หลินหยุนหลบหนีหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ และในเวลานี้ ปรากฏชี่ที่แข็งแกร่งเหมือนกันทั้งสองตรงหน้าแล้ว
แต่ว่าหลินหยุนไม่ได้ลดความเร็วลงเลย กระบี่เฮ่าเทียนปรากฏขึ้นในมือ กวาดออกไปยังสองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างบ้าคลั่งด้วยดาบเดียว
ทั้งสองคนล้วนแต่ถึงแดนสู่ธรรมะ ผลฝึกตนแดนดั่งเทพขั้นสูงสุด
ทั้งสองคนเห็นเช่นนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ไม่ทันได้แสดงปฏิกิริยาตอบสนองใดๆทั้งสิ้นเลย ก็ถูกหลินหยุนสับฆ่าตายแล้ว
ภายใต้การหยิบติดมือของหลินหยุนถึงขั้นเก็บถุงเก็บของของทั้งสองไปด้วย
แต่ว่าความเร็วของเขาก็ล่าช้าลงเล็กน้อยแล้ว พวกสุ่ยเฮ่อทั้งสองที่อยู่ด้านหลัง ยิ่งไล่ตามมาใกล้หน่อยแล้ว
แต่คิดอยากจะไล่ตามอย่างสมบูรณ์ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้น
สุ่ยเฮ่อเห็นว่าไล่ตามไม่ทันอยู่นาน อดไม่ได้ที่จะพูดเสียงเคร่งขรึมอยู่ด้านหลังว่า “หลินหยุน ครั้งนี้ไม่ว่านายจะหนีไปที่ไหน นายก็ไม่มีโอกาสใดๆทั้งสิ้นแล้ว!”
หลินหยุนหันหลังสับมีดออกไป ไม่หลบหนีแล้ว
เพราะว่าสร้างโอกาสที่จะจากไปให้จี้ฝานซิงและฉินหลันแล้ว
ส่วนที่ว่าผู้บำเพ็ญที่หลบซ่อนอยู่นั่น สามารถซ่อนพวกสุ่ยเฮ่อทั้งสองคนได้ แต่ซ่อนสายตาของเขาไม่ได้
แต่ว่าหลินหยุนก็คิดได้แล้ว ผู้บำเพ็ญที่หลบซ่อนอยู่นั้นไม่ปรากฏตัว แน่นอนว่าไม่เชื่อพวกสุ่ยเฮ่อสองคนนี้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ใช้ประโยชน์จากเขาให้ดีๆ
เห็นว่าหลินหยุนหยุดลง สุ่ยเฮ่อหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ไม่หนีแล้วเหรอ?”
หลินหยุนรู้ จริงๆแล้วมียอดฝีมือมากมาย ล้วนแต่จับจ้องตัวเองอยู่
ในเวลานี้แน่นอนว่ามียอดฝีมือนับไม่ถ้วนกำลังรีบพุ่งมาทางนี้ เพราะงั้น เขาจะเสียเวลาอยู่ที่นี่เยอะไม่ได้
จะต้องสับฆ่าสุ่ยเฮ่อนั่น และเอาของวิเศษบนตัวของเขา
หลินหยุนได้ฟังยิ้มเบาๆ พูดว่า “อาวุโสสุ่ยเฮ่อ ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ฉันว่าก็ไม่จำเป็นต้องแสดงต่อไปอีกแล้ว สับฆ่าผู้ที่หลบซ่อนผู้นั้น เรารีบไปจากดาวเขาทองนี้กัน!”
ได้ยินหลินหยุนพูดแบบนี้ เป็นอย่างที่คิดไว้ ยอดฝีมือที่ซ่อนอยู่ผู้นั้น ชี่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย!
และรีบเว้นระยะห่างกับสุ่ยเฮ่อทันที
เขามีผลการฝึกตนสู่ธรรมะตอนกลาง
ถ้าหากเผชิญหน้ากับผู้ระดับแดนสู่ธรรมะตอนต้นสามคน จริงๆแล้วก็ไม่ได้รับมือง่ายขนาดนั้น
มีความเป็นไปได้สูงที่จะพ่ายแพ้
พ่ายแพ้ ก็หมายความว่าต้องตาย!
แต่ว่าสิ่งที่ทำให้หลิงอิ่งสัมผัสถึงความเหลือเชื่อคือ หรือว่าสามหนุ่มนี้อยู่ด้วยกันจริงๆ?
อีกอย่าง สุ่ยเฮ่อเดาได้ว่าตัวเองอยู่ตลอด?
ไม่เช่นนั้น จากผลฝึกตนของพวกเขา จากระดับการหลบซ่อนของตัวเอง ไม่มีทางถูกพบเจอถึงจะถูก!
และเมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน สีหน้าของสุ่ยเฮ่อก็เปลี่ยนไปทันที
ก็คิดอะไรบางอย่างได้แล้ว
คนที่หลบซ่อน!
เขาสัมผัสไม่ได้เลยด้วยซ้ำจริงๆ
หรือว่าเป็นหลิงอิ่งงั้นเหรอ?
เกี่ยวกับการมีอยู่ของหลิงอิ่ง คนของสำนักหลิงสุ่ยแทบจะ90%ไม่รู้เรื่องเลย
ถึงขั้นพูดแบนนี้ได้เลยว่า คนที่รู้ถึงการมีอยู่ของหลิงอิ่งไม่น่าจะเกินห้าคน
แต่ว่าเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น
และสาเหตุที่เขาสามารถรู้ได้ ไม่ได้ผ่านช่องทางปกติเลยด้วยซ้ำ
สำนักหลิงสุ่ยในแต่ละสมัยล้วนแต่มีหลิงอิ่งอยู่
หลิงอิ่ง กลับไม่ใช่ชื่อของคนๆหนึ่ง
ไม่มีใครรู้ว่า หลิงอิ่งเป็นคนๆหนึ่ง หรือว่าสองคน!
หรือว่ารายละเอียดกี่คนกันแน่!
หรือว่าจริงๆแล้วเจ้าสำนักไม่เชื่อตัวเองเลย เพราะงั้นจึงส่งหลิงอิ่งออกมาตรวจตราตัวเองงั้นเหรอ?
มีความเป็นไปได้!
สำหรับนิสัยของเจ้าสำนัก เขารู้ดี!
แต่ว่าทำแบบนี้ก็ดี มีหลิงอิ่งอยู่ โอกาสที่จะจับหลินหยุนได้ก็มีมากขึ้นแล้ว
สุ่ยเฮ่ออดไม่ได้ที่จะหันหลังมองเหนือนภา “หลิงอิ่ง ถ้าหากมาจริงๆ งั้ยก็ลองปรากฏตัวออกมาสิ พวกเราสามคนร่วมมือกัน จะต้องจับหลินหยุนคนนี้มาได้แน่นอน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...