สรุปตอน บทที่1822 พระราชาดาวหนานผิง – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
ตอน บทที่1822 พระราชาดาวหนานผิง ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เพราะงั้น แม้ว่าเขตไฟยังเป็นเขตไฟ ยังเป็นพละกำลังที่สุดยอด แต่ว่าพลังของเขตไฟก็ยุ่งเหยิงมากแล้ว
หลังจากที่เคร่งขรึมครู่หนึ่ง ก็ออกไปจากโลกชางฉองแล้ว ไปยังเขตไฟใต้เลย
เครื่องหมายที่ชัดเจนที่สุดของเขตไฟ ก็คือต้าเต๋าแห่งไฟ
หลังจากที่หลินหยุนเข้าสู่เขตไฟ ก็สัมผัสถึงชี่อันยุ่งเหยิงที่เข้มข้นมากท่ามกลางฟ้าดินทันที
จากข้อมูลที่หวูเหวยให้มา หลังจากที่หลินหยุนเข้าสู่เขตไฟ มุ่งหน้าไปยังดาวบำเพ็ญไฟดำ
ดาวบำเพ็ญไฟดำแห่งนี้ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในดาวบำเพ็ญของเขตไฟ ตอนที่หลินหยุนมาถึงบริเวณใกล้เคียง ก็ปรากฏภาพฉากที่ยอดฝีมือกำลังสู้รบอย่างไม่หยุดหย่อน
อีกอย่างลงมือค่อนข้างโหดร้าย
ไม่ได้ออมมือใดๆเลยด้วยซ้ำ
ผู้บำเพ็ญเซียนแห่งเขตไฟ เมื่อเทียบกับผู้บำเพ็ญเซียนที่อื่นๆ ล้วนแต่ชอบทำสงครามมากยิ่งกว่า
นี่ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ยุ่งเหยิงมากกว่า
ไปข้างหน้าต่อ หลินหยุนเห็นยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะกำลังต่อสู้กัน อดไม่ได้ที่จะเข้าไปจับกุมทั้งสองคนไว้เลย
ทั้งสองคนเห็นเช่นนี้ สงบนิ่งทั้งหมดแล้ว และก็ระงับความโกรธเอาไว้ทั้งหมดแล้ว
หลินหยุนก็เอ่ยปากพูดถามว่า “ได้ยินมาว่าเขตไฟปรากฏรากทิพย์ห้าดาว ตอนนี้อยู่แห่งหนใด?”
หนึ่งในนั้นรีบพูดกล่าวว่า “ถูกพระราชาดาวหนานผิงแย่งชิงไปแล้ว ในเวลานี้ก็มียอดฝีมือจำนวนมากกำลังลงมือแย่งชิง!”
สายตาของหลินหยุนสั่นคลอนทันที “งั้นตอนนี้พระราชาดาวหนานผิงอยู่ที่ไหน?”
อีกคนหนึ่งพูดว่า “ไม่ทราบ หลังจากที่แย่งชิงไปเขาก็หนีไปแล้ว!ผลการฝึกตนของฉันเป็นเช่นนี้ ไม่สามารถรู้ได้เลยด้วยซ้ำ!”
หลินหยุนขมวดคิ้ว ไม่สนใจสองคนนั้นอีก หันหลังไปยังดาวบำเพ็ญของหนานผิงเลย
ราชาดาว
ก็แค่เป็นชื่อกิตติมศักดิ์สำหรับควบคุมดาวบำเพ็ญและพวกยอดฝีมือนั่น
อย่างมากก็เป็นแดนจ้าวแห่งเต๋า
แน่นอน แม้ว่าเป็นราชาดาว นั่นก็มีทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอ จ้าวครองหนึ่งเต๋าและจ้าวครองสองเต๋า งั้นระยะความต่างก็เยอะมากแล้ว
ถ้าหากบอกว่าจ้าวครองแปดเต๋า จ้าวครองเก้าเต๋า งั้นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไปโดยปริยายแล้ว
ครึ่งวันต่อมา
ดาวบำเพ็ญแห่งหนานผิง
ในเวลานี้รอบนอกของดาวบำเพ็ญ มีผู้บำเพ็ญเซียนกำลังชุมนุมจำนวนมาก ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดล้วนเป็นสู่ธรรมะ
แดนของจ้าวแห่งเต๋า ก็มีเกือบจะสิบท่าน
หลังจากที่หลินหยุนมาถึงกลุ่มคนแล้ว แต่เขาไม่ได้ทำให้เกิดความสนใจใดๆเลยด้วยซ้ำ
ก็ได้ยินแค่ยอดฝีมือจ้าวแห่งเต๋าวัยกลางคนผู้นั้นตะโกนพูดไปในดาวบำเพ็ญแห่งหนานผิงด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เปิดม่านพลังหนานผิง แม้ว่ารากทิพย์ห้าธาตุนั่นจะได้มาอย่างยากลำบาก สำหรับคุณและฉันแล้ว ก็ไม่ใช่สิ่งของที่สุดยอดอะไรเลย”
“เพียงแต่ว่าล้วนแต่ทำเพื่อคนรุ่นหลังของเผ่าก็เท่านั้น!”
“สถานะของคุณและฉัน ไม่ควรที่จะเกิดสถานการณ์ที่ตึงเครียด รบราฆ่าฟันกันอย่างใหญ่โต เพียงเพราะรากทิพย์ห้าธาตุนี้เลยด้วยซ้ำ!”
“แต่ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าคุณไม่พูดแม้แต่คำเดียว ไม่เห็นฉันและพวกอยู่ในสายตาเกินไปแล้ว!”
และในเวลานี้ ท่ามกลางดาวบำเพ็ญหนานผิงนั่น น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำก็ดังขึ้นมาแล้ว “หยางเจี่ยว!สมบัติล้ำค่ามาอยู่ในมือของฉันแล้ว หรือคุณคิดว่าฉันจะสามารถคายออกไปได้งั้นหรือ?”
แม้ว่าเขาจะเข้าร่วมด้วยก็ตาม เหมือนว่าไม่ได้ผลมากเท่าไหร่
ภาพฉากแบบนี้ ทำได้เพียงทลายค่ายกลของม่านพลังออกก่อน
คิดมาถึงตรงนี้ หลินหยุนลอยตัวไปตรงหน้าของกลุ่มคน จ้าวแห่งเต๋าทั้งสิบท่านเห็นเช่นนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที พูดกล่าว “ใครกัน?”
หลินหยุนเอามือทั้งสองประสานกันที่อกไปยังคนสามสี่คนนั่น พูดกล่าวว่า “ท่านทั้งหลาย คิดหาวิธีการอื่นทลายค่ายกลดีกว่านะ ขืนระเบิดโจมตีแบบนี้ต่อไป เกรงว่าจะเข้าไปดาวหนานผิงไม่ได้!”
ชายชราหนึ่งในนั้นได้ฟัง ก้าวขึ้นไปข้างหน้าพร้อมพูดว่า “ฉันมีการวิจัยค่ายกลนี้มาอย่างดี แต่ว่าค่ายกลม่านพลังของดาวหนานผิงแห่งนี้ สุดยอดมาก แม้แต่ฉันก็ไม่มีความคิดเห็นใดๆเลย!”
“เพราะงั้น ทำได้เพียงทลายโดยตรงเลย!”
หลินหยุนหัวเราะเบาๆ พูดว่า “คำพูดนี้ของสหายค่อนข้างสุดยอดเลย แม้ว่าค่ายกลป้องกันของดาวหนานผิงจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แต่ก็ใช่ว่าจะทลายไม่ได้!”
ชายชราผู้นั้นหัวเราะเยาะทันที “น่าขำขันเลย!อาศัยแค่ค่ายกลป้องกันของดาวหนานผิง ฉันกล้ายืนยัน มองดูทั้งจักรวาล ผู้ที่สามารถทลายได้นั้น ล้วนแต่ไม่เกินสิบคน!”
“คุณก็แค่เด็กที่ไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่รู้โผล่ออกมาจากไหน คิดไม่ถึงว่ากล้าพูดโอ้อวดอย่างไร้ยางอายเช่นนี้?”
สายตาของหลินหยุนส่องแสง ชี่บนตัวปรากฏออกมา ล้วนแต่ถึงอีกระดับหนึ่ง พร้อมกับจ้าวแห่งเต๋าทั้งสิบท่านนี้
คนสามสี่คนนี้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที ต่างหันหน้ามาทางหลินหยุนพร้อมประสานมือระดับอก พูดกล่าว “คิดไม่ถึงจริงๆ สหายอายุแค่นี้ ก็มีผลการฝึกตนเช่นนี้แล้ว ขออภัย!”
สายตาของชายชราผู้นั้นกก็ส่องแสงครู่หนึ่ง มองไปยังหลินหยุนพร้อมพูดกล่าวว่า “สหาย เมื่อกี้ขออภัยด้วยนะ แต่ว่า ฉันยังคงมีความคิดเมื่อครู่นี้เช่นเดิม ดาวหนานผิงแห่งนี้ ค่ายกลยิ่งใหญ่มาแต่กำเนิด มีเพียงระเบิดทำลายโดยตรงวิธีเดียวเท่านั้น!”
“คิดอยากทลายค่ายกลโดยตรง นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!”
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย พูดว่า “สหายทุกท่าน ทลายค่ายกล จริงๆแล้วไม่ยาก สิ่งที่สำคัญคือหลังจากที่ทลายค่ายกล รากทิพย์ห้าธาตุนั่นตกเป็นของผู้ใด!”
ชายวัยกลางคนชุดสีแดงอมดำผู้นั้นพูดกล่าว “ในเมื่อฉันและพวกมาถึงที่นี่แล้ว แน่นอนว่ามาเพื่อรากทิพย์ห้าธาตุอยู่แล้ว ขอเพียงแค่ทลายค่ายกลให้เปิดออก ถึงตอนนั้นผู้ใดจะได้รากทิพย์ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนแล้ว!”
หลินหยุนยิ้มพร้อมพูดกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นทุกท่านก็ระเบิดต่อไปเถอะ บางทีระเบิดเยอะๆในช่วงเวลาหนึ่ง ก็ระเบิดออกได้แล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...