จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 173

ยามเช้าตรู่ เมฆหมอกหนาทึบ ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกหดหู่

ภูเขาซวนโถว ทะเลสาบมังกรร้าย

เมื่อสองวันก่อน หลินหยุนได้เก็บเกี่ยวผลหลงเสียนที่สุกงอมเต็มที่แล้ว

ความจริงแล้วผลหลงเสียนไม่สามารถที่จะเก็บไว้นานได้ แต่โชคดีที่มีแหวนเก็บของ

ช่องว่างภายในแหวนเก็บของนั้น เป็นสัดเป็นส่วน ไม่ถูกจำกัดด้วยกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเก็บไว้นานเท่าไหร่คุณภาพก็ไม่เปลี่ยนแปลง

เดิมทีหลินหยุนเตรียมตัวจะรีบกลับไปทันที แต่เมื่อเห็นการฝึกบำเพ็ญตนของซูจื่อเหลียงถึงได้มาถึงขั้นที่สำคัญแล้ว หลินหยุนจึงได้รอไปอีกสองวัน

ระหว่างนั้น หลินหยุนใช้หินหยกที่ซื้อมาจากตลาดมืดพวกนั้น วางค่ายกลรวมพลังขนาดเล็กไว้รอบๆตัวของซูจื่อเหลียง

การฝึกบำเพ็ญตนของซูจื่อเหลียงคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นมาก

ในที่สุด ซูจื่อเหลียงก็ฝึกถึงขั้นสูงสุดจนสำเร็จ กลายเป็นปรมาจารย์บู๊คนหนึ่ง

ซูจื่อเหลียงลืมตาขึ้นมา เก็บรวบรวมลมหายใจ ทันใดนั้นร่างกายค่อยๆลอยขึ้นกลางอากาศ ราวกับเทวดาลงมาจุติ

ฝึกบู๊ขั้นสูงสุด ล่องลอยบนอากาศ!

“ฮ่าๆๆ.........”

ซูจื่อเหลียงปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่น ที่แท้นี่ก็คือถึงขั้นสูงสุด!

เวลานี้ ทั่วฟ้าดินในสายตาของเขา ดูเหมือนชัดเจนยิ่งขึ้นเป็นพิเศษ อีกทั้งยังไม่ค่อยเหมือนกับที่เขาเคยเห็นเมื่อก่อนหน้านั้น

พลังแรงเช่นนี้ สุดยอดจริงๆ!

ซูจื่อเหลียงรู้สึกว่า ตอนนี้ฉันนี่ก็คือหนึ่งเดียวในใต้หล้าแล้ว!

“เรียบร้อยแล้ว พวกเราควรกลับไปได้แล้ว”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียบๆ ดังแว่วขึ้นมาข้างหู

อารมณ์ความรู้สึกที่ฮึกเหิมเต็มที่ หยิ่งผยองลำพองอย่างซูจื่อเหลียง ตกใจสะดุ้งขึ้นมา

รีบลงมายืนด้วยความนอบน้อม โน้มตัวลงแล้วตอบว่า “ครับ!”

ปรมาจารย์แล้วยังไงล่ะ? ซูจื่อเหลียงรู้สึกว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยุนแล้ว แม้แต่ทั่วทั้งฟ้าดินนี้ก็ยังต้องสั่นไหว

……

ครอบครัวอันซื่อเอินสามคนพ่อแม่ลูกตัดสินใจเลือกที่จะออกไปจากหลินโจว พวกเขาเป็นเพียงแค่สามัญชนคนธรรมดา ไม่มีปัญญาที่จะไปสู้รบตบมือกับพวกกงสวี้

กงสวี้เพียงแค่พาพรรคพวกมาก่อความวุ่นวายไม่กี่วัน เขาและภรรยาก็ไม่มีอาชีพทำมาหากินแล้ว ถ้าอยู่เมืองหลินโจวอีกต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น

ส่วนเรื่องแจ้งความตำรวจนั้น ไม่ต้องคิดหวังเลย เขาก็เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนแล้ว

แต่ว่า พวกเขาจะไม่ส่งให้ลูกสาวไปตกนรกอย่างแน่นอน แม้จะต้องตาย พวกเขาก็ต้องปกป้องอันซินไม่ให้ถูกทำร้าย

ไอ้หน้าบากเฉียงช่วยหารถให้ แล้วไปส่งอ่านชื่ออันด้วยตัวเอง เพราะเขาเป็นห่วงว่ากงสวี้จะมาดักทำร้ายกลางทาง

รถก็ได้ออกจากเมืองหลินโจวอย่างปลอดภัย เมื่อมาถึงชานเมือง ไอ้หน้าบากเฉียงก็รู้สึกโล่งอก

แต่ว่า ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาจากข้างหลัง แล้วเบรกกะทันหัน ขวางหน้ารถของไอ้หน้าบากเฉียงไว้

“แย่แล้ว!” ไอ้หน้าบากเฉียงรีบหักพวงมาลัย เตรียมตัวขับฝ่าออกไป

แต่ว่า ซ้ายขวาทั้งสองข้าง ก็มีรถอีกสองคันขับเข้ามา ทำให้รถของไอ้หน้าบากเฉียงถูกล้อมอยู่ตรงกลาง

ซ้ายขวาหน้าหลัง ถูกปิดตายทั้งหมด

ไอ้หน้าบากเฉียงหันจนปัญญาจึงหันหลังกลับไปมองครอบครัวตระกูลอันสามคนพ่อแม่ลูก แล้วพูดว่า “ลงรถกันเถอะ!”

กงสวี้พาลูกน้องสิบกว่าคน ติดตามด้วยจางจื่อเห้าอยู่ข้างกาย ล้อมครอบครัวอันซินไว้

“หนีไปสิ! ดูสิว่าพวกแกจะหนีไปไหนพ้น!” กงสวี้พูดด้วยใบหน้าหยิ่งผยอง แล้วจ้องมองไปหน้าอกที่ตั้งชันของอันซิน ด้วยสายตาที่เร่าร้อน

อันซื่อเอินโกรธจัด “พวกฉันก็ตกลงจะไปจากเมืองหลินโจวแล้ว แกจะเอายังไงอีก?”

กงสวี้หัวเราะขึ้นมาทันที “ฮ่าๆๆ แกคิดว่าฉันต้องการแค่ขับไล่แกออกจากหลินโจวจริงเหรอ? เป้าหมายของฉันแต่ไหนแต่ไรก็มีเพียงลูกสาวแกเท่านั้นแหละ”

“พวกแกไปจากหลินโจวก็ได้ แต่ต้องทิ้งคนสวยของฉันไว้ที่นี่!”

จางจื่อเห้าพูดเสริมอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “พี่สวี้ พี่ใช้เสร็จแล้วอย่าลืมเผื่อให้ผมด้วยนะครับ!”

กงสวี้มองเขาด้วยสายตาเหยียดหยาม “วางใจเถอะ ส่วนของแกไม่น้อยแน่!”

จางจื่อเห้าดีใจขึ้นมาทันที ใครให้อันซินทำตัวเย็นชากับเขานักล่ะ ถ้ามาอยู่กับเขาแต่แรก ก็คงไม่ต้องมามีวันนี้หรอก

อันซื่อเอินโกรธจนตาแดงก่ำ จ้องมองกงสวี้และจางจื่อเห้า แค้นจนแทบอยากจะดื่มเลือด กินเนื้อพวกเขา

“ฝันไปเถอะ! ต่อให้ต้องตาย ฉันก็ไม่ยอมให้พวกแกทำร้ายลูกสาว!”

อันซินตกใจจนหน้าขาวซีด คนพวกนี้ช่างเลวทรามต่ำช้าเสียจริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์