จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1718

สรุปบท บทที่ 1718 เตรียมที่จะจากไป: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 1718 เตรียมที่จะจากไป – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 1718 เตรียมที่จะจากไป ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หลินหยุนแสดงกฎเกณฑ์แห่งชี่กระบี่ เพื่อทำการตัดแบ่งบริเวณขอบด้านข้างของน้ำในทะเลสาบ

ซึ่งเป็นการตัดแบ่งดินโคลนที่บริเวณขอบด้านข้าง

น้ำในทะเลสาบนี้สามารถหลอมละลายสิ่งของได้หลายอย่าง แม้แต่สิ่งรองรับเองก็ไม่ยกเว้น

ต่อให้เป็นสิ่งรองรับไผ่ม่วงชิ้นนั้นของหลินหยุน ตามที่หลินหยุนได้คาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า สิ่งรองรับไผ่ม่วงจะสามารถทนทานอยู่ได้นานสุดสองปี หรือหนึ่งปี

แต่ว่า ดินโคลนบริเวณขอบทะเลสาบ กลับสามารถต้านทานพลังการหลอมละลายของน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ได้

นี่ไม่ใช่การดำรงอยู่ที่ธรรมดาอย่างแน่นอนแล้ว

ดังนั้นกี่วันมานี้ หลินหยุนได้ใช้กฎเกณฑ์แห่งกระบี่ยาว ตัดแบ่งดินโคลนบริเวณขอบด้านข้างทะเลสาบอยู่โดยตลอด

เพียงแต่ว่าน้ำในทะเลสาบนี้ ได้หลอมละลายพลังแห่งกฎเกณฑ์ของเขาอย่างรวดเร็วมาก!

ดังนั้นในทุกครั้งที่ตัดแบ่ง ก็จะทำการได้ช้ามาก!

แต่ก็ยังมีความคืบหน้าอยู่

อีกทั้งหลินหยุนเองก็ไม่ได้ต้องการจะตัดแบ่งออกมาในจำนวนมากนัก ต้องการเพียงแค่ปริมาณที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ว่างในสิ่งรองรับครั้งก่อนก็พอแล้ว

ถ้าใช้งานได้อย่างเหมาะสม ต่อให้เผชิญหน้ากับยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะ โดยหากอีกฝ่ายหนึ่งไม่ทันตั้งตัวก็อาจจะถูกทำลายกฎเกณฑ์ลงได้!

ดังนั้นจะต้องจัดเตรียมสิ่งของชิ้นนี้ไว้เป็นอย่างดี!

แม้ว่าที่ผ่านมาจี้ฝานซิงจะไม่ต้องการให้หลินหยุนทำการแบบนี้ เพราะรู้สึกว่ามันอันตรายเกินไป แต่หลินหยุนเองก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่า ถึงแม้เขาจะไม่เตรียมการอะไร และไม่คิดที่จะไปลงมือจัดการผู้ใดก่อน แต่ก็จะมีบางคนที่ไม่คิดจะปล่อยเขาไปแน่

อย่างเช่นตระกูลเสิ่น และเขาห้าทิศ!

ถึงขนาดทางฝั่งตระกูลจี้ ก็มีบางคนที่คิดแผนการลอบทำร้าย เพื่อต้องการให้เขาตาย!

เพราะว่าเขาเป็นคนเสนอหน้าเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ของจี้ฝานซิง

ทำให้กลอุบายลับของพวกเขาไม่สำเร็จ

ครึ่งเดือนผ่านไป

ในที่สุดหลินหยุนก็ทำการตัดแบ่งจนสำเร็จ

พลังกฎเกณฑ์แห่งกระบี่ รวมถึงพลังกฎเกณฑ์แห่งมีด และพลังกฎเกณฑ์อื่น ๆ ของเขานั้น ได้ถูกน้ำในทะเลสาบหลอมละลายไปอย่างมากเลยทีเดียว

แต่สุดท้ายเขาก็สามารถทำการตัดแบ่งได้สำเร็จแล้ว!

อีกทั้งยังได้เริ่มต้นหล่อหลอมขวดขึ้นแล้วด้วย

ผ่านไปอีกครึ่งเดือน

หลินหยุนก็หล่อหลอมขวดได้สำเร็จ แต่ว่า หลังจากที่บรรจุน้ำในทะเลสาบเข้าไปด้านในแล้ว ความเร็วในการหลอมละลายนั้น กลับกลายเป็นว่าเหนือกว่าสิ่งรองรับไผ่ม่วงเสียอีก

ซึ่งเกินกว่าที่หลินหยุนได้คาดการณ์เอาไว้

จี้ฝานซิงที่อยู่ด้านข้างเห็นเหตุการณ์ดังนั้นแล้ว กลับไม่ได้แปลกใจอะไรมากนัก และพูดขึ้นว่า “ดินโคลนในน้ำนี้ แม้จะมองว่าสามารถต้านทานพลังการหลอมละลายได้ แต่ว่า อันที่จริงในหลายปีมานี้ ความเร็วในการหลอมละลายนั้นถือว่าค่อนข้างเร็วอย่างมาก! ”

“ไม่อย่างนั้นจากเดิมที่เป็นตาน้ำพุ ก็คงจะไม่เปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นมีขนาดที่เทียบได้กับทะเลสาบแบบนี้แล้ว! เกรงว่าในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ขวดใบนี้ก็คงจะถูกหลอมละลายไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว! ”

หลินหยุนเองก็จำใจหมดหนทาง แต่ก็ยังพอทนรับได้อยู่ “ถือว่าไม่เลวแล้วล่ะ! ไม่ต้องพูดถึงจำนวนเดือนหรอก ต่อให้มีอายุการใช้งานเพียงแค่สองเดือน ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว! ”

ขณะที่พูด หลินหยุนก็มองไปที่จี้ฝานซิงและพูดว่า “ฉันยังจะต้องหล่อหลอมธงค่ายกลขึ้นอีก แต่ระดับของวัตถุดิบที่ฉันมีอยู่นั้นไม่สูงพอ ไม่ทราบว่าทางสหายจี้มีบ้างหรือไม่? ”

จี้ฝานซิงพูดว่า “นี่ไม่ใช่ปัญหา! คุณต้องการหล่อหลอมระดับขั้นไหนกัน? คิดไม่ถึงว่า เรื่องธงค่ายกลนี้ คุณก็ยังพอที่จะมีความรู้อยู่บ้างด้วย? ”

หลินหยุนพูดว่า “เรื่องเกี่ยวกับโอสถ ธงค่ายกล และยันต์เหล่านี้ ฉันชำนาญทั้งหมด! แบบนี้แล้วกัน ถ้าเป็นไปได้ หากทางสหายจี้สามารถแสวงหาวัตถุดิบบางอย่างมาให้ฉันได้ นอกจากการหล่อหลอมธงค่ายกลแล้ว ฉันยังจะสามารถกลั่นโอสถได้ด้วย”

“เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะได้จัดแบ่งเอาไว้ให้กับสหายจี้ส่วนหนึ่งด้วย! ”

“มูลค่าของมันนั้น น่าจะเหมาะสมกับมูลค่าของพวกวัตถุดิบเหล่านี้แล้ว! ”

จี้ฝานซิงนึกว่า หลินหยุนก็แค่พูดเรื่อยเปื่อยเท่านั้น คิดไม่ถึงว่า จะจริงจังมากขนาดนี้ จึงตกใจขึ้น และพูดว่า “คุณ......กลั่นยาเป็นจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ? ”

ในมือของหลินหยุนเกิดประกายแสงขึ้น แผ่นหยกชิ้นหนึ่งก็ได้ลอยมายังจี้ฝานซิง “ด้านบนนี้เป็นวัตถุดิบที่ฉันต้องการ หากสหายจี้สามารถหามันมาได้ ฉันก็จะทำให้คุณเห็นว่า ฉันสามารถกลั่นยาได้หรือไม่! ”

จี้ฝานซิงพยักหน้า และพูดว่า “พูดแล้วไงว่า ต่อไปให้เรียกฉันว่าฝานซิง! ”

ไม่ทันรอให้หลินหยุนพูด หลังจากที่จี้ฝานซิงรับแผ่นหยกนั้นเอาไว้แล้ว ร่างกายก็กระพริบหายวับไปกับที่ในทันที

ผ่านไปสักพักหนึ่ง

ถ้าก่อนหน้าวันนี้ มีคนพูดกับคุณว่าแบบนั้น คุณคงจะคิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นบ้าไปแล้วแน่นอน!

แต่ในตอนนี้ ได้เห็นกับตาของตนเองถึงการกลั่นยาของหลินหยุนนี้แล้ว มันช่างล้มล้างความรู้ความเข้าใจของเธอก่อนหน้านี้ลงไปอย่างสิ้นเชิง

หลินหยุนไม่ได้ไปสนใจอะไรกับจี้ฝานซิง โดยได้ตั้งหน้าตั้งตากลั่นยาต่อไป

การกลั่นยาของเขาในครั้งนี้นั้นที่จริงแล้วไม่สามารถนับว่าเป็นโอสถได้ ซึ่งเป็นอสุนีบาตชนิดหนึ่ง

มีชื่อว่าอสุนีบาตเทพ

อสุนีบาตชนิดนี้ยากที่จะทำการกลั่นได้ โดยต้องผ่านการคัดสรรวัตถุดิบที่มากมาย จากนั้นก็ผสานรวมกันเป็นหนึ่งด้วยพลังของกฎเกณฑ์

จึงทำให้เกิดเป็นอานุภาพอันน่าสะพรึงกลัวอย่างมหาศาลขึ้น

นี่คือเหตุผลที่หลินหยุนต้องระมัดระวัง และให้ความสำคัญมากขนาดนี้ ก็ยังจะต้องไปกลั่นอสุนีบาตเพื่อใช้สำหรับต่อสู้กับยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะ

ถึงแม้เพียงหนึ่งลูกหรือสองลูกก็ยังไม่สามารถจัดการยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะได้ ก็จะต้องกลั่นอสุนีบาตให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อเพียงพอที่จะทำให้ยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะได้รับบาดเจ็บ

สำหรับขั้นที่ต่ำกว่าแดนสู่ธรรมะนั้น

หลินหยุนเชื่อมั่นว่า อสุนีบาตหนึ่งลูก ถ้าหากใช้การอย่างดี ก็จะสามารถกำจัดยอดฝีมือแดนดั่งเทพตอนปลายได้

ไม่นานนัก หลินหยุนก็กลั่นอสุนีบาตหนึ่งลูกได้สำเร็จแล้ว

จี้ฝานซิงพูดขึ้นว่า “นี่เหมือนจะเป็นอาวุธที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว! มันใช่โอสถที่ไหนกันล่ะ? ”

หลินหยุนพยักหน้า “คุณพูดได้ถูกต้องเลย นี่ถือได้ว่าเป็นอาวุธชนิดหนึ่ง แต่ถ้าหากจะบังคับจัดรวมให้อยู่ในจำพวกของโอสถแล้ว ก็ได้ไม่มีปัญหา! ”

จี้ฝานซิงพูดว่า “ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงระดับความอันตรายของสิ่งชิ้นนี้ได้ ส่วนพลังอานุภาพของมันล่ะ? ”

นี่คืออาวุธอสุนีบาตที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว

หากมองไปทั่วทั้งในจักรวาลแล้ว ที่จริงก็ไม่ใช่ว่าจะหาได้ยากนัก

ดังนั้นจี้ฝานซิงจึงรู้จักและสามารถแยกแยะออกได้ในทันที

หลินหยุนพูดขึ้นว่า “คฤหาสน์หลังนี้ของคุณ ภายใต้สภาวะที่ค่ายกลคุ้มครองกำลังขับเคลื่อนใช้งานอยู่อย่างสมบูรณ์นั้น อสุนีบาตลูกนี้ในมือของฉัน สามารถที่จะระเบิดทำลายล้างลงได้อย่างราบคาบ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์