ทั้งสองคนสบตากัน จากนั้นก็พยักหน้า
สำหรับการตายของเพื่อนนั้น ไม่ได้ทำให้พวกเขาสองคนรู้สึกโศกเศร้าแม้แต่นิดเดียว
เพราะพวกเขาเป็นโจรดวงดาว
สำหรับเพื่อนที่มาด้วยกัน สามารถเสียชีวิตได้ตลอดเวลา เรื่องนี้สำหรับพวกเขา มันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
ไม่ใช่แค่เพื่อนที่มาด้วยกันเสียชีวิต พวกเขาไม่ได้รู้สึกตกใจเลย ถึงแม้ตัวเองจะเสียชีวิต พวกเขาก็คงรู้สึกแบบนั้นเช่นกัน
พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าเพื่อนที่มาด้วยกัน จะยอมช่วยชีวิตพวกเขาในตอนที่เจอเรื่องอันตราย
เพราะนี่ก็คือจรรยาบรรณของพวกเขา
ยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะ ถ้าอยู่ในหมื่นจักรวาล ก็ไม่ใช่ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุด
ทำไมพวกเขาต้องไปเป็นโจรดวงดาวที่ทุกคนรังเกียจด้วย?
อันที่จริงมันก็เหมือนกับการเข้าไปเป็นคนของสำนักแห่งหนึ่งเหมือนกัน
ด้านหนึ่งก็เพราะมีสำนักที่มีอิทธิพลค่อยปกป้อง
ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เพราะสามารถได้ทรัพยากรมาอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปไม่นาน พวกเขาสองคนก็ส่งข่าวออกไป อีกด้านหนึ่งของเขตเศษดาว
มีดาวบำเพ็ญเซียนดวงหนึ่งที่ไม่ค่อยใหญ่มากนัก บนดาวบำเพ็ญเซียนดวงนี้ มีตำหนักที่ใหญ่มากๆแห่งหนึ่งอยู่
ด้านในตำหนักในเวลานี้ มีชายวัยกลางคนๆหนึ่งกำลังนั่งอยู่ด้านบนสุด
หลังจากยันต์สื่อสารเปล่งแสงออกมาสักพักแล้ว ทำให้สายตาของชายวัยกลางคนเปล่งประกายทันที เขาพูดอย่างเย็นชา "พวกเศษสวะ!"
ขณะพูด มียันต์อันหนึ่งบินออกจากตำหนักทันที
……
หลินหยุนพาจูอวิ๋นซานและคนอื่นๆเดินอย่างระมัดระวังในเขตเศษดาว
พลังของต้าเต๋าแห่งเวลานั้น ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้หลินหยุนไม่กล้าประมาทเลย
หลินหยุนเดินไปด้วย และสัมผัสบริเวณรอบๆไปด้วย
สถานที่แห่งนี้ เมื่อชาติที่แล้ว เขาเคยมาหลายครั้งแล้ว เพื่อมาสัมผัสพลังต้าเต๋าแห่งเวลา
พลังต้าเต๋าแห่งเวลาก็เป็นหนึ่งในพลังต้าเต๋าที่เขาฝึกฝนสำเร็จ
เป็นหนึ่งในพลังต้าเต๋าที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาด้วย
ชาตินี้ เขาก็ฝึกฝนกฎเกณฑ์แห่งเวลาเหมือนกัน แต่วิธีการใช้กฎเกณฑ์แห่งเวลานั้น เขาเข้าใจได้น้อยมากๆ
มีเพียงตอนนี้เขาใช้วิชาห้วงเวลาเท่านั้น เขาถึงสามารถใช้พลังแห่งเวลาออกมาได้
แต่หลังจากที่เขาศึกษาและเข้าเข้าใจกฎเกณฑ์แห่งอาวุธแล้ว ทำให้เขาหลอมรวมกฎเกณฑ์ห้าธาตุและกฎเกณฑ์แห่งเวลาเข้าไปด้วย
ตอนนี้เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังต้าเต๋าแห่งเวลา ทำให้หลินหยุนไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย
เขาคุ้นชินกับเขตเศษดาวมากๆ
ถึงแม้สถานที่แห่งนี้จะอันตรายมากๆ แต่สำหรับหลินหยุนแล้ว มันไม่ได้น่ากลัวหรืออันตรายเลย
จากการนำพาของหลินหยุน พวกเขาเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง มีหลายครั้งที่เกือบจะเจอสถานที่อันตราย แต่สุดท้ายหลินหยุนก็พาพวกเขาออกมาจากสถานที่อันตรายอย่างปลอดภัย
หลายเดือนผ่านไป ในที่สุดพวกเขาก็ใกล้จะออกจากเขตเศษดาวแล้ว พวกเขาในเวลานี้ โดนพลังต้าเต๋าแห่งเวลาครอบคลุมอยู่ ทำให้ทุกคนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน
สิ่งที่เห็นอย่างชัดเจนก็คือ เส้นผมเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว
โดยเฉพาะฉินหลัน เส้นผมของเธอขาวมากๆ ราวกับเธอแก่ไปสิบปีเลย
ฉินหลันเคยทานยายั้งอายุที่หลินหยุนกลั่นออกมา
ถึงแม้ตอนนี้เธอจะไม่ได้เป็นวัยรุ่นแล้ว แต่ใบหน้าของเธอและพลังชีวิตของเธอ ไม่ได้ต่างจากตอนที่เธอออกมาจากดาวไกอาเลย
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เมื่อถูกพลังต้าเต๋าแห่งเวลาครอบคลุม ทำให้เธอค่อยๆแก่ลง
เมื่อหลินหยุนมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของฉินหลัน ทำให้เขาร้อนใจมากๆ
ก่อนหน้านี้ ตอนที่อยู่ดาวหอยขาว เขาได้ค้นหารากทิพย์ที่เหมาะสมให้ฉินหลัน แต่เขากลับหาไม่เจอ
เมื่อทำอะไรไม่ได้ เขาก็เลยต้องตัดใจ!
เขาไม่ยอมให้ฉินหลันได้รากทิพย์ที่ธรรมดามากๆอย่างแน่นอน
หลังจากครุ่นคิดสักพัก สายตาของหลินหยุนก็เปล่งประกาย มียอดฝีมือที่หลบซ่อนตัวอยู่ถูกเขาค้นพบแล้ว!
สีหน้าของหลินหยุนเคร่งขรึมทันที เป็นอย่างนั้นจริงๆ อีกฝ่ายกำลังรอให้พวกเขาออกมา!
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายไม่ได้ลงมือทันที เรื่องนี้ทำให้เขาคิดไม่ถึงจริงๆ
กลุ่มโจรพวกนี้โดยปกติแล้ว พวกเขาไปมาอย่างไร้ร่องรอย
หลังจากเจอนักบำเพ็ญจากหมื่นจักรวาล พวกเขาก็จะลงมือทันที ทำสำเร็จหรือเปล่า พวกเขาก็จะถอยหนีอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสตอบสนองอยู่แล้ว!
แต่โจรที่มาตอนนี้ พวกเขาไม่ได้ทำแบบนี้เลย มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายต้องการสังหารหลินหยุนและทุกคนให้ได้!
หลินหยุนก็ไม่ได้ขยับร่างกาย เขาขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นหลินหยุนก็บินกลับไป
เมื่อเข้ามาในเขตเศษดาวแล้ว จูอวิ๋นซานกับจี้ฝานซิงรีบถาม "คุณชาย สถานการณ์ด้านนอกเป็นยังไงบ้าง?"
หลินหยุนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "โจรพวกนั้นรอให้พวกเราทั้งหมดออกไป และอีกฝ่ายน่าจะมียอดฝีมือแดนสู่ธรรมตอนปลายห้าคน!"
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน สีหน้าของทุกคนแย่มากๆทันที
ยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนปลายห้าคน!
พวกเขาไม่สามารถรับมือยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะเยอะขนาดนี้ได้อย่างแน่นอน!
ถึงแม้จี้ฝานซิงสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือได้หนึ่งคน
จูอวิ๋นซานต่อสู้กับยอดฝีมืออีกหนึ่งคน
แต่ก็ยังเหลืออีกสามคน
ถ้าต่อสู้กับยอดฝีมือหนึ่งคน หลินหยุนสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ แต่ถ้าต้องต่อสู้กับยอดฝีมือสองคน เขาไม่สามารถสังหารอีกฝ่ายได้อยู่แล้ว!
ถ้าต่อสู้กับยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนปลายสามคน เขาไม่มีโอกาสทำสำเร็จอยู่แล้ว!
จูอวิ๋นซานหายใจเร็วด้วยความตกใจ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "คุณชาย พวกเราควรทำยังไงดี? พวกเราจะอยู่ในนี้ตลอดไป มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!"
หลินหยุนพยักหน้าและพูด "ถ้าต่อสู้กันซึ้งๆหน้า มันทำไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเราต้องใช้วิธีอื่นๆ"
มองเห็นหลินหยุนกำลังครุ่นคิดอยู่ พวกเขาไม่กล้าพูดอีกและรอหลินหยุนอย่างเดียว เพียงแต่สีหน้าของจี้ฝานซิงกับเนี่ยหยิ่นเหนียงและคนอื่นๆแย่มากๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...