ได้ยินที่หลินหยุนพูด จี้ฝานซิงก็พลันเบิกตาโพลงขึ้นอย่างเหลือเชื่อ “อะไรนะ? เพียงลูกเดียวก็สามารถทำลายคฤหาสน์หลังนี้ลงได้อย่างราบคาบเลยเหรอ? ”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? ”
“คฤหาสน์หลังนี้ของฉัน ภายใต้สภาวะที่ค่ายกลคุ้มครองกำลังขับเคลื่อนใช้งานอยู่อย่างสมบูรณ์นั้น นอกจากจะเป็นยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะแล้ว ไม่อย่างนั้น ไม่มีใครสามารถทำลายมันลงได้อย่างแน่นอน! ”
“ถ้าหากเป็นอย่างที่นายพูดจริงล่ะก็ หมายความว่าพลังของอสุนีบาตหนึ่งลูกนี้ ก็เท่ากับพลังการโจมตีหนึ่งครั้งของยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะเลยอย่างนั้นเหรอ? ”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดว่า “ถูกต้อง ค่ายกลคุ้มครองของที่แห่งนี้มีความแข็งแกร่งอย่างมาก แต่มีอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือค่ายกลของคุณนี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้! ”
“ในแง่ของด้านพลังเพียงอย่างเดียว พลังของอสุนีบาตลูกนี้นั้น ต่อให้เปรียบเทียบกับแดนสู่ธรรมะขั้นต้น ก็ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อย! ”
“เพราะว่าวัตถุดิบที่ใช้เหล่านี้ ไม่ใช่วัตถุดิบของอสุนีบาตที่แท้จริง”
“มีวัตถุดิบบางอย่างที่หาได้ยาก! ”
“ดังนั้นฉันจึงใช้สิ่งอื่นทดแทน! ”
“พลังอานุภาพจึงลดลงไปไม่น้อย! ”
“แน่นอนว่า ถ้าหากเป็นอสุนีบาตที่แท้จริง ด้วยพลังบำเพ็ญของฉันในตอนนี้ ก็คงไม่สามารถที่จะกลั่นออกมาได้! ”
“แต่ถ้าจะระเบิดค่ายกลของคฤหาสน์แห่งนี้นั้น สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา! ”
“พลังของค่ายกลไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ก็จะต้องรองรับพลังทั้งหมดของอสุนีบาต”
“โดยที่แบบนี้กับการเผชิญหน้ากับผู้บำเพ็ญเซียนที่แท้จริงนั้น ก็ยังคงมีความแตกต่างกันมาก! ”
มีประสบการณ์การกลั่นลูกแรกแล้ว หลินหยุนเองก็เบาใจลงได้บ้าง
โดยที่พูดคุยกับจี้ฝานซิงไปพลาง แล้วก็กลั่นอสุนีบาตไปพลางด้วย
จี้ฝานซิงถามขึ้นว่า “แล้วที่คุณพูดถึงอสุนีบาตที่แท้จริงนั้น จะทรงพลังมากขนาดไหน? ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “อสุนีบาตที่แท้จริงเหรอ? นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณจะสามารถจินตนาการได้ในตอนนี้แล้ว! ”
จี้ฝานซิงพูดว่า “หรือว่าแม้แต่ยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนปลายก็ยังไม่สามารถต้านทานได้เหรอ? ”
หลินหยุนหัวเราะ โดยที่ไม่ตอบอะไร
ครึ่งวันผ่านไป หลินหยุนก็กลั่นอสุนีบาตได้แล้วกว่าสามสิบลูก
และธงค่ายกลอีกนับสิบผืน
หลินหยุนมองไปที่ธงค่ายกลและอสุนีบาต แล้วก็พูดขึ้นว่า “บวกกับน้ำในทะเลสาบก่อนหน้านี้แล้ว ก็ถือว่ามีไพ่เด็ดใบสุดท้ายอยู่สามใบ นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว! ”
จี้ฝานซิงพูดขึ้นว่า “แม้ว่าไพ่เด็ดใบสุดท้ายสามใบนี้จะแข็งแกร่ง แต่ถ้าหากมียอดฝีมือแดนสู่ธรรมะลงมือจริง ๆ แล้ว ก็คงไม่สามารถรับมือได้ใช่ไหมล่ะ? แดนสู่ธรรมะกับแดนดั่งเทพนั้น มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง! ”
หลินหยุนพูดว่า “วางใจเถอะ! ไม่เกิดปัญหาอะไรหรอก! ”
หลินหยุนเก็บสิ่งของทั้งหมดเรียบร้อย แล้วมองไปที่จี้ฝานซิง และพูดขึ้นว่า “สหายจี้......ฝานซิง ฉันอยู่ที่นี่รบกวนคุณมาเป็นเวลานานมากแล้ว และยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดีด้วย ดังนั้นอสุนีบาตนี้ ฉันจะเหลือเก็บไว้ให้คุณสิบลูก! ”
“ถือว่าเป็นการตอบแทนคุณ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ก็แล้วกัน! ”
“อสุนีบาตนี้ แม้ว่าหนึ่งลูกจะไม่สามารถสังหารยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนต้นได้ แต่ว่า หากคุณประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม ถ้าจำนวนห้าลูก ก็คงจะสามารถทำให้ยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนต้นบาดเจ็บสาหัสได้อย่างแน่นอน! ”
“ถ้าหากต้องการจะขายเพื่อแลกเปลี่ยน หนึ่งลูกอย่างน้อยจะมีมูลค่าเท่ากับพลังแห่งกฎเกณฑ์สามอย่าง! “
“ดังนั้นจะต้องเก็บรักษาเอาไว้ให้ดี! ”
“ฝานซิง ฉันไม่สามารถที่จะพักอยู่ที่นี่ต่อไปได้อีกแล้ว ฉันจะต้องไปยังจักรวาลส่วนลึกเพื่อตามหาภรรยาของฉัน! ”
“ดังนั้น วันนี้จึงต้องขอตัวลาก่อนแล้ว! “
จี้ฝานซิงถึงขนาดที่หลงลืมมูลค่าของอสุนีบาตที่หลินหยุนได้พูดบอกเอาไว้เลย
รีบมองไปที่หลินหยุนและพูดว่า “หลินหยุน ในเมื่อจะจากไปแล้ว ฉันก็จะไปส่งคุณสักหน่อยแล้วกัน! ”
หลินหยุนส่ายศีรษะ และพูดว่า “ไม่ต้องหรอก! หากว่าคุณไปด้วยกันกับฉัน ก็ยังคงอันตรายมากอยู่เช่นเคย! ดังนั้น......”
จี้ฝานซิงพูดขึ้นทันทีว่า “ฉันไม่กลัว! ในเมื่อเพื่อนกำลังจะจากไป แล้วเป็นเพราะอันตรายเล็กน้อยถึงขนาดที่ฉันจะไม่กล้าไปส่งเลยได้อย่างไรกันล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น หากว่ามีฉันอยู่ด้วย บางทีพวกคนเหล่านั้นอาจจะไม่ลงมือก็เป็นได้! ”
“ต่อให้ลงมือ พวกเขาก็คงจะไม่ลงมือกับฉันหรอก! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...