ในขณะที่หญิงรับใช้กำลังแนะนำอยู่นั้น ก็มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งในชุดกระโปรงยาวสีม่วง ที่มีอายุราวสามสิบปี ได้เดินตรงมายังทางนี้
ผู้หญิงคนนี้มีหน้าตาที่สวยงดงาม โดดเด่นเป็นสง่าอย่างที่สุด
และมีลักษณะท่าทางที่สูงศักดิ์
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้เดินเข้ามา หญิงรับใช้ก็พูดแนะนำว่า “คุณชายหลิน ท่านนี้คือหัวหน้าหอปราบทะเลของพวกเรา”
หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาใกล้ และโค้งตัวลงให้กับทางหลินหยุน เพื่อแสดงความเคารพ จากนั้นก็แนะนำตัวเองว่า “ฉันคือจื่อหวน สวัสดีคุณชายหลินสวิน! คุณชาย เดี๋ยวฉันจะแนะนำให้คุณเองก็แล้วกันนะ! ”
ขณะที่จื่อหวนพูด ก็หันไปแสดงสัญญาณต่อหญิงรับใช้ที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นหญิงรับใช้ก็แสดงความเคารพ แล้วก็หันหลังเดินจากไป
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “เคยได้ยินมาตั้งนานแล้วว่าหอปราบทะเลแห่งนี้มีหัวหน้าหอที่งดงาม วันนี้เมื่อได้พบเจอ ซึ่งก็ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ด้วย! ”
จื่อหวนยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับส่ายศีรษะและพูดว่า “คุณชายชมกันเกินไปแล้ว! เชิญคุณชายมาทางนี้เถอะ! ”
“เขตแสงม่วงของพวกเรา ได้สร้างขึ้นจากการเลียนแบบโลกแสงม่วง ไม่ทราบว่า คุณชายเคยได้ยินถึงธรรมชาติความสวยงามของโลกแสงม่วงมาแล้วบ้างไหม! เขตแสงม่วงนี้ แสดงออกถึงแก่นแท้ของธรรมชาติความสวยงามของโลกแสงม่วงได้อย่างลงตัว! ”
“เมื่อเข้าไปอยู่ภายในแล้ว ก็ราวกับว่าได้อยู่ภายในโลกแสงม่วงอย่างไรอย่างนั้นเลย! ”
“โดยที่แห่งนี้ก็เป็นเขตที่ฉันชื่นชอบมากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย”
“แน่นอนว่าเขตจิ้งจอกเขียวและเขตนกนางนวล ต่างก็มีทิวทัศน์ที่สวยงาม เมื่อเทียบกันกับเขตแสงม่วงแล้ว แต่ละสถานที่ต่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ไม่ว่าคุณชายจะเลือกเขตใด ก็จะไม่ทำให้คุณชายผิดหวังอย่างแน่นอน! ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “ในเมื่อหัวหน้าหอจื่อหวนแนะนำเขตแสงม่วง อย่างนั้นก็เลือกเขตแสงม่วงก็แล้วกัน! ”
ได้ยินหลินหยุนพูดแบบนี้ จื่อหวนเองก็ยิ้มและพยักหน้า
แล้วก็พาหลินหยุนไปยังเขตแสงม่วง
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินไปนั้น ก็พบเจอกับผู้บำเพ็ญเซียนจำนวนไม่น้อย ซึ่งต่างก็ได้พากันหันมองมา
พวกเขาเหล่านี้ไม่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมงานฉลองเปิดโลกชางฉองได้
ดังนั้น แม้ว่าจะเคยได้ยินชื่อของหลินสวิน แต่กลับไม่รับรู้ถึงสถานะของหลินหยุน
เวลานี้ เห็นว่าหัวหน้าหอจื่อหวนได้ติดตามเดินนำทางมาด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีลักษณะท่าทางที่อ่อนน้อมถ่อมตนอย่างมากด้วย ซึ่งทำให้แต่ละคนต่างก็พากันแปลกใจ เกี่ยวกับสถานะของหลินหยุนขึ้น
“คนผู้นี้เป็นใคร? ”
“ในเมื่อสามารถที่จะทำให้หัวหน้าหอจื่อหวนต้องออกมาต้อนรับด้วยตนเองแบบนี้ สถานะของเขาจะต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ ทำไมถึงไม่เคยพบเจอมาก่อน? ”
“มองดูจากการแต่งกายของเขา รวมไปถึงกลิ่นอายลมหายใจแล้ว เหมือนจะธรรมดาอย่างมาก! ”
“พวกเด็กหนุ่มอัจฉริยะในจักรวาลนี้ คงไม่มีที่พวกเราไม่เคยพบเห็น ตกลงว่าคนนี้คือใครกันแน่? ”
พวกเขาล้วนเป็นลูกศิษย์ที่อายุน้อยของกลุ่มที่มีอิทธิพลในจักรวาล เดิมทีก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่เวลานี้กลับไม่รู้จักหลินหยุน จึงทำให้พวกเขาคาดคิดไม่ถึงเป็นอย่างมาก
สามารถที่จะมายังหอปราบทะเลได้ แน่นอนว่าต้องมีสถานะที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
ในขณะนั้นเอง ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งหัวเราะเหอะเหอะ และพูดขึ้นว่า “หากต้องการที่จะรู้ ก็เข้าไปสอบถามดูก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ? ”
“หรือว่าจะลองดูก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ? ”
กี่คนได้ยินดังนั้น ก็พากันมองไปยังคนที่พูดขึ้น โดยอีกคนหนึ่งก็พูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “พี่วู พูดได้ถูกต้อง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พี่วูก็ลองเข้าไปสอบถามดูสักรอบสิ? แต่ก็ไม่รู้ว่าจื่อหวนกับคนผู้นี้เข้าไปข้างในเขตแล้ว จะออกมากันเมื่อไร และก็ไม่รู้ว่า ทั้งสองคนจะทำอะไรกันภายในนั้น? ”
วูหยางดวงตาเบิกกว้าง และพูดขึ้นด้วยสีหน้าหม่นหมองว่า “หลิ่วไป๋ นายคิดว่า ฉันเองไม่สามารถจัดการนายได้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าหากนายยังจะพูดถึงจื่อหวนให้ฉันได้ยินอีกล่ะก็ ฉันจะสังหารนายเดี๋ยวนี้! ”
เด็กหนุ่มในชุดคลุมยาวสีเขียวคนนั้นพูดขึ้นว่า “อย่างนั้นเหรอ? คุณชายวูทำไมถึงต้องโมโหมากขนาดนี้ด้วย? แบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไร! หากมีความโกรธ ก็อย่าได้ลงที่ใส่ฉันเลยนะ! ”
“แม้ทั่วทั้งจักรวาลต่างก็รับรู้ว่าคุณชายวูหยางชื่นชอบจื่อหวน แต่ก็ไม่ใช่ว่าสหายเมื่อครู่นี้จะรับรู้? พี่วู เมื่อถึงตอนนั้นคุณอย่าได้ไปถือโทษโกรธเคืองสหายคนนี้เลยแล้วกันนะ! ”
สีหน้าของวูหยางหม่นหมองลงไปทันที มองไปยังอีกฝ่ายหนึ่งและพูดขึ้นว่า “หลิ่วไป๋ หุบปากของนายซะ! หากนายไม่พูด ก็ไม่มีใครจะว่านายเป็นคนใบ้สักหน่อย! ”
หลิ่วไป๋เองก็ไม่โกรธเคืองอะไร แล้วก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ตกลงตกลง ฉันจะหุบปาก! แต่พี่วู ฉันจะเตือนคุณอย่างจริงใจว่า คนเมื่อครู่นั้น แม้จะแต่งกายไม่โดดเด่น และดูเหมือนว่าจะมีพลังบำเพ็ญที่อ่อนแอ แต่ไม่แน่อาจจะมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งก็เป็นได้? คุณอย่าได้บุ่มบ่ามไปล่ะ! ที่จริงแล้ว ต่อให้เจ้าหออยู่กับเขาเป็นเวลานานหน่อย ก็ไม่เห็นจะเป็นไรไป! คงไม่มีใครที่จะไปพูดอะไรอยู่แล้ว! ”
วูหยางส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา และบ่ายหน้าหนีไปด้วยสีหน้าที่หม่นหมองอย่างที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...