จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1830

ส่วนที่ว่าสามคนนี้ที่อยู่ด้านล่างต่อสู้กันอย่างไร งั้นก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย

ห้องใต้หลังคามีทั้งหมดสามชั้น

หลังจากที่หลินหยุนมาถึงชั้นที่สาม ข้างในนี้ก็เป็นห้องหนังสือขนาดใหญ่ มีหนังสือคัมภีร์โบราณอย่างนับไม่ถ้วน

โต๊ะหนึ่งสือที่กว้างขวางมาก มีกระถางธูปวางอยู่ด้านบน สิ่งที่เผาไหม้อยู่ด้านในคืออำพันทอง

เป็นสิ่งที่ล้ำค่าและพบเจอได้ยากมาก

แต่ว่าพระราชาดาวหนานผิง เจ้าแห่งดาวที่สง่างาม ใช้สิ่งของนี้ก็ใช่ว่าจะเข้าใจไม่ได้

เป็นเรื่องปกติ

พลังแห่งดาววิญญาณหลินหยุนกวาดดู นอกจากหนังสือแล้วก็ไม่มีพบอะไรมากมาย ทันใดนั้นก็เดินขึ้นชั้นที่สามแล้ว

ชั้นที่สามนี้ก็คือสถานที่ปิดที่แท้จริงแล้ว

เพราะว่าที่ประตูก็มีกักขังที่แข็งแกร่งอย่างไม่อาจจะเทียบได้ หลินหยุนใช้เวลาครึ่งชั่วโมงถึงทลายกักขังให้เปิดออกได้

แต่ว่าหลังจากที่เข้าไป นอกจากเบาะนั่งทรงกลมแล้ว ก็ไม่มีของอื่นๆเลย!

นี่ทำให้หลินหยุนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้ว

เดิมทีที่คิดว่าจะพบเจอรากทิพย์ห้าธาตุ แต่ภายในห้องใต้หลังคาทั้งหมด นอกจากของล้ำค่าในลูกบอลคริสทัลสิบลูกนั้นแล้ว ก็ไม่พบสิ่งของที่มีมูลค่าใดๆเลยทั้งนั้น!

หลินหยุนขมวดคิ้วแน่น

ตอนที่ออกจากชั้นสามมาที่ชั้นหนึ่งอีกครั้ง ก็พบว่าทั้งสามคนนั้นยังคงล้อมรอบลูกบอลคริสทัลสิบลูกเช่นเคย

เห็นหลินหยุนลงมา จี๋หั่วรีบถามทันทีว่า “สหายฉองมู่ หารากทิพย์เจอแล้ว?”

หลินหยุนส่ายหน้าอย่างผิดหวังเล็กน้อย พูดว่า “ไม่เจอ ด้านบนไม่มีรากทิพย์ห้าธาตุ และก็ไม่มีของมีค่าใดๆทั้งสิ้น”

พูดแล้ว หลินหยุนก็พูดอย่างสงสัยทันทีว่า “หรือว่าสหายทั้งหลายยังคิดไม่ออกว่าจะแบ่งกันยังไงงั้นเหรอ?”

ทั้งสามคนได้ฟัง สีหน้าดูแย่ลงทันที ท่าทางผิดหวัง

จี๋หั่วมองไปยังหลินหยุนพร้อมพูดกล่าวทันทีว่า “สหายมู่ฉอง ลูกบอลคริสทัลสิบลูกนี้ ไม่สามารถเปิดออกได้เลยด้วยซ้ำ พวกเราทำได้เพียงมองดูของมีค่าด้านในนั้น ไม่สามารถคว้ามาได้เลยด้วยซ้ำ! ”

“สหายถนัดวิชาค่ายกล สหายมีช่วยดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ดีกว่านะ?”

ได้ฟังจี๋หั่วพูดแบบนี้ สาตาของเมี่ยวอินและฝานหวูอีที่อยู่ข้างๆเปล่งประกายทันที

เมี่ยวอินก็รีบพูดทันทีว่า “สหายมู่ฉอง จี๋หั่วพูดถูก สหายเชี่ยวชาญค่ายกล ก็มีช่วยฉันดูเถอะนะ!”

หลินหยุนส่ายหน้าแล้ว พูดว่า “สมบัติฟ้าดินระดับนี้ ยากที่จะได้มา เรื่องนี้ทั้งสามท่านก็น่าจะรู้ดี ในเวลานี้ระยะห่างที่จะได้รับมา ก็ขาดแค่ก้าวสุดท้ายแล้ว!เพราะงั้นทั้งสามท่านจะต้องคิดหาวิธีด้วยตัวเองถึงจะถูก !”

ได้ฟังหลินหยุนพูดแบบนี้ สายตาของทั้งสามก็เคร่งขรึมลงแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ

แต่ว่าเมี่ยวอินและฝานหวูอีก็ไม่ได้พูดอะไร จี๋หั่วสูดลมหายใจเข้าลึก สายตาแหลมคมขึ้นมาแล้ว

เสียงเหอะอย่างเยือกเย็น มองไปยังหลินหยุนพร้อมพูดว่า “สหายฉองมู่ เพราะเกี่ยวข้องกับการให้คำปฏิญาณต้าเต๋า เพราะงั้น สหายเอาของมีค่าไปไม่ได้ ก็ไม่อยากให้ฉันกับพวกได้เช่นกัน หมายความว่าอย่างนี้ใช่ไหม?”

หลินหยุนหัวเราะเหอะๆ พูดว่า “สหายจี๋หั่วจะพูดต่อว่า ถ้าหากฉันไม่ยื่นมือมาช่วย สหายจี๋หั่วก็จะลงมือฆ่าฉัน?”

จี๋หั่วพูดอย่างรวบรวมเสียงเต็มที่ว่า “ถูกต้อง!ในเมื่อไม่สามารถช่วยเหลือให้พวกเราได้สมบัติล้ำค่าได้ งั้นฉันก็ไม่กังวลและกลัวใดๆทั้งนั้นแล้ว!”

“เพราะงั้น ทางที่ดีสหายต้องรู้จักว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควรถึงจะถูก!”

ในระหว่างคำพูด ไม่ได้ปกปิดกลิ่นอายของการข่มขู่

หลินหยุนหัวเราะเบาๆ หยักหน้าแล้ว พูดว่า “งั้นก็ได้ ฉันลองดูหน่อยแล้วกัน!”

พูดแล้ว ก้าวเดินไปยังลูกบอลคริสทัล10ลูกนั้น

ต่างก็มองมา หลินหยุนก็ยืนยันการคาดเดาของตัวเองมากยิ่งขึ้นแล้ว

ในเวลานี้ หันหลังมองไปยังสามคน พูดว่า “ลูกบอลคริสทัลนี้ วัสดุของมันพิเศษมาก ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะงั้นนี่ไม่ใช่ค่ายกลเลยด้วยซ้ำ ฉันว่าสหายทั้งหลายก็น่าจะวินิจฉัยกันออกนะ?”

“ขอโทษจริงๆ ฉันไม่อาจจะช่วยได้!”

“ถ้าหากสหายทั้งหลายอยากจะลงมือจัดการฉันล่ะก็ งั้นฉันต่อสู้กับพวกคุณก็ได้!”

“ฉันยังจะต้องไปตามหารากทิพย์ห้าธาตุ ไม่ขอต่อสู้ด้วยแล้ว!”

พูดจบ หันหลังไปนอกห้องใต้หลังคาแล้ว

มองไปที่เงาหลังที่จากไปของหลินหยุน

พวกจี๋หั่วทั้งสามคนก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ

จี๋หั่วหันหลังกลับมามองเมี่ยวอินและฝานหวูอีแล้ว พูดกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าคนๆนี้ก็ไม่มีวิธีแล้วจริงๆ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์