สรุปตอน บทที่ 1714 เกิดการต่อต้าน – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
ตอน บทที่ 1714 เกิดการต่อต้าน ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเห็นไม้ปราบวิญญาณ์แล้ว สายตาของจี้โม่ที่ปกติจะสงบนิ่งก็เกิดการเคลื่อนไหวขึ้นเล็กน้อย
ไม้ปราบวิญญาณ์มีประโยชน์กับเธออย่างมากเลยจริง ๆ
จี้โม่มองไปที่จี้อู๋ซวง และพูดขึ้นว่า “อู๋ซวง ไม้ปราบวิญญาณ์นี้ หากกวาดสายตามองไปทั่วจักรวาลแล้ว แม้จะไม่ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าสูงสุดอย่างแท้จริง แต่ก็ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแล้ว นายไปได้ของสิ่งนี้มาจากที่ไหน? ”
จี้อู๋ซวงตอบอย่างเคารพว่า “เรียนคุณแม่ เป็นเพราะจากการที่ลูกได้เข้าไปในป่าต้นลอกวิญญาณ์โดยไม่ได้ตั้งใจ และได้รับสิ่งนี้มาด้วยความโชคดี! ”
จี้โม่ดวงตาเป็นประกาย และพูดว่า “นายไปที่ป่าต้นลอกวิญญาณ์มาเหรอ? ”
จี้อู๋ซวงพยักหน้าและพูดว่า “ใช่แล้ว ลูกได้ยินมาว่า พลังบำเพ็ญยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไร ปีศาจในจิตใจก็จะยิ่งเติบโตมากขึ้น ไม่มีผู้ใดสามารถหลีกเลี่ยงไปได้ แต่ไม้ปราบวิญญาณ์นี้มีประสิทธิภาพในการยับยั้งปีศาจในจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งของที่คุณแม่กำลังต้องการ จึงได้ลองไปเสี่ยงโชคดู! คิดไม่ถึงว่า ลูกจะพบเจอมันได้จริง ๆ อาจเป็นไปได้ว่าสวรรค์สงสารเด็กที่มีความกตัญญูจึงได้ดลบันดาลให้! ”
แม้ว่าจี้อู๋ซวงจะเล่าบรรยายในแบบที่เรียบง่าย
แต่ภายในห้องโถงนั้น ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าท่าทางที่ซาบซึ้งใจ
ป่าต้นลอกวิญญาณ์คือสถานที่อะไร พวกเขาต่างก็รับรู้และเข้าใจเป็นอย่างดี!
เมื่อเข้าไปแล้ว ก็จะพบกับอันตรายความเสี่ยงอย่างยิ่งยวด
ไม่ต้องพูดถึงแดนดั่งเทพ ต่อให้เป็นแดนสู่ธรรมะเข้าไป ก็ไม่ง่ายเลยที่จะกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย
อีกทั้ง แม้ว่าจะรับรู้ว่าภายในป่าต้นลอกวิญญาณ์นั้น มีไม้ปราบวิญญาณ์ แต่แทบจะไม่มีใครที่จะได้สิ่งนี้จากภายในป่าต้นลอกวิญญาณ์เลย
เรื่องนี้ มีจำกัดแค่ในตำนานเท่านั้น
ใครก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่า จี้อู๋ซวงผู้นี้ที่เป็นเพียงแค่แดนดั่งเทพ ไม่เพียงจะสามารถกลับออกมาจากป่าต้นลอกวิญญาณ์ได้อย่างปลอดภัยแล้ว ยังจะได้รับไม้ปราบวิญญาณ์กลับออกมาด้วย
ช่างน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
จี้โม่พยักหน้าเล็กน้อย โดยสายตาที่มองไปยังจี้อู๋ซวงนั้น ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างชัดเจน แต่น้ำเสียงที่พูดก็ยังคงสงบนิ่งเหมือนเดิม และพูดขึ้นว่า “ที่จริงแล้ว บาดแผลที่ร่างกายของนายนั้น ก็มาจากป่าต้นลอกวิญญาณ์ใช่หรือไม่? ”
จี้อู๋ซวงได้ยินดังนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “ให้คุณแม่ต้องเป็นกังวลอีกแล้ว แต่ว่าบาดแผลของลูกนั้นไม่หนักหนาสาหัสอะไร ขอให้คุณแม่วางใจได้! ”
จี้โม่กวัดแกว่งแขน ขวดหยกใบหนึ่งก็ลอยตรงไปยังจี้อู๋ซวง และจี้อู๋ซวงก็รับเอาไว้ในมือ “อู๋ซวง นายยอดเยี่ยมมาก กินโอสถเม็ดนี้เข้าไปเถอะ! ”
จี้อู๋ซวงก็พลันตกใจขึ้นและพูดว่า “ขอบคุณคุณแม่อย่างมาก! ”
จากนั้นก็เปิดขวดหยกออก แล้วก็นำโอสถที่อยู่ภายในออกมา เงยหน้าและกลืนกินเข้าไป
เพียงพริบตาเดียว พลังอันอ่อนโยนก็ได้ปะทุขึ้นในร่างกายของเขา
ไม่เพียงแค่พริบตาเดียวก็สามารถรักษาฟื้นฟูบาดแผลให้หายดีได้แล้ว ถึงขนาดที่พลังแห่งกฎเกณฑ์ของเขานั้น ก็ยังเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอีกไม่น้อยด้วย
หลังจากที่จี้อู๋ซวง กล่าวคำขอบคุณอีกครั้ง จึงได้เดินกลับเข้าไปยังที่นั่งของตนเอง
เวลานี้ คุณน้าจี้ม่านที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นว่า “พี่สาว อู๋ซวงคนนี้มีความกตัญญูอย่างมาก ฉันอิจฉาเธอเลยจริง ๆ ที่มีพวกลูก ๆ ที่มีความกตัญญูแบบนี้”
จี้โม่พยักหน้าเล็กน้อย และพูดว่า “ไม่เลวเลยทีเดียว! ”
จี้ม่านกวาดสายตามองลงมาด้านล่าง และก็พูดขึ้นว่า “พวกเด็กรุ่นหลังของตระกูลจี้ ยังมีใครที่จัดเตรียมของขวัญเอาไว้อีก ให้รีบนำมามอบโดยเร็วเถอะ เพราะยังจะมีเรื่องสำคัญอย่างอื่นอีก! ”
ได้ยินคุณน้าจี้ม่านพูดแบบนี้ จี้หนิงที่อยู่ด้านล่างก็พูดขึ้นว่า เรียนคุณน้า ยังเหลือพี่ฝานซิงอีกคน ของขวัญของพวกเรานั้นได้มอบออกไปกันหมดแล้ว ยังเหลือเพียงแค่พี่ฝานซิงคนเดียวแล้ว! ”
ขณะที่พูด จี้หนิงก็มองไปที่จี้ฝานซิง และพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่มีความหวัง “พี่ฝานซิง น่าจะได้จัดเตรียมของขวัญให้กับคุณแม่ไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะสิ ฉันเชื่อว่า ของขวัญอวยพรของพี่ฝานซิงนั้น จะต้องไม่ด้อยไปกว่าของพี่อู๋ซวงเป็นแน่ พี่ฝานซิง รีบนำของขวัญของคุณออกมาเถอะ เพื่อจะได้ให้พวกเราได้เห็นได้ชมกัน! ”
เสียงพูดของเขาไม่ดังนัก แต่กลับได้ยินกันไปทั่วทั้งภายในห้องโถงอย่างชัดเจน
เวลานี้ สายตาของทุกคน ต่างก็จับจ้องมาที่จี้ฝานซิงกันทั้งหมดแล้ว
นี่เท่ากับว่าเป็นการจับตัวจี้ฝานซิงวางไว้บนเตาย่างเลยทีเดียว
“วันนี้คือวันเกิดของเจ้าบ้าน ทำไมเธอถึงแสดงพฤติกรรมแบบนี้ได้? ”
“เธอทำให้ทุกคนผิดหวังมากเลยทีเดียว! ”
เมื่อผู้อาวุโสสามพูดจบ จี้เสวี่ยหลันที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นว่า “ฉันได้ยินว่าพี่ฝานซิงได้จัดเตรียมของขวัญวันเกิดให้กับคุณแม่ไว้ล่วงหน้านานแล้ว แต่ทำไมเตรียมตัวเป็นเวลาตั้งนานขนาดนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเตรียมของขวัญแบบนี้? พี่สาว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
จี้โม่พูดขึ้นว่า “พอได้แล้ว ของขวัญก็เป็นเพียงแค่น้ำใจส่วนหนึ่งเท่านั้น เพียงแค่มีจิตใจที่จะมอบให้ก็พอแล้ว! ฝานซิง เธอมีนิสัยที่ค่อนข้างสันโดษ ไม่ยอมที่จะอาศัยอยู่ในตระกูล เรื่องนี้ก็ตามแต่ที่ใจเธอต้องการ แต่เรื่องการบำเพ็ญฝึกฝนนั้นห้ามปล่อยปละละเลยและไม่สนใจอย่างเด็ดขาด! ”
จี้ฝานซิงรีบน้อมศีรษะลงและพูดว่า “ขอบคุณคุณแม่มาก! ”
ขณะที่พูด ก็กำลังจะเดินกลับไปยังที่นั่ง
เวลานี้ จี้เสวี่ยหลันก็ได้พูดขึ้นอีกครั้งว่า “คุณแม่ ท่านยังคงไม่รู้จักคนที่นั่งอยู่ด้านข้างของพี่ฝานซิงนั่นสินะ? ฉันจะแนะนำแทนพี่สาวให้ก็แล้วกัน! ”
“คนผู้นี้ชื่อว่าหลินหยุน เป็นผู้ฝึกอิสระ ก่อนหน้านี้ไม่นาน ได้มาถึงเมืองเจวี้ยน เมื่อมาถึงแล้ว ก็ได้ลงมือสังหารเสิ่นฉุนคุณชายสามของตระกูลเสิ่นในที่สาธารณะ! ”
“เดิมทีตระกูลเสิ่นต้องการที่จะแก้แค้น แต่ก็ได้ถูกพี่ฝานซิงขัดขวางเอาไว้”
“ด้วยเหตุนี้ พี่ฝานซิงจึงได้นำป่าไม้หมึกที่ตัวหล่อนนั้นเป็นผู้จัดการดูแล ส่งมอบให้กับตระกูลเสิ่น เพื่อให้ตระกูลเสิ่นให้อภัยและเลิกถือสากับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น”
“ปัจจุบัน หลินหยุนผู้นี้ ในช่วงสองสามเดือนก่อนนั้น ก็ได้เข้าไปพักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของพี่ฝานซิงแล้ว”
“พวกเราต่างก็รับรู้กันดีว่า วันนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นวันเกิดของคุณแม่เท่านั้น โดยยังได้อาศัยวันมงคลนี้ เพื่อมาพูดคุยหารือเรื่องงานแต่งงานระหว่างพี่ฝานซิงกับพี่ฟางเหย่แห่งเขาห้าทิศด้วย”
“แต่ ฉันคิดว่าก่อนที่จะทำการหารือกันนั้น การมีอยู่ของหลินหยุนคนนี้ ยังไงก็จะต้องชี้แจงกันให้ชัดเจนเสียก่อน ไม่อย่างนั้นแล้ว ถ้าหากทางพี่ฟางเหย่แห่งเขาห้าทิศเกิดการเข้าใจผิดขึ้น ก็คงจะไม่ดีเป็นแน่”
“แบบนี้ไม่เพียงแต่จะทำลายชื่อเสียงของพี่ฝานซิงแล้ว ยังจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของตระกูลจี้ของพวกเราด้วย ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราตระกูลจี้และเขาห้าทิศอีกด้วย!”
“แต่ฉันเห็นว่าพี่ฝานซิงนั้นเหมือนจะไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้สักเท่าไร ดังนั้นฉันจึงต้องพูดออกมาเอง! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...