสัมผัสได้ว่าต้องมีเรื่องบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
และถ้าเกิดเรื่องจริงๆ มันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน
เป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังจากเวลาผ่านไปเรื่อยๆ
เรือใหญ่เริ่มถูกอสูรกายใต้น้ำโจมตี ช่วงแรกๆนั้น อสูรกายใต้น้ำไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไหร่
ส่วนใหญ่เป็นอสูรกายใต้น้ำที่มีพลังเทียบเท่าแดนยาทองและมีแดนจิตปฐมเท่านั้น
อสูรกายใต้น้ำพวกนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย หลังจากเวลาผ่านไปอีกสิบกว่าวัน
เริ่มมีอสูรกายใต้น้ำที่แข็งแกร่งมากๆปรากฏตัว และจำนวนของอสูรกายใต้น้ำก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
มีอสูรกายใต้น้ำบางส่วนที่ร่างกายใหญ่มากๆ มีความยาวหลายร้อยเมตร เมื่อมันอยู่ในทะเลก็ดูไม่ค่อยออก แต่เมื่อมันกระโดดออกมาจากทะเลก็ทำให้มองเห็นอย่างชัดเจน ร่างกายของมันใหญ่เท่ากับภูเขาเล็กๆเลย
มันใช้พลังจากกล้ามเนื้อกระแทกกับเรือใหญ่ ทำให้เรือใหญ่สั่นสะเทือนทันที
เรื่องนี้ทำให้คนจำนวนมากเริ่มประหม่าทันที
ในวันนี้ บนทะเลไม่สิ้นอันกว้างใหญ่นี้ จู่ๆก็มีลมแรงพัดมาทันที
ลมแรงพัดจนเรือใหญ่โคลงเคลงไปมา
เดิมทีเรือใหญ่ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัย แต่ตอนนี้มันกลับไม่ได้รู้สึกปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว
ในเวลานี้ มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาทันที เสียงนี้ดังไปทั่วเรือใหญ่
"เรือทะเลกำลังเจอคลื่นพายุขนาดใหญ่"
"ทุกท่านไม่ต้องกังวลใจ!"
"ขอแค่ทุกท่านอยู่ในห้องพักส่วนตัวก็พอแล้ว!"
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำของผู้อารักขาคนนั้น มิฉะนั้น สามคนนี้จะเข้าห้องพักของพวกเขาสามคนไม่ได้อย่างแน่นอน
หลินหยุนยิ้มอย่างเย็นชาและพูด"น่าสนใจจริงๆ ในที่สุดก็ลงมือแล้ว ทำไมเขาต้องเลือกเวลานี้ด้วย?ตามหลักการแล้ว เขาเฝ้าชั้นนี้อยู่ หลังจากที่ฉันสังหารหั่วหยุนและคนอื่นๆแล้ว เขาค่อยทำแบบนี้ก็ได้"
แต่หลินหยุนไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะถ้าเขาจะลงมือจริงๆ ผู้อารักขาคนนั้นจะต้องขัดขวางเขาอย่างแน่นอน
ถ้าทำให้ยอดฝีมือแดนดั่งเทพสองคนรู้เรื่องนี้ เขาก็รับผลลัพธ์ที่จะตามมาไม่ไหวเหมือนกัน
ดังนั้น ตอนที่โม่หยู่แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ออกมา หลังจากหลินหยุนครุ่นคิดชั่วครู่ เขาก็ปฏิเสธทันที
เขาอยากจะหาโอกาสกำจัดผู้อารักขาคนนั้นก่อน แล้วค่อยมาทำเรื่องที่เหลือ
ถ้าไม่มีโอกาสจริงๆ เรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ มันก็แค่หินทิพย์ไม่กี่แสนก้อนเท่านั้น
หินทิพย์เหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของหลินหยุนอยู่แล้ว อย่างน้อยเขาก็ไม่อยากหาเรื่องบนเรือลำนี้
นี่คือความคิดทั้งหมดของหลินหยุน
เขาคิดว่าผู้อารักขาคนนั้นจะลงมือทันที แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ทำแบบนั้น
จนถึงตอนนี้ถึงกล้าลงมือ มันต้องเป็นอย่างนี้อย่างแน่นอน
หลินหยุนขมวดคิ้วและพูด"เนื่องจากเรือใหญ่พุ่งเข้ามาในเขตอันตราย ถ้าลงมือตอนนี้ อาจจะทำให้คนอื่นๆไม่ทันสนใจเรื่องนี้?"
หลินหยุนไม่ค่อยแน่ใจเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
เนื่องจากตอนนี้มีอสูรกายใต้น้ำจำนวนมากโจมตีเรือใหญ่ตลอดเวลา
ด้านบนดาดฟ้าของเรือใหญ่ ยอดฝีมือแดนดั่งเทพที่ประจำอยู่บนเรือก็ปรากฏตัวแล้ว
และเขาก็ปลดปล่อยพลังทั้งหมดของตัวเองออกมา และใช้พลังของตัวเองขับไล่อสูรกายใต้น้ำพวกนี้
แต่ก็มีอสูรกายใต้น้ำที่แข็งแกร่งมากๆ ไม่ได้รู้สึกกลัวยอดฝีมือแดนดั่งเทพเลย
พวกเขาใช้ร่างกายกระแทกกับเรือใหญ่ มีอสูรกายใต้น้ำจำนวนมากอยากจะขึ้นมาบนดาดฟ้าของเรือ
อย่างไรก็ตาม มียอดฝีมือแดนดั่งเทพประจำอยู่ ถ้ามีอสูรกายใต้น้ำที่ขึ้นมาบนดาดฟ้าก็โดนสังหารทั้งหมดทันที
ตอนนี้อสูรกายใต้น้ำก็น่ากลัวมากๆเหมือนกัน ดูเหมือนพายุที่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรุนแรง ยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกกังวลใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...