สรุปตอน บทที่ 1719 สถานการณ์ตกเป็นรอง – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
ตอน บทที่ 1719 สถานการณ์ตกเป็นรอง ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ได้ยินที่หลินหยุนพูด จี้ฝานซิงก็พลันเบิกตาโพลงขึ้นอย่างเหลือเชื่อ “อะไรนะ? เพียงลูกเดียวก็สามารถทำลายคฤหาสน์หลังนี้ลงได้อย่างราบคาบเลยเหรอ? ”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? ”
“คฤหาสน์หลังนี้ของฉัน ภายใต้สภาวะที่ค่ายกลคุ้มครองกำลังขับเคลื่อนใช้งานอยู่อย่างสมบูรณ์นั้น นอกจากจะเป็นยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะแล้ว ไม่อย่างนั้น ไม่มีใครสามารถทำลายมันลงได้อย่างแน่นอน! ”
“ถ้าหากเป็นอย่างที่นายพูดจริงล่ะก็ หมายความว่าพลังของอสุนีบาตหนึ่งลูกนี้ ก็เท่ากับพลังการโจมตีหนึ่งครั้งของยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะเลยอย่างนั้นเหรอ? ”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดว่า “ถูกต้อง ค่ายกลคุ้มครองของที่แห่งนี้มีความแข็งแกร่งอย่างมาก แต่มีอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือค่ายกลของคุณนี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้! ”
“ในแง่ของด้านพลังเพียงอย่างเดียว พลังของอสุนีบาตลูกนี้นั้น ต่อให้เปรียบเทียบกับแดนสู่ธรรมะขั้นต้น ก็ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อย! ”
“เพราะว่าวัตถุดิบที่ใช้เหล่านี้ ไม่ใช่วัตถุดิบของอสุนีบาตที่แท้จริง”
“มีวัตถุดิบบางอย่างที่หาได้ยาก! ”
“ดังนั้นฉันจึงใช้สิ่งอื่นทดแทน! ”
“พลังอานุภาพจึงลดลงไปไม่น้อย! ”
“แน่นอนว่า ถ้าหากเป็นอสุนีบาตที่แท้จริง ด้วยพลังบำเพ็ญของฉันในตอนนี้ ก็คงไม่สามารถที่จะกลั่นออกมาได้! ”
“แต่ถ้าจะระเบิดค่ายกลของคฤหาสน์แห่งนี้นั้น สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา! ”
“พลังของค่ายกลไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ก็จะต้องรองรับพลังทั้งหมดของอสุนีบาต”
“โดยที่แบบนี้กับการเผชิญหน้ากับผู้บำเพ็ญเซียนที่แท้จริงนั้น ก็ยังคงมีความแตกต่างกันมาก! ”
มีประสบการณ์การกลั่นลูกแรกแล้ว หลินหยุนเองก็เบาใจลงได้บ้าง
โดยที่พูดคุยกับจี้ฝานซิงไปพลาง แล้วก็กลั่นอสุนีบาตไปพลางด้วย
จี้ฝานซิงถามขึ้นว่า “แล้วที่คุณพูดถึงอสุนีบาตที่แท้จริงนั้น จะทรงพลังมากขนาดไหน? ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “อสุนีบาตที่แท้จริงเหรอ? นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณจะสามารถจินตนาการได้ในตอนนี้แล้ว! ”
จี้ฝานซิงพูดว่า “หรือว่าแม้แต่ยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนปลายก็ยังไม่สามารถต้านทานได้เหรอ? ”
หลินหยุนหัวเราะ โดยที่ไม่ตอบอะไร
ครึ่งวันผ่านไป หลินหยุนก็กลั่นอสุนีบาตได้แล้วกว่าสามสิบลูก
และธงค่ายกลอีกนับสิบผืน
หลินหยุนมองไปที่ธงค่ายกลและอสุนีบาต แล้วก็พูดขึ้นว่า “บวกกับน้ำในทะเลสาบก่อนหน้านี้แล้ว ก็ถือว่ามีไพ่เด็ดใบสุดท้ายอยู่สามใบ นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว! ”
จี้ฝานซิงพูดขึ้นว่า “แม้ว่าไพ่เด็ดใบสุดท้ายสามใบนี้จะแข็งแกร่ง แต่ถ้าหากมียอดฝีมือแดนสู่ธรรมะลงมือจริง ๆ แล้ว ก็คงไม่สามารถรับมือได้ใช่ไหมล่ะ? แดนสู่ธรรมะกับแดนดั่งเทพนั้น มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง! ”
หลินหยุนพูดว่า “วางใจเถอะ! ไม่เกิดปัญหาอะไรหรอก! ”
หลินหยุนเก็บสิ่งของทั้งหมดเรียบร้อย แล้วมองไปที่จี้ฝานซิง และพูดขึ้นว่า “สหายจี้......ฝานซิง ฉันอยู่ที่นี่รบกวนคุณมาเป็นเวลานานมากแล้ว และยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดีด้วย ดังนั้นอสุนีบาตนี้ ฉันจะเหลือเก็บไว้ให้คุณสิบลูก! ”
“ถือว่าเป็นการตอบแทนคุณ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ก็แล้วกัน! ”
“อสุนีบาตนี้ แม้ว่าหนึ่งลูกจะไม่สามารถสังหารยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนต้นได้ แต่ว่า หากคุณประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม ถ้าจำนวนห้าลูก ก็คงจะสามารถทำให้ยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนต้นบาดเจ็บสาหัสได้อย่างแน่นอน! ”
“ถ้าหากต้องการจะขายเพื่อแลกเปลี่ยน หนึ่งลูกอย่างน้อยจะมีมูลค่าเท่ากับพลังแห่งกฎเกณฑ์สามอย่าง! “
“ดังนั้นจะต้องเก็บรักษาเอาไว้ให้ดี! ”
“ฝานซิง ฉันไม่สามารถที่จะพักอยู่ที่นี่ต่อไปได้อีกแล้ว ฉันจะต้องไปยังจักรวาลส่วนลึกเพื่อตามหาภรรยาของฉัน! ”
“ดังนั้น วันนี้จึงต้องขอตัวลาก่อนแล้ว! “
จี้ฝานซิงถึงขนาดที่หลงลืมมูลค่าของอสุนีบาตที่หลินหยุนได้พูดบอกเอาไว้เลย
รีบมองไปที่หลินหยุนและพูดว่า “หลินหยุน ในเมื่อจะจากไปแล้ว ฉันก็จะไปส่งคุณสักหน่อยแล้วกัน! ”
หลินหยุนส่ายศีรษะ และพูดว่า “ไม่ต้องหรอก! หากว่าคุณไปด้วยกันกับฉัน ก็ยังคงอันตรายมากอยู่เช่นเคย! ดังนั้น......”
จี้ฝานซิงพูดขึ้นทันทีว่า “ฉันไม่กลัว! ในเมื่อเพื่อนกำลังจะจากไป แล้วเป็นเพราะอันตรายเล็กน้อยถึงขนาดที่ฉันจะไม่กล้าไปส่งเลยได้อย่างไรกันล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น หากว่ามีฉันอยู่ด้วย บางทีพวกคนเหล่านั้นอาจจะไม่ลงมือก็เป็นได้! ”
“ต่อให้ลงมือ พวกเขาก็คงจะไม่ลงมือกับฉันหรอก! ”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร พาฉินหลันมุ่งหน้าต่อไปอย่างเร่งรีบ โดยที่ไม่ลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย
หลินหยุนไม่พูดไม่จา เอาแต่มุ่งหน้าไปอย่างสุดกำลัง จี้ฝานซิงเองก็หมดหนทาง ได้แต่ติดตามมุ่งหน้าต่อไป
ส่วนยอดฝีมือแดนดั่งเทพตอนปลายสิบกว่าคนนั้น ก็ได้แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม และไล่ล่าอย่างบ้าคลั่ง
เห็นได้ชัดว่า กลุ่มแรกคือผู้บำเพ็ญเซียนของตระกูลเสิ่น อีกกลุ่มหนึ่งคือผู้บำเพ็ญเซียนของเขาห้าทิศ
โดยได้ไล่ล่าอย่างบ้าคลั่งกันอยู่ประมาณหลายวันเลยทีเดียว
ในที่สุดหลินหยุนก็ได้หยุดลงแล้ว
เห็นว่าหลินหยุนได้หยุดลงแล้ว พวกคนสองกลุ่มนั้นก็ได้ไล่ล่ามากันจนถึงระยะใกล้แล้ว
ในจำนวนนั้น ก็มีเงาร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งได้ตะโกนเสียงแข็งขึ้นว่า “หลินหยุน! นายแย่งคู่ฝึกฝนของฉันไป ทำให้ฉันอับอายไม่กล้าพบเจอผู้ใดในเขตเหนือได้อีก! วันนี้ฉันจะต้องให้นายตายลงไปที่นี่! ”
ได้ยินที่ฟางเย่พูด จี้ฝานซิงก็ตวาดใส่อย่างเย็นชาว่า “ฟางเหย่! ตระกูลจี้ของฉันกับเขาห้าทิศของนายมีความสัมพันธ์อันดีกันมาโดยตลอด! นายอย่ามาทำตัวโอ้อวดเกินไปนัก! ในงานฉลองวันเกิดตอนนั้น นายพ่ายแพ้ให้กับหลินหยุน เป็นเพราะนายเองที่ด้อยความสามารถ! กล่าวโทษคนอื่นไม่ได้! เดิมทีฉันก็คิดว่านายเป็นผู้ที่มีความสามารถ! แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า นายไม่ได้เรื่องอะไรเลย! ”
จี้ฝานซิงไม่พูดออกมายังจะดีเสียกว่า เมื่อฟางเหย่ได้ยินที่จี้ฝานซิงพูดขึ้นแล้ว ก็พลันโมโหขึ้นอย่างหนัก และพูดว่า “ไอ้ผู้หญิงสารเลว! ไอ้ผู้หญิงโสเภณี! ถ้าไม่ใช่เธอ ฉันจะต้องอับอายขายหน้าขนาดนี้เหรอ? วันนี้ หลินหยุนหนีไปไม่รอดแล้ว เธอเองก็หนีไปไม่รอดเช่นกัน! ”
ขณะที่ฟางเหย่พูด ก็หันไปมองด้านข้าง และพูดขึ้นว่า “ตระกูลเสิ่นใช่ไหม? วันนี้ไอ้หนุ่มนี้เป็นของเขาห้าทิศของเรา ตระกูลเสิ่นควรจะอยู่เฉย ๆ บริเวณด้านข้างจะเป็นการดีที่สุด! ไม่อย่างนั้นแล้ว อย่าได้กล่าวโทษว่าฉันไม่เกรงใจ! ”
อีกฝ่ายหนึ่ง ชายที่คลุมหน้าคนหนึ่งก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ในเมื่อคุณชายฟางเหย่พูดขึ้นแบบนี้แล้ว อย่างนั้นพวกเราก็ยืนดูอยู่ด้านข้างก็แล้วกัน! ”
ฟางเหย่หัวเราะ และตะโกนเสียงดัง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็อย่าได้นิ่งเฉยอยู่เลย ลงมือได้! ”
เมื่อมีคำสั่ง ยอดฝีมือแดนดั่งเทพตอนปลายทั้งห้าคน ก็ลงมือพร้อมกัน
หลินหยุนได้มอบฉินหลันไว้กับจี้ฝานซิง และพูดว่า “ช่วยฉันดูแลฉินหลันด้วยนะ! ”
ขณะที่พูด ก็แสดงพลังแห่งกฎเกณฑ์ออกมา และตรงเข้าไปปะทะต่อสู้กับยอดฝีมือทั้งห้าคนของเขาห้าทิศนั้นทันที
เมื่อเพิ่งจะเริ่มปะทะกันนั้น ก็ตกเป็นรองในทันที!
ฟางเหย่เห็นเหตุการณ์ดังนั้น ก็พลันหัวเราะขึ้น “หลินหยุน วันนี้นายจะต้องตายเป็นแน่! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...