จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1713

สรุปบท บทที่ 1713 ไม้ปราบวิญญาณ์: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 1713 ไม้ปราบวิญญาณ์ – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 1713 ไม้ปราบวิญญาณ์ ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา จี้ม่านก็รีบเข้าไปต้อนรับอย่างยิ้มแย้มในทันที

จากนั้นก็ให้ผู้หญิงคนนี้นั่งลงไปยังที่นั่งหลัก ส่วนตัวเองนั้นนั่งลงที่ด้านข้าง

เมื่อ จี้โม่นั่งลง ก็ได้กวาดสายตามองไปยังทุกคน และพูดขึ้นว่า “เชิญทุกท่านนั่งลงเถอะ”

คำพูดของเธอช่างนุ่มนวล แต่เมื่อได้ฟังแล้ว กลับรู้สึกว่าอยากที่จะทำตามในสิ่งที่เธอพูดในทันที

เมื่อทุกคนนั่งลงกันทั้งหมดแล้ว จี้โม่ก็พูดขึ้นว่า “ขอขอบคุณทุกท่านที่มาในวันนี้ ทำให้พวกเราตระกูลจี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง! ฉันขอขอบคุณทุกท่านมาในโอกาสนี้ด้วย! ”

ทุกคนพากันส่ายมือไปมา

จี้โม่พูดขึ้นว่า “อันที่จริงงานฉลองวันเกิดควรจะเริ่มต้นขึ้นได้แล้ว แต่ยังมีแขกผู้มีเกียรติคนสำคัญที่ยังมาไม่ถึง ดังนั้นยังจะต้องรอกันอีกสักหน่อย อีกไม่นานก็คงจะถึงแล้ว! ”

ที่จริงแล้วทุกคนต่างก็ไม่ได้แปลกใจอะไร

แขกผู้มีเกียรติที่พูดถึงนั้น ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ซึ่งก็คือคนของเขาห้าทิศ

โดยเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของงานในวันนี้

ขณะที่ จี้โม่พูดจบลงไปนั้น ด้านนอกของห้องโถง ก็มีเสียงของชายวัยกลางคนดังผ่านเข้ามาด้านใน “เจ้าบ้านจี้ ต้องขอโทษด้วย ที่พวกเรามาถึงช้ากันไปหน่อย! ”

ทุกคนต่างก็หันมองออกไปที่ด้านนอกประตู

ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ได้พาชายหนุ่มสองคน ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เดินเข้ามาด้านในอย่างสง่าผ่าเผย

ทุกคนต่างก็พากันลุกยืนขึ้นอีกครั้ง

คนของเขาห้าทิศ

ควรที่จะต้องให้ความสำคัญ!

จี้โม่เองก็ลุกยืนขึ้น และมองไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง “คุณฟาง ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว! ”

ฟางอิ่นยกมือแสดงความเคารพต่อ จี้โม่และพูดว่า “ขออภัยอย่างมาก ที่พวกเรามาถึงช้าไป! ”

จี้โม่พูดขึ้นว่า “ไม่ช้าเลย เชิญคุณฟางนั่งลงเถอะ! ”

ทางด้านซ้ายมือชั้นบน ได้จัดเตรียมที่นั่งไว้พร้อมแล้ว

ฟางอิ่นพยักหน้า เดินไปยังด้านข้างแล้วก็นั่งลง ส่วนชายหนุ่มสองคนที่อยู่ด้านหลังของเขานั้น ก็มายืนอยู่ที่ด้านหลังของเขา

ฟางอิ่นพูดว่า “สหายจี้ ผู้ที่อยู่ด้านหลังฉันนี้ ก็คือฟางเหย่ที่เป็นลูกศิษย์ใหญ่ของเขาห้าทิศ ซึ่งสหายลองมองดูได้เลยนะว่า จะเข้าตาบ้างหรือไม่อย่างไร? ”

จี้โม่ได้มองพิจารณาเล็กน้อย แล้วก็พยักหน้า และพูดว่า “สมแล้วที่เป็นถึงอัจฉริยะสุดยอดของเขาห้าทิศ ที่มีพลังบำเพ็ญแดนดั่งเทพตอนปลาย ผสมผสานกฎเกณฑ์ทั้งเก้า ซึ่งถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว! ”

ได้ยินที่ จี้โม่พูดแล้ว คนจำนวนไม่น้อยในสถานที่แห่งนี้ ต่างก็พากันสูดหายใจลึก

และทยอยชื่นชมกันขึ้น

ผสมผสานกฎเกณฑ์ทั้งเก้าได้ นั่นถือว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมากเลย!

เมื่อได้รับฟังคำชมจากผู้คนรอบข้างแล้ว ใบหน้าของฟางเหย่ก็แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ

ชายวัยกลางคนยิ้มและพูดว่า “สหายจี้มีสายตาที่เฉียบคมยิ่งนัก! ฟางเหย่ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว บรรลุเข้าถึงกฎเกณฑ์ทั้งสิบห้าแล้ว เขามีความทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก โดยคิดเอาไว้ว่าหลังจากที่สามารถผสมผสานกฎเกณฑ์ทั้งสิบห้าเข้ารวมเป็นหนึ่งได้แล้ว จึงจะมุ่งเป้าไปบำเพ็ญฝึกฝนเพื่อบรรลุสู่แดนสู่ธรรมะ! ”

ได้ยินเขาพูดแบบนี้แล้ว ภายในห้องโถง ก็เกิดเสียงสูดลมหายใจขึ้นอีกครั้ง

ผู้บำเพ็ญเซียนหญิงวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นแขกที่มาจากภายนอก หรือจะเป็นคนในตระกูลจี้เอง ขณะมองไปยังฟางเหย่นั้น แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชมเลื่อมใสอย่างมาก

หลินหยุนเองก็พยักหน้าเล็กน้อยเหมือนกัน

คนผู้นี้น่าจะมีอายุไม่เกินสองร้อยปี

ถือว่ายังเป็นเด็กหนุ่มที่อายุน้อย

อายุเท่านี้สามารถที่จะมีพลังบำเพ็ญถึงขั้นนี้ ซึ่งก็ถือว่ามีคุณสมบัติเพียบพร้อมในการเป็นอัจฉริยะได้

จี้โม่พยักหน้า จากนั้น แววตาที่สงบนิ่งของเธอก็ได้จ้องมองมายังจี้ฝานซิง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฝานซิง เธอออกมานี่หน่อย มาพบเจอกับคุณชายฟางเหย่ พวกเธอทั้งสอง แนะนำตัวและทำความรู้จักซึ่งกันและกัน! ”

จี้ฝานซิงได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ยิ่งย่ำแย่ลงทันที

แม้แต่ชายวัยกลางคนแห่งเขาห้าทิศ นั้นก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจและพูดว่า “สหายจี้โชคดีมากจริง ๆ ที่มีลูกสาวที่ดีแบบนี้ ช่างน่าอิจฉาเป็นอย่างมากเลย! ”

จี้โม่ได้ยินดังนั้น ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ เพราะพึงพอใจเป็นอย่างมาก ต่อของขวัญชิ้นนี้ของจี้เสวี่ยหลัน และพูดขึ้นว่า “เสวี่ยหลัน เธอใส่ใจมากเลย! ”

ได้ยินเธอพูดแบบนี้ จี้เสวี่ยหลันก็พูดขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “คุณแม่ นี่เป็นสิ่งที่ลูกสาวควรกระทำอยู่แล้ว แต่ว่าของขวัญชิ้นนี้ของฉันนั้น ก็แค่ถือว่าพอใช้ได้ หากที่จะบอกว่าหาได้ยากนั้น น่าจะเป็นของขวัญที่ทางพี่อู๋ซวงจัดเตรียมให้คุณแม่นั้น จึงจะเป็นสมบัติล้ำค่าที่แท้จริง! ”

จี้โม่ได้ยินดังนั้น ก็เกิดความสนใจขึ้นทันที “โอ้ว? ”

จากนั้น สายตาของเธอก็มองไปยังชายหนุ่มคนหนึ่ง และพูดขึ้นว่า “อู๋ซวงเป็นอย่างนั้นเหรอ? ”

ชายหนุ่มคนนี้นั่งอยู่ด้านข้างของจี้ฮ่าว เวลานี้ก็ได้ลุกยืนขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างสุภาพ และพูดขึ้นว่า “คุณแม่ ของขวัญที่ลูกได้จัดเตรียมไว้ให้นั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะล้ำค่าหรือไม่ล้ำค่าอะไรหรอก ก็แค่ต้องการจะกตัญญูตอบแทนพระคุณเท่านั้น! ”

ขณะที่จี้อู๋ซวงพูด ในมือก็เปล่งประกายแสงขึ้น แล้วกล่องหยกใบหนึ่งก็ปรากฏออกมา

เมื่อกล่องหยกเปิดออก กลิ่นอายที่เหมือนจะมีกลิ่นที่ไม่ชัดเจนนั้น ก็พลันฟุ้งกระจายออกมา

เมื่อรับรู้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายดังกล่าวนี้ ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที

มีคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างตกใจว่า “กลิ่นอายนี้......หรือว่าจะเป็นไม้ปราบวิญญาณ์? ”

ได้ยินคำว่าไม้ปราบวิญญาณ์ ไม่ต้องเอ่ยถึงคนอื่น แม้แต่หลินหยุนเองก็เกิดประกายขึ้นในดวงตาแล้ว

นี่คือสมบัติทั่วฟ้าดินชนิดหนึ่ง

สำหรับผู้บำเพ็ญเซียนไม่ว่าจะมีพลังบำเพ็ญระดับไหน ล้วนแต่มีคุณประโยชน์มหาศาลทั้งนั้น!

เมื่อได้ครอบครองไม้ปราบวิญญาณ์แล้ว ก็ไม่มีทางที่จะหมกมุ่นคลุ้มคลั่งจนผิดปกติทางจิตได้

สามารถที่จะรักษาสภาพของหลิงไถให้สว่างสดใสได้ตลอดเวลา

ถ้าหากอยู่ในขั้นแดนที่ยังต่ำอยู่ ที่จริงแล้วเรื่องนี้นั้นยังมองว่าไม่มีความสำคัญอะไร

แต่เมื่อพลังบำเพ็ญยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้น ก็จะถือว่าคุ้มค่าและเหมาะสมอย่างยิ่งเลย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์