หลินหยุนหัวเราะ จากนั้นก็หมุนตัวกลับมา และยื่นมือออกมาลูบไปบนใบหน้า ซึ่งก็เปลี่ยนการแต่งกายในทันที แม้แต่รูปลักษณ์หน้าตาก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน พร้อมกับพูดว่า “ตอนนี้เจ้าหอดูหน่อยว่า ได้ไหม? ”
หวูเหวยพลันพูดขึ้นอย่างตกใจว่า “คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า นายยังจะมีวิชาการแปลงโฉมนี้ด้วย! แม้แต่ฉันเอง ถ้าหากไม่ได้มองดูอย่างละเอียด ก็ยากที่จะมองออกถึงข้อบกพร่องได้! ”
หลินหยุนพูดว่า “เจ้าหอชมเกินไปแล้ว! ก็แค่วิชาที่ใช้เพื่อการอยู่รอดเท่านั้น! ถ้าหากไม่มีวิชาที่ใช้สำหรับปกป้องชีวิตแล้ว ที่ด้านนอกเมื่อครู่นี้ฉันเองก็คงจะไม่กล้ากำเริบเสิบสานอย่างนั้นแน่นอน! ”
ขณะที่พูด หลินหยุนก็ได้กล่าวลาหวูเหวย และเดินออกจากหอไป แล้วก็เดินตรงออกมาจากใจกลางของหอซิวซิน
เมื่อเห็นหลินหยุนเดินออกมาจากด้านใน เซี่ยซิงนั้นถึงกับตกใจ หลังจากที่มองไปดูด้วยความโมโหแล้ว ก็บ่ายหน้ากลับมา
แต่ว่า ขณะที่หลินหยุนเดินเข้าไปในกลุ่มคน ใกล้ที่จะพ้นออกไปแล้ว เซี่ยซิงก็พลันหันมองมาที่เขา และตะโกนเสียงแข็งขึ้นว่า “หยุดก่อน! ”
หลินหยุนหยุดฝีเท้าลง แล้วก็หันมองไปที่เซี่ยซิงและยอดฝีมือสองคนที่อยู่ด้านหลังของเขา พร้อมกับพูดขึ้นว่า “คุณชายเซี่ยซิงมีธุระอะไรเหรอ? ”
เซี่ยซิงพูดขึ้นว่า “นายคือคนที่เข้าไปด้านในก่อนหน้านี้ ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหม? ”
หลินหยุนพูดขึ้นด้วยความแปลกใจว่า “คุณชายเซี่ยซิงพูดอะไร? ฉันไม่ค่อยเข้าใจ! ”
เซี่ยซิงหัวเราะเยาะ และพูดว่า “ตอนนี้ยังกล้าที่จะบิดเบือนอีก? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นฉันจะทำลายร่างปลอมของนายลงเดี๋ยวนี้! ”
เมื่อคำพูดของเซี่ยซิงสิ้นสุดลง ก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่ออีก ร่างกายกะพริบหายวับไปในทันที แล้วก็มาถึงที่เบื้องหน้าของหลินหยุน
หลินหยุนเห็นดังนั้น ก็กระโดดขึ้นไปอากาศ แล้วเหาะเหินออกจากเมืองศักดิ์สิทธิ์ไปทันที
เซี่ยซิงเห็นดังนั้นก็หัวเราะเยาะ “คิดจะหนีเหรอ? ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก! ”
ขณะที่พูด ก็ได้ไล่ตามไปในทันที
พร้อมกับได้ตะโกนพูดกับสองคนที่อยู่หน้าประตูของหอซิวซินว่า “พวกนายสองคน เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ที่นี่ โดยที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปด้านใน! ”
พริบตาเดียวทั้งสองคนก็มาถึงยังด้านนอกของเมืองศักดิ์สิทธิ์
กลางอากาศ หลินหยุนหันกลับไปมอง พบว่าไม่มียอดฝีมือที่เหนือกว่าแดนสู่ธรรมะสองคนนั้นไล่ตามมาด้วย ก็พลันยิ้มเยาะในใจ
หลังจากที่เหาะเหินไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ทั้งสองคนก็ได้ออกห่างจากเมืองศักดิ์สิทธิ์มังกรฟ้าในระยะไกลแล้ว
เวลานี้ หลินหยุนจึงได้หยุดลงอย่างกะทันหัน
เห็นว่าหลินหยุนหยุด เซี่ยซิงก็ขยับเข้ามาใกล้
เขาเองก็คิดไม่ถึงว่า ไอ้หนุ่มที่มีพลังบำเพ็ญแค่แดนดั่งเทพตอนปลายธรรมดาที่อยู่เบื้องหน้านี้ กลับถึงได้มีความรวดเร็วขนาดนี้
เมื่อเปรียบเทียบกับเขาที่อยู่ในแดนสู่ธรรมะระยะกลางแล้ว ก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกันเลย
เวลากว่าครึ่งชั่วโมง ก็ถือว่าไม่น้อยแล้วแน่นอน
กลับยังไม่สามารถที่จะไล่ตามได้ทัน!
แต่เวลานี้เห็นว่าหลินหยุนได้หยุดลงแล้ว เซี่ยซิงเองก็ทราบดีว่า ไอ้หนุ่มนี้ก็คงจะยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว!
จึงได้มองไปที่หลินหยุนและพูดขึ้นว่า “ไอ้หนุ่ม ทำไมไม่หนีต่อล่ะ? ”
หลินหยุนพูดว่า “ไม่มีความจำเป็นแล้ว! ”
เซี่ยซิงพลันหัวเราะเยาะขึ้น “ฉันว่านายไม่มีความสามารถที่จะหนีต่อไปได้แล้วใช่ไหมล่ะ? ”
หลินหยุนพูดว่า “ฉันยังคงแปลกใจอยู่ว่า ทำไมนายถึงยืนยันว่า ฉันคือคนที่เข้าไปด้านในก่อนหน้านี้? ”
เซี่ยซิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “คือนายจริง ๆ ด้วย? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”
ที่จริงแล้ว......
เขาไม่ได้มองออกว่านั่นคือหลินหยุนเลย
เพียงแค่ว่าเขารออยู่ที่หน้าประตูหอซิวซิน มาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่กลับไม่เกิดผลลัพธ์อะไรเลย
ดังนั้น ความโกรธแค้นในจิตใจของเขา ไม่สามารถที่จะยับยั้งได้อีกต่อไปแล้ว
ขณะนั้น เมื่อเห็นหลินหยุนออกมา เขาจึงได้ถือว่าหลินหยุนเป็นที่ระบายอารมณ์ความโกรธของเขาเท่านั้นเอง!
สำหรับที่ว่าจะใช่คนที่เข้าไปด้านในก่อนหน้านี้นั้นหรือไม่ สำหรับเขาแล้ว ไม่มีความสำคัญอะไรเลย!
เซี่ยซิงหัวเราะเสียงดัง และมองไปที่หลินหยุน “คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า วิชาบดบังอำพรางกายของนายจะสามารถรอดพ้นสายตาของฉันไปได้ แต่น่าเสียดาย! ที่วันนี้นายจะต้องมาตายลงด้วยน้ำมือของฉัน! แม้แต่สวรรค์ก็ไม่อาจช่วยเหลือนายได้! ”
เมื่อพูดจบ ในมือของเซี่ยซิงก็เกิดประกายแสงขึ้น พัดสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขา
ในขณะเดียวกัน พลังแห่งกฎเกณฑ์ก็ปรากฏออกมาด้วย
กฎเกณฑ์ได้เข้าไปสู่ในตัวพัด แล้วทันใดนั้นเซี่ยซิงก็ได้โบกพัดไปทางหลินหยุน
พริบตาเดียว กฎเกณฑ์แห่งน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้โหมกระหน่ำพุ่งเข้าใส่หลินหยุนอย่างบ้าคลั่ง
หลินหยุนหัวเราะเยาะ ดาบเฮ่าเทียนปรากฏขึ้นในมือ และกฎเกณฑ์แห่งกระบี่ก็ปรากฏออกมา พร้อมกับฟาดฟันเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามในทันที
ดั่งกับที่หวูเหวยได้พูดเอาไว้ว่า รากทิพย์บริสุทธิ์นั้นหาได้ยากมากจริง ๆ!
ถ้าหากหมดหนทางที่จะแสวงหารากทิพย์บริสุทธิ์แล้ว ก็คงจะต้องใช้รากทิพย์ห้าธาตุแทน!
อย่างน้อยมีรากทิพย์ห้าธาตุอยู่ในมือก่อนแล้ว ก็ยังคงวางใจลงได้บ้าง!
แต่ว่าตอนนี้ภารกิจที่จะต้องไปที่โลกเขาทอง สำหรับเขาแล้วก็ถือว่าไม่เลวเลย โดยก่อนหน้าที่เขาจะไปภพศักดิ์สิทธิ์มังกรฟ้านั้น ที่จริงก็เคยคิดแบบนี้เอาไว้แล้ว
ตามหาโลกที่มีเผ่ามนุษย์อาศัยอยู่เป็นหลัก
เพื่อดุกันว่าจะได้รับผลลัพธ์อะไรกลับมาบ้าง
แต่ว่า เมื่อดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว การที่เขาคิดที่จะอาศัยอิทธิพลของสมาพันธ์โจรดวงดาวเพื่อตามหาเย่เยว่นั้น เกรงว่าคงยากที่จะกระทำได้!
ครั้งนี้เขาไม่ได้กลับไปที่โลกชางฉอง แต่ได้ออกจากสุดหล้าทะเล ตรงไปยังโลกเขาทองเลย
ที่ตั้งของสุดหล้าทะเล ถือว่ามีความได้เปรียบที่ไม่เหมือนใคร
โดยมีช่องทางที่สามารถเดินทางไปยังโลกอื่น ๆ ได้
สามารถที่จะไปยังโลกอะไรก็ได้ทุกเมื่อ
โลกเขาทอง
ขณะที่เข้ามาสู่ด้านในโลก หลินหยุนก็รู้สึกได้ถึงพลังกฎเกณฑ์แห่งโลหะที่รุนแรง และหนาแน่นอย่างมากด้วย!
โลกแห่งนี้ก็ไม่ได้ถือว่าใหญ่โตมากมายนัก
โลกแห่งนี้ ในอดีตน่าจะเคยเป็นโลกเล็กของเผ่าอื่น ๆ
แต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร ชนเผ่าเล็ก ๆ ของโลกนี้ ได้ถูกทำลายจนสาบสูญไปหมด แล้วผู้บำเพ็ญเซียนเผ่ามนุษย์ก็ได้มายังที่แห่งนี้
จากนั้นก็ค่อย ๆ กลายมาเป็นโลกที่มีเผ่ามนุษย์อาศัยอยู่เป็นหลัก
ในหมื่นจักรวาล สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ ที่จริงมีอยู่ไม่มากนัก
มีเผ่าเล็ก ๆ จำนวนมาก ที่มักจะประสบกับอันตรายความเสี่ยงในการสาบสูญไปจากจักรวาล!
นอกจากเผ่ามนุษย์ที่เป็นภัยคุกคามอย่างยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขาแล้ว เผ่าอื่น ๆ ก็เป็นภัยคุกคามด้วยเช่นกัน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...