จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1644

สรุปบท บทที่ 1644 การต่อสู้ของผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรม: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 1644 การต่อสู้ของผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรม – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

ตอน บทที่ 1644 การต่อสู้ของผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรม ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ที่สถาบัน หลินหยุนกำลังเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนอยู่ในวิมาน

ด้านหลังภูเขา

ในช่วงเช้า ผู้อาวุโสเจียงได้เดินออกมาจากกระท่อม

ผู้อาวุโสเจียงในวันนี้ ได้เปลี่ยนชุดเสื้อผ้าใหม่ ไม่หลงเหลือภาพลักษณ์ที่ดูสกปรกยุ่งเหยิงแบบเดิมนั้นเลย

และเธอก็ยังได้จัดแต่งทรงผมให้เป็นรูปทรงอย่างเหมาะสมแล้วด้วย

แววตาก็ยิ่งจะดูสดใสขึ้นเป็นอย่างมาก

กลิ่นอายลมหายใจในร่างกายก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย

มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้นมาก

ขณะที่เดินออกมาจากกระท่อมแล้ว ผู้อาวุโสเจียงก็ได้เดินลงจากภูเขาไป

ที่ปลายเขานั้นมีลำธารสายหนึ่ง

ซึ่งไม่กว้างใหญ่มากนัก และมีน้ำใสสะอาดจนมองทะลุเห็นถึงก้นบึ้ง

ทางฝั่งตรงข้ามของลำธาร ก็คือสวนยาแห่งหนึ่ง

ภายในมีการเพาะปลูกหญ้าทิพย์นานาชนิด

ทางทิศเหนือของสวนยา ก็คือสถานที่ต้องห้าม

บริเวณด้านหน้าของสถานที่ต้องห้าม มีศิลาหินตั้งตระหง่านอยู่แท่นหนึ่ง

ด้านบนเขียนอักษรไว้ว่า “คนนอกห้ามเข้า”

ด้านหลังคือป่าไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบ

ซึ่งมองเห็นสภาพด้านในอย่างไม่ชัดเจน

ผู้อาวุโสเจียงมาถึงด้านล่างของภูเขา และถอดรองเท้าออก พร้อมกับเดินย่ำลงไปในลำธารที่น้ำใสจนเห็นก้นบึ้ง หลังจากนั้นก็เดินผ่านสวนยา มาถึงตรงด้านหน้าของหินศิลานั้น

สายตาของเธอได้จดจ้องอยู่ที่หินศิลานั้นชั่วขณะหนึ่ง

จึงได้หันมองไปยังป่าไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบนั้น ราวกับว่าสายตาของเธอสามารถมองทะลุป่าไม้ไปได้อย่างไรอย่างนั้น

ในขณะนั้นเอง

บนยอดเขาหลักของสถาบัน ก็ได้มีลำแสงสียาวพุ่งทะยานออกมา

คนยังมาไม่ถึง แต่เสียงมาถึงก่อนแล้ว

“ศิษย์พี่! หยุดก่อน! ”

“คุณเข้าไปด้านในไม่ได้! ”

ผู้อาวุโสเจียงค่อย ๆ หันหน้ากลับมา แล้วลำแสงสีขาวนั้น ก็ได้มาถึงยังเบื้องหน้าของเธอ

ซึ่งก็คือชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีขาวที่เคยปรากฏตัวขึ้นตรงที่บ่อเลี้ยงจิตวิญญาณตอนก่อนหน้านี้

เมื่อมาถึง ชายวัยกลางคนก็รีบพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่ คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ! คุณได้หลงลืมคำพูดของฟูจื่อ ที่ได้พูดไว้ก่อนที่จะจากไปแล้วเหรอ? ห้ามเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามโดยเด็ดขาด! ”

ผู้อาวุโสเจียงพูดขึ้นว่า “ฉันไม่เข้าไปด้านใน แล้วนายจะเป็นผู้นำของสถาบันได้อย่างไร? ”

ชายวัยกลางคนได้ยินดังนั้น ก็พลันขมวดคิ้วขึ้นและพูดว่า “ศิษย์พี่! คุณทำแบบนี้ทำไม? หลายปีมาแล้วที่สถาบันไม่ได้เข้าร่วมช่วงชิงอำนาจกันในราชวัง! นี่ก็คือความต้องการของฟูจื่อ แต่ตอนนี้ทำไมคุณถึงจะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแย่ ๆ เหล่านี้ด้วย? ”

ผู้อาวุโสเจียงหัวเราะฮึฮึและพูดว่า “เป็นความต้องการของพวกนายก็บอกว่าเป็นความต้องการของพวกนาย อย่าได้นำฟูจื่อมาเป็นข้ออ้าง! ฟูจื่อมีความต้องการแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน? ทำไมฉันถึงจำไม่ได้ว่าฟูจื่อได้เคยพูดแบบนี้เอาไว้ด้วย? ไม่อย่างนั้น นายเตือนสติฉันหน่อยสิ? ”

ชายวัยกลางคนพูดขึ้นว่า “ทุกครั้งที่กษัตริย์องค์ก่อนเข้าร่วมประลองในสนามรบหมื่นจักรวาล ในราชวังก็เกิดความโกลาหลช่วงชิงอำนาจขึ้นเป็นประจำ แต่มีครั้งไหนบ้างที่ฟูจื่อปล่อยให้สถาบันเข้าร่วมด้วย? ”

“อีกทั้ง ไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ปัจจุบันนี้ ต่อให้เป็นราชวงศ์ก่อนหน้านับเป็นพันปี”

“สถาบันของเราเคยได้เข้าร่วมสถานการณ์แบบนี้เมื่อไรกันล่ะ? ”

“หรือว่าขนาดนี้แล้วก็ยังจะพูดไม่ได้ว่าเป็นความต้องการของฟูจื่ออีกเหรอ? ”

“ฉันทราบดีว่าเป็นเพราะเรื่องราวในอดีตจึงทำให้ศิษย์พี่นั้นไม่เคยคิดที่ปล่อยวางมาโดยตลอด แต่ศิษย์พี่ นี่ไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะเข้าร่วมสถานการณ์ดังกล่าวนั้น! ”

“หรือจะพูดว่า เรื่องราวมันได้ผ่านพ้นไปเป็นเวลานานหลายปีแล้ว! ”

“หล่อนได้จากไปตั้งนานแล้ว! ”

“ทำไมคุณยังต้องทนทุกข์ไม่ปล่อยวางลงอีกล่ะ? ”

ดูเหมือนว่าชายวัยกลางคนไม่พูดคำนี้ยังจะดีเสียกว่า แต่เมื่อได้พูดคำนี้ออกไป สีหน้าของผู้อาวุโสเจียงก็หม่นหมองลงไปทันที

ยิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า “อะไรคือที่เรียกว่าไม่ปล่อยวาง? ฟางเอี่ยนฉันถามนายหน่อยว่า นายคิดว่า ฉันควรที่จะปล่อยวางลงอย่างนั้นหรอกเหรอ? ”

“ผู้หญิงที่เลวทรามคนนั้น ในอดีตฉันปฏิบัติกับหล่อนอย่างไรบ้าง? ”

“นายมองมาที่ดวงตาของฉันสิ แล้วนายบอกฉันมาหน่อยว่า นายไม่รับรู้ไม่เข้าใจใช่ไหม? ”

“แต่หลังจากนั้นหล่อนปฏิบัติกับฉันอย่างไร? ”

“ร้อยปีมานี้ฉันราวกับเป็นคนที่ไร้จุดหมายใช้ชีวิตอยู่ไปวัน ๆ! ”

“ความโกรธแค้นในใจของฉัน นายบอกฉันมาหน่อยสิว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นนาย นายจะปล่อยวางลงไปได้ไหม? ”

กฎเกณฑ์ทั้งสองเติมเต็มซึ่งกันและกัน

ล้วนแต่เป็นกฎเกณฑ์ที่มีพลังโจมตีอย่างไร้ขีดจำกัด

ฟางเอี่ยนดวงตาเป็นประกายโดยไม่กล้าที่จะเพิกเฉย ส่ายศีรษะอย่างจำใจ พร้อมกับแสดงกฎเกณฑ์แห่งไม้ กระหน่ำโจมตีออกไป

ในจำนวนธาตุทั้งห้านั้น

ธาตุไฟพิชิตธาตุไม้

โดยที่สายฟ้าไม่ได้อยู่ในธาตุทั้งห้า แต่ก็พิชิตธาตุไม้ได้ด้วยเช่นกัน

เพียงแต่ว่าธาตุไม้ก็เป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนจากสถานการณ์อันเลวร้ายกลายเป็นสถานการณ์ที่ดี

ภายใต้พลังสายฟ้า ธาตุไม้เพียบพร้อมด้วยโอกาสที่จะตายแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่

แต่ในเวลานี้ กฎเกณฑ์แห่งไม้ของฟางเอี่ยนนั้นแข็งแกร่งทรงพลังอย่างมาก

กฎเกณฑ์แห่งสายฟ้าและกฎเกณฑ์แห่งไฟ คงไม่มีทางที่จะทำลายกฎเกณฑ์แห่งไม้ของเขาลงได้อย่างแน่นอน!

กฎเกณฑ์ทั้งสองได้ถูกกฎเกณฑ์แห่งไม้ระงับควบคุมเอาไว้ได้อีกครั้ง

ฟางเอี่ยนพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่ ฉันเคยพูดแล้วว่า คุณเสียเวลาเปล่าไปนับร้อยปี ตอนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันแล้ว วันนี้ ศิษย์พี่กลับไปซะเถอะ! ”

ผู้อาวุโสเจียงยิ้มเยาะ และพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่านายจะบรรลุขั้นแดนขึ้นไม่น้อยเลย! แต่นายคิดว่าแบบนี้ก็สามารถเอาชนะฉันได้แล้วอย่างนั้นเหรอ? น่าขันสิ้นดี! ”

ขณะที่เธอพูดจบ

กฎเกณฑ์แห่งสายฟ้าและกฎเกณฑ์แห่งไฟก็ได้ผสมผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

กลิ่นอายลมหายใจอันน่าสะพรึงกลัวก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด

เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนี้แล้ว ฟางเอี่ยนพลันตื่นตกใจ “นี่......นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน? ศิษย์พี่คุณ......”

เข้าสู่ธรรมะ!

ไม่ว่าจะเป็นทั้งสองกฎเกณฑ์นั้นหรือจะอีกหลายกฎเกณฑ์ก็ตาม เพียงแค่ทั้งสองกฎเกณฑ์รวมตัวกันก็สามารถเข้าสู่แดนธรรมะได้!

เดิมทีทั้งสองกฎเกณฑ์นั้นยังแข็งแกร่งเทียบเท่าไม่ได้กับกฎเกณฑ์หนึ่งเดียวของฟางเอี่ยนเลย

แต่เวลานี้หลังจากที่ผสมผสานรวมกันเป็นหนึ่ง อานุภาพอันน่าสะพรึงกลัวกลับเหนือกว่าพลังของ ฟางเอี่ยนเป็นร้อยเท่าแล้ว!

นี่ก็คือการเข้าสู่ธรรมะ!

เวลานี้ ฟางเอี่ยนถึงขนาดมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาได้แสดงพลังทั้งกฎเกณฑ์กักขังและกฎเกณฑ์แห่งไม้ออกมา ในขณะเดียวกันก็ได้แสดงกฎเกณฑ์แห่งน้ำ กฎเกณฑ์แห่งเหมันต์ กฎเกณฑ์แห่งฝน กฎเกณฑ์แห่งกระบี่ ทั้งหกกฎเกณฑ์ออกมาทั้งหมดเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์