จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1823

สรุปบท บทที่1823 ค่ายกลเมฆหมอกหมื่นลี้: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่1823 ค่ายกลเมฆหมอกหมื่นลี้ จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่1823 ค่ายกลเมฆหมอกหมื่นลี้ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เมื่อพูดจบ หลินหยุนวาร์ปหายตัวไปอีกด้านแล้ว

ชายวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมสีแดงอมดำหนึ่งในนั้นอดไม่ได้ที่จะยิ้มทันที พูดกล่าวว่า “สหายท่านนี้ ดูเหมือนว่าจะมั่นใจมากที่จะทลายค่ายกลม่านพลังนี้?”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมสหายจะต้องหลบซ่อน?”

“สู้ลงมือทลายค่ายกลก่อนดีกว่า ส่วนที่ว่ารากทิพย์นั่นจะตกเป็นของผู้ใดนั้น ฉันว่ารอหลังจากที่ทหลายค่ายกลได้แล้วค่อยว่ากัน ก็ไม่ถือว่าสายนะ!”

หญิงสาววัยกลางคนอีกท่านหนึ่งก็รีบพยักหน้าพร้อมพูดกล่าวว่า “ถูกต้อง สหายมู่ฉอง สิ่งที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นการทลายค่ายกลให้ได้ก่อน!”

หลินหยุนเอ่ยปากพูดอย่างนิ่งๆว่า “ส่วนเรื่องทลายค่ายกล ฉันค่อนข้างมีความมั่นใจอยู่บ้าง แต่ว่า ทุกท่านล้วนเป็นยอดฝีมือของจักรวาล แต่ทลายค่ายกล หลังจากนั้นรากทิพย์นั่นจะเป็นของผู้ใด ฉันก็ไม่ได้มั่นใจว่าจะนำมาวางตรงหน้าของทุกท่านได้สำเร็จ!”

“ดาวหนานผิงแห่งนี้ พระราชาดาวหนานผิงดำเนินการมาอย่างนับไม่ถ้วนแล้ว เห็นได้ชัดว่าทรัพย์สมบัติที่สำคัญไม่มีทางมีเพียงแค่ชิ้นเดียว คิดไปคิดมา สหายทุกท่านก็ไม่ได้มาเพียงเพราะรากทิพย์นั่น!”

“และฉัน หลังจากที่ทลายค่ายกลได้ ขอเพียงแค่รากทิพย์ห้าธาตุนั่น ไม่ว่ามีสมบัติล้ำค่าใดๆ ไม่เอาเลยสักนิด!”

“สหายทุกท่านคิดยังไงก็เอาตามนั้น!”

“จากที่ฉันทราบมา พระราชาดาวหนานผิงมีความสัมพันธ์กับเขตไฟบ้างเล็กน้อย ถ้าหากยืดเยื้อเวลาต่อไป เมื่อยอดฝีมือแห่งเขตไฟมาถึง เกรงว่าจะทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จแล้ว!”

“เพราะงั้น สหายทุกท่านจะต้องคิดดูให้ดีนะ!”

“ตอบตกลงข้อเรียกร้องของฉัน และให้คำปฏิญาณของต้าเต๋าแห่งจักรวาล ฉันก็จะลงมือทลายค่ายกลทันที!”

ชายชราผู้นั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่รวบรวมพลังเต็มที่ทันทีว่า “ถ้าหากเป็นเช่นนี้ล่ะก็ งั้นฉันและพวกให้คำปฏิญาณก็ไม่ถือว่าเป็นอะไร แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า ถ้าหากคุณไม่สามารถทลายค่ายกลได้ งั้นจะทำอย่างไรล่ะ?”

หลินหยุนยิ้มพร้อมพูดว่า “ถ้าฉันไม่สามารถทลายค่ายกลได้ งั้นสหายทุกคนก็ไม่น่าจะปล่อยฉันไปง่ายๆหรอกมั้ง?พละของฉันเพียงคนเดียว ก็น่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทุกท่าน ทำไมสหายยังจะต้องคิดมากอีก?”

ได้ยินหลินหยุนพูดแบบนี้ ชายวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมยาวสีแดงอมดำพูดกล่าวทันทีว่า “ได้!งั้นก็เอาตามนี้แล้วกัน!ก็แค่ให้คำปฏิญาณของต้าเต๋าไม่ใช่เหรอ?ฉันจี๋หั่วให้คำปฏิญาณคนแรกเอง! ”

พระราชาดาวจี๋หั่วหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ให้คำปฏิญาณของต้าเต๋าเลย เหนือนภา เสียงฟ้าผ่าแลบเข้ามา ราวกับว่ารับคำสาบานแล้วยังไงอย่างนั้น

กลุ่มคนเห็นเช่นนี้ต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้

แต่ว่ามีพระราชาดาวจี๋หั่วเป็นผู้นำ คนที่เหลือก็ต่างก็ให้คำปฏิญาณของต้าเต๋าแล้ว

ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็มองไปยังหลินหยุนทั้งหมด

หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย พูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เลยทลายค่ายกลเดี๋ยวนี้เลย!”

พูดแล้ว หลินหยุนก้าวเท้าไปยังค่ายกลม่านพลังของดาวหนานผิง พระราชาดาวจี๋หั่วและพวกต่างก็มองตากัน หลังจากนั้นก็ตามหลังไปทันที

หลินหยุนมาถึงด้านนอกของค่ายกลม่านพลัง ก็ฟังเสียงพระราชาดาวหนานผิงที่ดังขึ้นมาจากด้านในว่า “ไอ้เด็กน้อยที่พูดจาโอ้อวดอย่างไม่อายจากที่ไหนกัน จู่ๆมาพูดโอ้อวดว่าสามารถทลายค่ายกลเมฆหมอกหมื่นลี้แห่งหนานผิงของฉันได้?ตลกสิ้นดี!”

“แล้วก็พวกจี๋หั่วชายชราเหล่านี้ คิดไม่ถึงว่าแม้แต่คำพูดของเด็กน้อยที่ไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมก็เชื่อแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ แถมยังให้คำปฏิญาณของต้าเต๋าด้วย! น่าขำขันชะมัดเลย!”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!”

“หากเรื่องนี้ในวันนี้ถูกแพร่กระจายไปยังจักรวาล หลังจากนี้ไม่รู้พวกคุณจะเอาหน้าแก่ๆไปวางไว้ที่ไหน?”

“ไอ้เด็กน้อย คุณทลายค่ายกลได้ไม่ใช่เหรอ งั้นก็ให้ฉันได้ดูหน่อยสิ ว่าคุณทลายค่ายกลได้ยังไง!”

ได้ฟังคำพูดของพระราชาดาวหนานผิง สีหน้าของจี๋หั่วและพวกดูแย่อย่างมาก สายตาของทุกคนอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่ตัวของหลินหยุนอีกครั้งแล้ว

พระราชาดาวจี๋หั่วเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงเกลียดชังว่า “สหาย ถ้าหากไม่สามารถทลายค่ายกลได้ ถึงตอนนั้น คุณรู้ผลที่ตามมาของตัวเอง!”

หลินหยุนพูดจานิ่งๆอย่างไม่สนใจใยดีว่า “สหายไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ติดตามอยู่ด้านหลังฉันก็พอแล้ว!”

พูดแล้ว หลินหยุนสังเกตมองค่ายกลม่านพลังที่แดงเหมือนเปลวเพลิงอย่างละเอียดครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ วาร์ปตัวหายไป แทรกเข้าไปข้างในนั้นเลย

จี๋หั่วที่อยู่ด้านหลังรีบพูดกล่าวทันทีว่า “เกิดอะไรขึ้น?แค่ตาข่ายปิดกั้นก็เท่านั้นเอง ระเบิดให้แตกละเอียดเลยก็ได้แล้ว!”

หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “สหายจี๋หั่ว ทางที่ดีอย่าเพิ่งบุ่มบ่ามจะดีกว่า!ไม่เช่นนั้นจะพลอยทำให้สหายทั้งสามสี่คนที่เหลือเดือดร้อนไปด้วย ฉันไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น!”

จี๋หั่วหดรูม่านตา ก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายอีก

แต่ว่าทะเลเพลิงด้านหลัง ในเวลานี้ก็เกิดความผกผันขึ้นมาอีกครั้งแล้ว

อีกอย่างเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้แล้วนั้นฟุ้งพล่านกว่าเยอะ

สถานที่ที่พวกเขาเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้า ก็กำลังถูกกลืนกินอย่างรวดเร็วได้ด้วยตาเปล่าเลย

หลินหยุนสัมผัสถึงความเป็นกังวลของคนสามสี่คนที่อยู่ด้านหลัง แต่ว่ายังคงสงบนิ่ง ค่อยๆยื่นมือออกไปยังตาข่ายปิดกั้นนั่นแล้ว

และตอนที่ฝ่ามือของเขาเพิ่งจะสัมผัสถึงตาข่ายปิดกั้น เปลวไฟมหึมาที่ด้านหลัง กวาดเข้ามา เพียงพริบตาเดียวก็กลืนพวกเขาทั้งหมดโดยสิ้นเชิงแล้ว

พวกจี๋หั่วสามสี่คนล้วนแต่คำรามอย่างโมโหด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ แต่ในเวลานี้ ความรู้สึกที่แผดเผาและแสบร้อนทั้งหมดนั้น หายไปหมดแล้ว

พวกเขาปรากฏตัวท่ามกลางควันที่ยุ่งเหยิงแล้ว ควันนี้ไม่ใช่หมอกควันธรรมดาทั่วไป เหมือนว่าควันแห่งเปลวไฟ อยู่ข้างในนั้น ทุกคนยังไม่ทันได้ทำให้จิตใจสงบเลย ก็ถูกควันห่อหุ้มตัวไว้ตรงกลางโดยสิ้นเชิง ไอออกมาอย่างรุนแรง

พวกเขาถึงขั้นกับรีบผนึกชี่ ล้วนแต่ไม่มีประโยชน์เลย

พลังแห่งหมอกควันนี้ น่าหวาดกลัวสุดขีดเลย

ในเวลานี้วิชาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ทั้งหมดของพวกเขา ล้วนแต่ไม่ได้ผลทั้งนั้น

ไม่สามารถที่จะยับยั้งควันทุกที่นี้ได้เลยด้วยซ้ำ

หลินหยุนก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน รมควันจนน้ำตาไหลพราก อดถอนหายใจในใจไม่ได้ ค่ายกลนี้สมแล้วที่เรียกว่าค่ายกลเมฆหมอกหมื่นลี้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์