สรุปตอน บทที่ 1639 อยู่ระหว่างการประลอง – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
ตอน บทที่ 1639 อยู่ระหว่างการประลอง ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
หลินหยุนพยักหน้า และพูดขึ้นมาว่า “การแข่งขันครั้งนี้ต่างจากเมื่อก่อน หลางเลี่ยน่าจะเป็นไพ่ตายในมือขององค์ชายสาม! มีความเป็นไปได้สูงที่จะกลับมา!”
เว่ยหลีขมวดคิ้วพูดขึ้นมาในทันทีว่า “ศิษย์น้อง หากหลางเลี่ยกลับมาจริงๆ นายจะต้องระวังให้มากขึ้น คนคนนี้……ยังน่ากลัวกว่าหวูตี๋ร้อยเท่า!”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดขึ้นมาว่า “ไม่เป็นไร”
หลังจากที่ส่งเว่ยหลีไป หลินหยุนก็เข้าสู่ในการเก็บตัวฝึกตน
ในช่วงพลบค่ำ บุคคลที่ทำให้หลินหยุนคาดไม่ถึงก็มาที่ถ้ำอีกครั้ง
หลังจากที่ฉินเฟิงเข้าไปในถ้ำ ก็พูดในทันทีว่า “ศิษย์พี่หลินหยุน ไท่จื่อให้ฉันมาบอกกับศิษย์พี่ ว่าระวังหลางเลี่ยด้วย!”
จากนั้น ยังส่งข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับหลางเลี่ยให้กับหลินหยุนด้วย ถึงได้ออกไป
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาก็ถึงช่วงการประลองเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งวัน
ท้ายที่สุดจักรพรรดิก็สิ้นพระชนม์ก่อน
ดังนั้นก่อนหน้าที่จะเริ่มการประลองในปีนี้ ทางสถาบันได้จัดพิธีบวงสรวงครั้งใหญ่
ไท่จื่อและองค์ชายสามมาด้วยตัวเอง
อ๋องบุ๋นก็มีขุนนางชั้นผู้ใหญ่เกือบทั้งหมดมาที่สถาบัน
หลังจากที่พิธีบวงสรวงผ่านไป วันรุ่งขึ้นการประลองก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เก้ายอดเขาใหญ่ รวมทั้งลูกศิษย์ที่ไม่ได้เลือกยอดเขา
มีทั้งหมดสิบส่วน
มีลูกศิษย์ทั้งหมดเกือบห้าร้อยคน
แบ่งเป็นสนามเล็กก่อน
ตัวอย่างเช่นเขาธานี ก็คือลูกศิษย์ทั้งหมดของเขาธานีได้ขึ้นเวที
สุดท้ายสามอันดับแรกที่เหลืออยู่ ก็เข้าสู่รอบต่อไป
ส่วนบาดเจ็บสาหัสและถูกตีออกจากเวทีสังเวียน ก็คืออันดับของทุกคน
เก้ายอดเขาใหญ่ เก้าสนามเล็ก ประกอบกับลูกศิษย์ไม่ได้เข้าร่วมยอดเขาอย่างหลินหยุน ก็คือการประลองสิบสนามเล็ก
จุดเริ่มต้นแรกคือเขากระบี่ก็เป็นยอดเขาที่หวูตี๋อยู่
หวูตี๋เป็นคนแรกที่ขึ้นเวทีสังเวียน
ทันใดนั้นทุกคนก็กรีดร้องขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินหยุนได้เห็นหวูตี๋
ต้องบอกว่า คนคนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ
หนึ่งคนถือดาบหนึ่งเล่มยืนอยู่บนเวทีสังเวียน ก็ให้คนรู้สึกกดดันอย่าสุดขีด
จากนั้นลูกศิษย์ทั้งหมดของเขากระบี่ก็ขึ้นเวทีสังเวียน และเริ่มต่อสู้ระยะประชิด
ชั่วขณะหนึ่ง บนสังเวียนเต็มไปด้วยพลังอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์หลากสีนับไม่ถ้วนและแสงของวิเศษ
แต่ทุกคน ก็ไม่มีใครกล้าลงมือกับหวูตี๋
หวูตี๋ก็ยืนอยู่ตรงกลางเวทีสุด
ก็ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น
ในท้ายที่สุดมีลูกศิษย์หญิงคนหนึ่งของเขากระบี่และลูกศิษย์ชายคนหนึ่ง รวมกับหวูตี๋ทั้งสามคน กลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย
หลังจากที่เขากระบี่เสร็จสิ้นก็เป็นเขาสิ้นทุกข์ เขาพิณไพและอื่นๆ
ทั้งหมดก็ปรากฏตัวในสามอันดับแรกสักที
เก้ายอดเขาใหญ่ มีลูกศิษย์รวมทั้งหมดยี่สิบเจ็ดคน
สนามเล็กสุดท้าย ก็ถึงตาคนที่ไม่ได้เข้าร่วมยอดเขาอย่างหลินหยุนอย่างพวกเขา
ในสถาบัน ลูกศิษย์ที่ไม่ได้เข้าร่วมยอดเขาอย่างพวกเขา ก็มีจำนวนมากที่สุดเช่นกัน
ถึงขนาดเกือบจำนวนสามร้อยคน
ทำอะไรไม่ได้ แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้คือของเหลือที่เลือกไปแล้ว
ผู้ทรงพลัง และมีความสามารถอย่างแท้จริง จะไม่ถูกเหลือไว้
ก็เหมือนกับตอนที่หลินหยุนเข้าสู่สถาบัน ก็ก่อให้เกิดการต่อสู้เล็กน้อยขึ้นสักพัก
และในเวลานี้ แทบจะเป็นไปตามธรรมชาติ สายตาของคนส่วนใหญ่ก็จับจ้องไปที่บนตัวของหลินหยุน
บนที่นั่งวีไอพี ไท่จื่อ องค์ชายสาม องค์หญิงเก้า ยังมีข้าราชบริพาร เกือบทั้งหมดมองไปที่หลินหยุน
เพราะทุกคนรู้ว่า หลินหยุนเป็นคนของไท่จื่อ
การแข่งขันครั้งนี้
ทรงพลานุภาพ
ทุกสายตาจับจ้องไปที่บนตัวของหลินหยุน
นอกเหนือจาก ไท่จื่อที่อยู่ในสถาบัน แน่นอนว่าก็เป็นลูกศิษย์อัจฉริยะส่วนหนึ่ง แต่ความจริงพูดได้เพียงว่าธรรมดาเท่านั้น
ไม่มีใครไปสนใจ
ไม่ว่าจะเป็นยอดเขาอื่น หรือกลุ่มคนมีอำนาจในที่นั่งวีไอพีก็กำลังจับตามองหลินหยุน
ลูกศิษย์เหล่านี้ที่อยู่กับเขาไม่ได้เข้าร่วมยอดเขาต่างๆ ก็กำลังมองเขาอยู่
หลินหยุนไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่น
เป็นคนแรกที่ก้าวขึ้นไปบนเวทีสังเวียนก่อน
ตามด้วยคนที่สอง คนที่สาม……
ในไม่ช้า ลูกศิษย์เกือบสามร้อยคน ก็ขึ้นมาเวทีสังเวียนทั้งหมด
ตามด้วยคำสั่งของผู้อาวุโสที่ควบคุม การประลองจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
หันหลังเดินลงเวทีสังเวียน
คนต่อไปที่ขึ้นเวทีคือหยวนเย่
ในลูกศิษย์จิตปฐมของสถาบัน จัดอยู่ในอันดับสาม
คนคนนี้เคยพบเจอกับหลินหยุนครั้งแรกก็ถูกชะตา
คู่กับลูกศิษย์คนหนึ่งของเขาไผ่
ได้รับชัยชนะง่ายพอๆกัน
ทางด้านหลินหยุน ทันทีที่ขึ้นเวทีสังเวียน ลูกศิษย์หญิงของเขาพิณไพก็พูดขึ้นมาในทันทีว่า “ฉันยอมแพ้แล้ว!”
ตามด้วยเสียงยอมแพ้ของหญิงสาวคนนี้ดังมา ทุกคนก็มองไปทางเขาพิณไพอย่างเหลือเชื่อ
อัจฉริยะของเขาพิณไพ ก็เลือกที่จะไม่ต่อสู้
สิ่งนี้ทำให้คนคาดไม่ถึง
แต่ว่าใครก็ควบคุมไม่ได้
หลินหยุนไม่ได้ลงมือ เข้าสู่รอบที่สาม
เหลืออีกสิบห้าคนในนั้น
ลูกศิษย์สองคนนั้นที่ไม่ได้เข้าสู่ยอดเขาเหมือนกับหลินหยุน ล้วนถูกกำจัดออกไป
ทางเขาธานีนั้น ตามด้วยชิงเฟิงถูกกำจัดออกไป
เซียวเหนี่ยนกลับอยู่ต่อ
เหลือเพียงเขาล่ะหนึ่งคนหรือสองคน
รอบที่สาม จับฉลากต่อไป
สิบห้าคน มีคนหนึ่งที่ว่างอยู่
ตอนนี้ทุกคนอยากเห็นว่า หลินหยุนที่ถูกไท่จื่อเลือกไว้ จะแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งอะไร
แต่เหมือนพระเจ้าจะขัดขวางความต้องการของผู้คน
คนที่ว่างอยู่รอบที่สาม กลับเป็นหลินหยุน
ก็แบบนี้ หลินหยุนเข้าสู่รอบที่สี่
และในไม่ช้า สิบสี่คนก็ตัดสินผู้แพ้ผู้ชนะได้เช่นกัน
ความแข็งแกร่งของแต่ละคน ทุกคนก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
ผลลัพธ์โดยทั่วไปไม่ได้เกินกว่าที่คาดไว้
หวูตี๋ หยวนเย่ ศิษย์พี่ใหญ่ของเขาพิณไพ จิ่วมู่ศิษย์พี่ใหญ่ของเขาไผ่ ปี้โหยวแห่งเขาสิ้นทุกข์และคนอื่นๆ ทั้งหมดได้รับชัยชนะ
แน่นอนว่ายังมีหลินหยุนที่เข้าสู่รอบต่อไปโดยไม่มีการต่อสู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...