จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1590

สรุปบท บทที่ 1590 ใช้พลังทั้งหมดเถอะ: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 1590 ใช้พลังทั้งหมดเถอะ จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1590 ใช้พลังทั้งหมดเถอะ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลินหยุนยิ้มเยาะอยู่ในใจ

หั่วยู่ได้ปิดผนึกพลังของตนเองเอาไว้ที่แดนจิตปฐมตอนปลาย แล้วคิดที่จะต้านทานการโจมตีด้วยจิตญาณของเขา ช่างคิดมากไปเหลือเกินจริง ๆ

เขาไม่จำเป็นที่จะต้องยืมใช้พลังจิตญาณของเจียซินเลย โดยสามารถทำลายพลังการป้องกันลงได้อย่างง่ายดาย

แต่เวลานี้ หั่วยู่ที่อยู่ด้านข้างของเวทีนั้นได้ค่อย ๆ ลุกยืนขึ้นมา

สายตายิ่งดุดัน ชัดเจนว่าต้องการที่จะต่อสู้อีก หลินหยุนจึงพูดขึ้นว่า “ไม่อย่างนั้นนายปลดล็อคพลังบำเพ็ญทั้งหมดของนายให้กลับคืนเหมือนเดิมเถอะ หากว่านายใช้พลังบำเพ็ญในระดับเดียวกันกับฉัน และเผชิญหน้ากับฉันซึ่งก็คงจะไม่มีโอกาสอะไรเป็นแน่ ไม่ต่างกับพวกมดแมลง”

หลินหยุนพูดด้วยเสียงเบา แต่ผู้คนที่ได้ฟังนั้นกลับรู้สึกว่ามันทิ่มแทงหูเหลือเกิน

ไอ้หนุ่มนี้ ช่างกำเริบเสิบสานถึงขั้นที่ทำตัวเงียบสงบอย่างนี้แล้ว

แม้ว่าจะมีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งอย่างมาก แต่ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกคันมือคันเท้า อยากที่จะฆ่าเขาให้มันจบสิ้นไปเลย!

แน่นอนว่า หลินหยุนเองนั้นก็ไม่ได้ทำมาเป็นเสแสร้ง เขาก็แค่ต้องการใช้คำพูดเสียดสีเพื่อกระตุ้นฝ่ายตรงข้ามก็เท่านั้น

เพราะขณะนี้อยู่ในงานสรรเสริญเก้าสำนัก

โดยเขาก็สามารถเอาชนะอัจฉริยะอันดับหนึ่งอย่างหั่วยู่ได้ด้วยพลังบำเพ็ญระดับเดียวกัน

สำหรับเขาแล้นั้น ที่จริงก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

ที่พูดแบบนี้ ก็เพียงแต่ต้องการให้อีกฝ่ายอับอายขายหน้า และหยุดการต่อสู้ลงเท่านั้น

เพราะว่าทั้งที่อยู่ต่อหน้าสาธารณชน บวกกับคำพูดที่รุนแรงของเขา เพียงแค่ไม่ต้องการที่จะอับอายขายหน้าต่อไป ก็คงจะหยุดการลงมือไปแล้ว

การที่หลินหยุนไม่อยากจะลงมือต่อนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขาเกรงกลัวฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นเพราะไม่มีความจำเป็นเท่าไร

เขาได้พิสูจน์ตัวของเขาเองแล้ว

ถ้าหากจะลงมือต่อสู้ต่อไปอีก ก็จะต้องแสดงพลังของตนเองอีกมากมาย ซึ่งหลินหยุนไม่อยากที่จะทำแบบนั้น

เวลานี้เขารู้จักที่จะปกปิดพลังความสามารถของตนเองเอาไว้แล้ว แบบนี้จึงจะทำให้ดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ยืนยาวขึ้นอีก ซึ่งหลินหยุนเข้าใจตรงจุดนี้เป็นอย่างดี

แต่สิ่งที่ทำให้หลินหยุนคาดคิดไม่ถึงก็คือ หั่วยู่ผู้นี้ดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่หน้าด้านแต่อย่างใด ซึ่งก็แค่ดูเหมือนเท่านั้น

เขาได้หัวเราะเสียงดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นลมหายใจในร่างกายก็พลุ่งพล่านขึ้น พร้อมกับมองไปที่หลินหยุนและพูดว่า “ไอ้หนุ่ม ไม่แปลกเลยที่นายจะได้รับความสำคัญจากไท่จื่อ แต่ว่า ในเมื่อนายต้องการที่จะให้ฉันใช้พลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับนาย ฉันเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้! ”

“ดังนั้น จึงต้องให้นายลองรับมือกับพลังบำเพ็ญทั้งหมดของฉันดูว่าเป็นอย่างไรบ้างก็แล้วกัน! ”

หั่วยู่ลงมือทันที โดยมังกรไฟที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานได้พุ่งทะยานออกมาจากมือของเขา

เมื่อมังกรไฟปรากฏขึ้น ก็เงยหน้าคำรามเสียงดัง อุณหภูมิบนเวทีก็พุ่งสูงขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ร้อนจัดขึ้นอย่างที่สุด

มังกรไฟเหาะเหินวนเวียนอยู่ในอากาศหนึ่งรอบ แล้วก็พุ่งดิ่งลงมา พร้อมกับพ่นเปลวเพลิงออกมาจากปากของมัน

หลินหยุนเองก็รับรู้ได้ถึงอันตรายที่มาจากจิตวิญญาณอย่างแท้จริง

ดวงตาของหลินหยุนพลันเบิกกว้าง โดยไม่ได้ถอยหลังแต่กลับที่จะจู่โจมเข้าใส่ และได้แสดงท่าที่ห้าของสิบแปดท่าต้าเต๋า  กักขังออกมาทันที

ทันใดนั้น ก็ได้กักขังทุกสิ่งทุกอย่าง! ในขณะเดียวกัน หลินหยุนก็ใช้กระบี่ กระหน่ำพลังอย่างรุนแรงออกไป

โดยใช้เพลงกระบี่พลังผกผันอีกครั้ง!

ในขณะที่มังกรไฟกำลังถูกกักขังอยู่นั้น กระบี่พลังผกผันที่เต็มไปด้วยจิตสังหารก็ได้ทิ่มแทงออกไป

และทะลุผ่านร่างที่ใหญ่โตของมังกรไฟนั้น

แต่วินาทีถัดมา หลังจากที่มังกรไฟได้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาแล้ว ซึ่งราวกับว่าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย ก็ได้พ่นเปลวเพลิงอันร้อนแรงออกมาอีกครั้ง

หลินหยุนใช้ดาบเฮ่าเทียนวางคั่นเอาไว้ด้านหน้าตัวเขา เปลวเพลิงก็ได้กระหน่ำเข้าใส่ดาบเฮ่าเทียน ซึ่งช่วยต้านทานพลังบางส่วนเอาไว้

แต่หลินหยุนเองก็ยังคงกระอักเลือดออกมา และกระเด็นลอยออกไป

จนมาหยุดอยู่ที่ด้านข้างของเวทีจึงจะทำการทรงตัวอยู่ได้

เมื่อหั่วยู่อีกฝ่ายเห็นเหตุการณ์ดังนั้น ก็หัวเราะฮ่าฮ่าดังลั่น “ไอ้หนุ่ม ตอนนี้นายรู้ถึงความเก่งกาจของฉันแล้วใช่ไหม? ก่อนหน้านี้ที่ปิดผนึกพลังบำเพ็ญนั้น ก็แค่หยอกล้อเล่นกับนายเท่านั้นเอง! ”

“พลังบำเพ็ญของนาย ก็ทำได้แค่โอ้อวดบารมีต่อหน้าพวกที่ไม่ได้เรื่องเหล่านั้นในงานย่องเยาว์ ซึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันแล้ว นายก็แค่พวกมดแมลงเท่านั้น! ”

เมื่อย่ำที่หนึ่ง ชั้นดินชั้นฟ้าสั่นสะเทือนหวั่นไหว!

เมื่อย่ำที่สอง น้ำในยมโลกเกิดการไหลเวียนย้อนกลับ!

เมื่อย่ำที่สาม ยมโลกสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น!

พลังอันมหาศาลที่น่าสะพรึงกลัวและแข็งแกร่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็พลันร่วงหล่นลงมาจากอากาศ และกดทับเอาไว้อย่างหนัก

เวลานี้มังกรไฟที่อยู่ในอากาศก็ได้รู้สึกถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แข็งแกร่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ราบกับว่ามันถูกกักขังเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น

อีกทั้งร่างที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเดิมทีก็คือการแปลงกายมาจากอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหั่วยู่นั้น เวลานี้ก็เหมือนกับว่ากำลังถูกควบคุม ถูกพลังกดทับอยู่

เห็นเหตุการณ์ดังนี้แล้ว ทุกคนต่างก็พากันสูดหายใจลึก

แม้แต่พวกยอดฝีมือขั้นแดนดั่งเทพ ต่างก็รู้สึกอย่างเหลือเชื่อกับสามพลังอานุภาพที่แข็งแกร่งที่ปรากฏขึ้นบนเวทีอย่างกะทันหัน

น่าสะพรึงกลัว!

น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก!

พวกเขาคาดคิดไม่ถึงว่า หลินหยุนผู้นี้จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญเซียนจิตญาณ และยังจะมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่ทรงพลังมากขนาดนี้ด้วย!

อีกทั้งอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่แสดงออกมาในเวลานี้นั้น ก็ไม่เคยได้ยินและไม่เคยพบเห็นมาก่อนด้วย

พวกเขาสามารถที่จะรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นี้เพียบพร้อมไปด้วยพลังอานุภาพที่มหาศาลเกินจะจินตนาการได้

พลังกฎเกณฑ์ หนักแน่นทรงพลังเป็นอย่างมาก!

แน่นอนว่า

อันที่จริงไม่ใช่พลังกฎเกณฑ์ที่ธรรมดา แต่ถึงขนาดพลังต้าเต๋าแล้ว

ถึงแม้ในตอนนี้หลินหยุนจะสามารถก้าวย่ำได้ถึงห้าขั้น

แต่ก็ยังคงเป็นเพียงแค่พลังต้าเต๋าระยะต้นเท่านั้นเอง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์