เมื่อหลินหยุนอ่านข้อความในมือถือแล้ว ก็รีบกลับไปอย่างไม่รีรอ
แต่ว่า เมื่อเขามาถึงบ้านของอันซิน ครอบครัวของอันซินก็ไม่อยู่แล้ว
หลินหยุนใช้พลังทิพย์หยั่งรู้แพร่กระจายวงกว้างที่สุด แล้วใช้เวทมนตร์ตามหากลิ่นอายของอันซิน ก็ตามมาถึงที่นี่
ในที่สุดก็มาทันเวลาที่คับขัน
ไอ้หน้าบากเฉียงใบหน้าแสดงความดีใจออกมา “คุณหลิน!”
“ขอบคุณฟ้าดิน ในที่สุดคุณก็มาทันเวลาพอดี!”
อันซื่อเอินมองดูหลินหยุนที่เดินเข้ามาหาอย่างช้าๆ เหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำแล้วรีบคว้าต้นหญ้าต้นสุดท้ายเอาไว้ ตะโกนด้วยความกังวลใจ “หลินหยุน รีบไปช่วยอันซินเร็ว!”
จางจื่อเห้าสะดุ้งตกใจ มองดูเงาร่างที่ผอมเพรียวบางของหลินหยุน ในใจก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
ราวกับว่า นั่นไม่ใช่หลินหยุน แต่เป็นภูตผีปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรกกำลังจะมาเอาชีวิตเขา
กงสวี้ก็รู้สึกว่าสันหลังเสียวเย็นวาบ แต่เขาไม่เชื่อว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
“แกก็คือหลินหยุนหรือ?”
กงสวี้มองดูหลินหยุนที่ค่อยๆเดินเข้ามา ถามด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม
อันซินรีบยื่นหน้าออกมานอกรถ ตะโกนเรียกด้วยความดีใจ
“พี่หลินหยุนคะ ในที่สุดพี่ก็มาถึงแล้ว!”
หลินหยุนมองดูอันซินด้วยความสำนึกผิด
“ขอโทษครับ ไม่ทันได้อ่านข้อความของคุณ ทำให้คุณต้องตกใจ!”
อันซินลงมาจากรถ มองดูหลินหยุนด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน “ไม่เป็นไรค่ะ พี่หลินหยุนมาได้ก็ดีแล้ว!”
กงสวี้เห็นแล้วรู้สึกขัดใจ พูดด้วยรอยยิ้มที่แสนพิเรนทร์ “โย่ ดูซิท่าทางออเซาะฉอเลาะกันจังเลย น่าอิจฉาเสียจริง!”
“ไอ้หนู ฉันกำลังพูดกับแก แกไม่ได้ยินรึไง?”
หลินหยินมองดูกงสวี้ แล้วหันหน้าไปพูดกับอันซินด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “คุณรอเดี๋ยวนะ ผมขอจัดการกับพวกตัวแมลงวันพวกนี้ก่อน”
“ว่าใครเป็นแมลงวัน! รนหาที่ตายรึ!” พวกลูกน้องของกงจวี้ต่างตะคอกขึ้นมา แต่ว่าชายหนุ่มบางคนที่เคยเห็นฝีมือของหลินหยุนแล้ว กลับเตรียมพร้อมรับมืออย่างจริงจัง ราวกับว่ากำลังเผชิญกับการสู้รบครั้งใหญ่หลวง
สายตาของหลินหยุนหันไปมองจางจื่อเห้าที่ยืนอยู่ข้างกายกงสวี้ สายตาที่เยือกเย็นคมดั่งกระบี่ที่คมกริบ“แกอีกแล้วเหรอ”
“แกมันสมควรตาย!” สายตาของหลินหยุนแสดงออกถึงความเกลียดชัง ค่อย ๆ เดินไปยังจางจื่อเห้า
กงสวี้แสยะยิ้ม “ไอ้หนูน้อย อย่ามาวางท่าอวดเก่งต่อหน้าฉันเลย พวกเขาคุยอวดโวว่าแกเก่งกาจอย่างกับเทวดา มานี่ซิ ให้ฉันดูซิว่าแกจะเก่งกาจขนาดไหนกัน!”
จางจื่อเห้าเตือนด้วยความตื่นตระหนก “พี่สวี้ครับ พี่ระวังหน่อยนะ ไอ้หมอนี่พอมีฝีมืออยู่นะ!”
“ฮาๆ งั้นฉันก็ชักอยากจะเห็นแล้วสิ!” กงสวี้โบกมือเรียกพวกลูกน้อง แล้วตะโกนว่า “พวกแก ลุยเข้าไปเลย!”
“ครับนาย”
ชายหนุ่มสี่คนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เดินไปยังหลินหยุน
หลินหยุนก็เดินเข้าไปหาพวกเขา ด้วยความเร็วที่ไม่ช้าไม่เร็ว ราวกับว่ากำลังเดินเล่นอยู่
“ไปตายเถอะ!” ชายหนุ่มสองคนชกหมัดไปยังหลินหยุนอย่างเต็มแรง
โป้ง โป้ง !
เสียงดังขึ้นสองครั้ง ชายหนุ่มสองคนก็ถูกหลินหยุนชกกระเด็นออกไป
ขาของหลินหยุนก็ยังไม่หยุดเดิน มุ่งหน้าไปยังจางจื่อเห้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ชายหนุ่มอีกสองคนเห็นเหตุการณ์ แล้วก็ตื่นตกใจ จากนั้นก็ออกปากด่าไป พลันบุกเข้าไปหาหลินหยุน
ผลสุดท้ายก็คือใช้สองหมัดเช่นกัน ชายหนุ่มทั้งสองคนก็ถูกชกกระเด็นออกไป นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
กงสวี้หน้าเปลี่ยนสี “ไอ้หนูน้อย ที่แท้ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง!”
“พวกแก ไปเอาอาวุธมา แล้วลุยเข้าไป จัดการเก็บมันเลย!” กงสวี้ตะโกนเสียงดังลั่น
ชายหนุ่มที่เหลืออยู่ไม่กี่คน ก็ไปหยิบอาวุธอย่างเช่นพวกกระบองเหล็ก มีดสั้น บุกเข้าไปหาหลินหยุนพร้อมกัน
แม้ว่าอันซินรู้ว่าฝีมือของหลินหยุนยอดเยี่ยมก็ตาม แต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ “พี่หลินหยุนคะ ระวังค่ะ!”
โป้ง โป้ง โป้ง !
เสียงหมัดชกปะทะกับร่างคน เพียงแค่พริบตา ทั้งหมดก็ถูกชกปลิวกระเด็นออกไป
อันซื้นเอินสองสามีภรรยามองตาค้างด้วยความตกใจ
ไอ้หน้าบากเฉียงเห็นฉากนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกตื่นเต้น ความมุ่งมั่นของเขาไม่ทำให้ผิดหวังเลย ตอนนั้นที่เลือกเชื่อฟังคุณหลินก็ถูกต้องที่สุดแล้ว
ท่าทางของกงสวี้และจางจื่อเห้าตอนนี้ ก็เหมือนได้เห็นผียังไงยังงั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...