เซียนเซิงหัวเราะ มองไปทางจี้ฝานซิง และพูดขึ้นมาว่า “คำอธิบายเหรอ? ลูกสาวของตระกูลจี้ ต้องการให้ข้าให้คำอธิบายอะไรกับเธอเหรอ? ตอนนี้ข้าได้ปรากฏตัวอยู่ที่นี่แล้ว หรือว่านี่ยังไม่ใช่คำอธิบายงั้นเหรอ?”
เมื่อจี้ฝานซิงได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็ดูไม่ค่อยสู้ดีขึ้นมา “พูดแบบนี้ ตระกูลเสิ่นกำลังจะผิดข้อตกลงจริงใช่ไหม? หรือว่าตระกูลเสิ่นก็ไม่พิจารณาดู ว่าตัวเองมีความสามารถแค่ไหน? มีเรื่องกับตระกูลจี้ของพวกเรา ตระกูลเสิ่นแบกรับไม่ไหว!”
เซียนเซิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มในทันที แต่กลับไม่ได้สนใจคำขู่ของจี้ฝานซิงเลย “ถูกต้อง มีเรื่องกับตระกูลจี้ นั่นเป็นสิ่งที่ตระกูลเสิ่นของฉันแบกรับไม่ไหวจริงๆ แต่ว่า มีเรื่องกับเด็กสาวอย่างเธอ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง! เธอ คิดว่าตัวเองสามารถเป็นตัวแทนของทั้งตระกูลจี้ได้เหรอ? เธออยู่ในตระกูลจี้มีสถานะแบบนั้นด้วยเหรอ?”
“เท่าที่ฉันรู้ น่าจะไม่มีนะ?”
“เธอและจี้ฮ่าวพี่ชายของเธอทั้งสองคน ตอนนี้กำลังถูกหลายสำนักผลักไส แม้ว่าตอนนี้ยังสามารถรักษาสถานะบางอย่างไว้ได้ แต่ใครก็มองออก ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ แม้ว่าจะถูกเตะออกจากตระกูล ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร!”
“ดังนั้นเธอคิดว่า ตอนนี้เธอใช้ตระกูลจี้มาข่มขู่ข้า ข้าจะถูกเธอข่มขู่ได้เหรอ?”
“เด็กสาว ทำเรื่องอะไรก็ตาม พูดอะไรก็ตาม ก็ต้องรู้สถานะของตัวเองให้ดี!”
“อีกอย่างนะ เธอออกไปดีๆเดี๋ยวนี้ดีกว่า อย่ายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันยังสามารถให้ไว้เธอได้บ้าง! ไว้หน้าตระกูลจี้ได้บ้าง!”
“ถ้าหากเธอหลงผิดต่อไป งั้นข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสั่งสอนเธอ!”
“คิดดูเถอะ ตราบใดที่ข้าไม่ได้ฆ่าเธอจริงๆ เธอคิดว่าตระกูลจี้จะตามหาฆ่าจริงเหรอ จะหาเรื่องตระกูลเสิ่นของฉันเหรอ?”
“ฮ่าฮ่า ตอนนี้ข้าให้เวลาเธอสามวินาที หายไปจากตรงหน้าของฉันเดี๋ยวนี้!”
“ไม่เช่นนั้นอย่าหากว่าข้าไม่เกรงใจ!”
จี้ฝานซิงความโกรธลุกโชนในใจ คาดไม่ถึงว่า ตระกูลเสิ่นเลือกที่จะแตกหักกันจริงๆ แต่ว่าเธอก็ยังรู้สึกโศกเศร้ามากขึ้น
เพราะว่าเซียนเซิงตระกูลเสิ่นคนนี้ ก็พูดถูก
เธอและจี้ฮ่าวพี่ชายทั้งสองคน สถานะของในตระกูล กำลังแย่ลงเรื่อยๆจริงๆ
ยิ่งอยู่ยิ่งต่ำลงเรื่อยๆแล้ว
หลังจากผ่านงานเลี้ยงวันเกิดของแม่ในครั้งนี้
แม้ว่าบนผิวเผิน แม่ไม่ได้ทำอะไรเธอ แต่ใครๆก็มองออก แม่ไม่พอใจมาก เพียงแต่ว่าไม่ได้เปิดเผยออกมาเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้น เธอยังเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลจี้ด้วย เธอมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาเยือกเย็น และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฐานะของฉันก็มีอยู่ตรงนี้ วันนี้ฉันกลับจะดูสิว่า เซียนเซิงอย่างคุณจะลงมือกับจี้ฝานซิงอย่างฉันยังไง!”
“หลินหยุนเป็นเพื่อนของฉัน!”
“วันนี้ ฉันจะรักษาชีวิตนี้ของเขาไว้ให้ได้แน่ๆ!”
“คุณอยากจะฆ่าเขา งั้นก็ฆ่าฉันก่อน!”
สีหน้าของเซียนเซิง ไม่พอใจในทันที และพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ผลการฝึกตนของนาย ต่อหน้าของข้าก็แค่คนอ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้นเอง! ข้าไม่อยากให้เธอตาย งั้นเธอก็ตายไม่ได้! ข้าอยากจะฆ่าหลินหยุนคนนี้ เธอก็ขวางไว้ไม่ได้!”
ทันทีที่เสียงลดลง หลินหยุนสูดลมหายใจเข้าอย่างกะทันหัน ฝืนควบคุมร่างของตัวเองไว้ ยื่นมือขวางอยู่ตรงหน้าของจี้ฝานซิง และพูดขึ้นมาอย่างอ่อนแอว่า “ฉันยังไม่ตายนะ เธอไม่ต้องปกป้องอยู่ตรงหน้าของฉัน!”
จี้ฝานซิงก็กังวลขึ้นมาในทันที ก็จะห้ามปรามหลินหยุน หลินหยุนกลับยืนกรานเป็นอย่างยิ่ง ไม่ให้โอกาสใดๆกับจี้ฝานซิง
เมื่อเซียนเซิงเห็นเช่นนี้ อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “นายหลินหยุน ถือว่ากล้าดี ถ้าหากนายเลือกที่จะหลบอยู่ข้างหลังของเด็กสาวตระกูลจี้คนนี้จริงๆ งั้นข้าก็ดูถูกนายจริงๆ!”
แน่นอนว่า ประเด็นสำคัญก็คือ ถ้าหากจะลงมือกับจี้ฝานซิงจริงๆ ยังมีความเสี่ยงอยู่
เรื่องราวของจี้ฝานซิงและหลินหยุน ได้แพร่กระจายไปในเขตเหนือตั้งนานแล้ว
ถ้าหากถึงขั้นที่สามารถที่จะไม่คำนึงถึงชีวิตได้ ถ้าอย่างนั้นต้องการจัดการกับหลินหยุนภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ทำร้ายจี้ฝานซิง ยังมีความยากลำบากเล็กน้อย
ตอนนี้หลินหยุนออกหน้ามา งั้นเรื่องราวก็จัดการได้ง่ายมาก
หลินหยุนเงยหน้าขึ้นกลืนกินยาในทันที ต่อจากนั้นมองไปทางอีกฝ่าย และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เอาล่ะ มีความสามารถอะไร ก็ใช้มันออกมาเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...