ขณะที่พูด จี้เสวี่ยหลันก็มองไปที่จี้ฝานซิง และพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่เสียใจว่า “พี่ฝานซิง ต้องขอโทษด้วยอย่างมาก เรื่องนี้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องของพี่ แต่ในมุมมองของผู้เป็นน้องสาวแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของตระกูลเหมือนกัน ดังนั้น วันนี้ฉันจึงต้องพูดออกมาให้คุณแม่รับทราบ”
เวลานี้ สีหน้าของจี้ฝานซิงย่ำแย่ลงอย่างที่สุดแล้ว
จี้โม่เองก็ได้มองไปที่จี้ฝานซิง และก็กวาดสายตามองไปยังหลินหยุนที่อยู่ด้านข้าง เธอนั้นเพิ่งจะออกมาจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝน แม้จะสังเกตเห็นว่ามีหลินหยุนอยู่ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรไปมากนัก
เวลานี้ได้ยินคำพูดของจี้เสวี่ยหลันแล้ว จี้โม่เองก็เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ฝานซิง เธอเป็นฝ่ายพูดเถอะ เธอเองก็น่าจะรู้แล้วว่า วันนี้ กำลังที่จะพูดคุยเรื่องการแต่งงานระหว่างเธอกับคุณชายฟางเหย่นั้น พอดีเลย เธอแนะนำผู้ที่อยู่ด้านข้างตัวเธอหน่อยสิ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนภายนอกมาพูดกล่าวหาว่าตระกูลจี้ของพวกเรานั้นผิดทำนองคลองธรรม! ”
จี้ฝานซิงลุกยืนขึ้นอีกครั้ง ขณะที่กำลังจะพูด แต่ว่า หลินหยุนเองก็ลุกยืนขึ้นจากที่นั่งด้วยเหมือนกัน และเดินไปยังใจกลางของห้องโถง แล้วก็เกิดประกายแสงขึ้นในมือ ขวดสีม่วงใบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขา
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “เจ้าบ้านจี้ ฉันคือหลินหยุนเป็นเด็กรุ่นหลังคนหนึ่ง วันนี้เป็นวันเกิดของท่านผู้อาวุโส นี่คือของขวัญอวยพรที่เด็กรุ่นหลังจะมอบให้! หวังว่าท่านผู้อาวุโสจะรับเอาไว้! ”
ขณะที่หลินหยุนพูด ขวดสีม่วงก็ลอยมาถึงบนโต๊ะเบื้องหน้าของจี้โม่
เมื่อเห็นของขวัญชิ้นนี้ของหลินหยุนแล้ว ทุกคนต่างก็ดวงตาเป็นประกายขึ้นทั้งหมด
ขวดสีม่วงใบนี้ ก็คือสิ่งรองรับที่มีระดับสูงมากชิ้นหนึ่ง
โดยสามารถใช้สิ่งรองรับนี้บรรจุสิ่งของได้ จะง่ายดายขนาดนี้เชียวเหรอ?
จี้โม่ไม่ได้เปิดขวดหยกออก แต่ก็รับรู้ได้ว่าภายในขวดสีม่วงนั้น บรรจุสิ่งของอะไรไว้
แต่เธอกลับไม่รู้ว่า น้ำชนิดนี้คือน้ำอะไรกันแน่
จี้ฝานซิงได้สร้างคฤหาสน์ขึ้น โดยที่ไม่เคยมาพักอาศัยอยู่ในตระกูลเลย เรื่องนี้เธอเองรับรู้เป็นอย่างดี
แต่สำหรับทะเลสาบภายในคฤหาสน์ของจี้ฝานซิง รวมถึงความพิเศษของทะเลสาบนั้น เธอเองก็ยังไม่รับรู้อย่างแน่ชัด
เป็นไปได้ที่บางคนอาจจะเกิดความสงสัยขึ้นมาบ้างแล้ว
คฤหาสน์ของจี้ฝานซิงอยู่ห่างจากเมืองเจวี้ยนไม่ไกลมากนัก ไม่ต้องพูดถึงทั้งสิบตระกูลนั้นหรอก เพียงแค่พวกผู้บำเพ็ญเซียนในเมืองเจวี้ยนเหล่านั้น ก่อนหน้านี้ก็ยังไม่เคยรับรู้อย่างนั้นเหรอ?
เป็นอย่างที่ว่านี้จริง ๆ ด้วย
ตอนที่จี้ฝานซิงค้นพบทะเลสาบแห่งนี้นั้น ที่จริงแล้วก็คล้ายคลึงกับบ่อน้ำพุ อีกทั้งในตอนนั้นก็ไม่มีปลาแรดปรากฏขึ้น
ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดให้ความสนใจอะไรเลยจริง ๆ
ซึ่งการที่จี้ฝานซิงสามารถพบเจอได้นั้น นั่นก็เป็นผลที่เกิดขึ้นมาจากความบังเอิญ
ต่อมา เนื่องจากจี้ฝานซิงได้ก่อสร้างคฤหาสน์ขึ้นแล้ว
จากนั้นบ่อน้ำพุเดิมนั้น ก็ได้ผ่านวิวัฒนาการมานานหลายปี ในที่สุดจึงกลายเป็นแบบที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้
โดยกลายเป็นทะเลสาบไปแล้ว
อีกทั้งปัจจุบันนี้ก็ยังคงขยายขนาดใหญ่ขึ้นทีละนิดทีละนิดมาโดยตลอด
สำหรับการที่มีปลาแรดปรากฏตัวขึ้นนั้น นั่นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากผ่านมาแล้วกว่าสิบปี
จี้โม่เป็นถึงยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนปลาย
เวลานี้พลังแห่งจิตญาณได้เข้าไปสำรวจภายในขวดสีม่วงนั้นแล้ว และก็พบถึงความแตกต่างของน้ำที่อยู่ด้านทันที
น้ำเหล่านี้ มีพลังการหลอมละลายที่แข็งแกร่ง ต่อพลังแห่งกฎเกณฑ์ และพลังแห่งจิตญาณของเธอ
ในช่วงพริบตาเดียว เธอก็เข้าใจแล้ว
ขณะนี้ จึงไม่กล้าที่จะมองข้ามหลินหยุนอย่างเด็ดขาด
เพราะเธอไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า ในจักรวาลมีน้ำแบบนี้อยู่ด้วย
ขณะนั้นก็มองไปที่หลินหยุน และพูดขึ้นว่า “นายกับฝานซิง ตกลงมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่? ”
หลินหยุนหยุดชะงักไปชั่วครู่ และหันหลังกลับมามองไปที่จี้ฝานซิงเล็กน้อย
จี้ฝานซิงในตอนนี้ มีสีหน้าที่ย่ำแย่อย่างที่สุด และถึงขั้นตื่นตระหนกไปหมดแล้ว
จิตใจของหลินหยุนก็รู้สึกทนไม่ไหวขึ้นในทันที
เห็นสภาพของจี้ฝานซิงในตอนนี้ หลินหยุนก็สูดหายใจลึก พร้อมกับหันมองไปยังจี้โม่และพูดขึ้นว่า “ท่านผู้อาวุโส จี้ฝานซิงคือผู้หญิงของฉัน! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...