บทที่ 1834 ฉวยโอกาสในช่วงที่ชุลมุน – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1834 ฉวยโอกาสในช่วงที่ชุลมุน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
แต่แล้วย้อนกลับไปคิดครู่หนึ่งแล้วความคิดก็เปลี่ยนไปจากเดิม หลินหยุนก็วางใจลง
ที่จริงหวูเหวยอยู่ที่ภพศักดิ์สิทธิ์มังกรฟ้ามาตลอด
และหลินหยุนไม่เคยเข้าใกล้อีกฝ่ายเลย แม้ว่าอีกฝ่ายเคยมาสุดหล้าทะเลหนึ่งครั้งแล้วก็ตาม ในเวลานั้น เขายังอยู่ที่โลกชางฉอง
ดังนั้นแม้ว่าในมือจะมีป้ายหยกอยู่ และไม่มีทางกำหนดตำแหน่งที่อยู่ของหลินหยุน
หลังจากที่คิด หลินหยุนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จากนั้นก็พูดว่า “ขอบคุณท่านมาก ฉันจะต้องทำให้ดีที่สุด!”
หลังจากที่หวูเหวยพูดให้กำลังใจไปนิดหน่อย การสนทนาของทั้งคู่ก็จบลง
และหลินหยุนก็ออกจากสุดหล้าทะเล มุ่งหน้าไปยังทางเข้าของโลกครุฑทอง
จากการส่งสัญญาณระยะไกลมากกว่าหลายครั้ง ขณะที่หลินหยุนมาถึงที่อยู่ของโลกครุฑทอง ทันใดนั้นก็มองเห็นการดำรงอยู่ของยอดฝีมือนับไม่ถ้วน
รอบนอกล้วนเป็นผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรมะอยู่บ้าง
แน่นอน ผลการฝึกตนของดั่งเทพก็มี
แต่ทว่าส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรมะ
สำหรับสถานที่ที่ใกล้กับทางเข้าโลกครุฑทองมากที่สุด ล้วนแล้วเป็นยอดฝีมือแดนจ้าวแห่งเต๋าทั้งนั้น
ยอดฝีมือของกองกำลังหลักเผ่ามนุษย์ ครอบครองตำแหน่งทางเข้า
ทางด้านข้างก็คือยอดฝีมือเผ่าอื่นๆ
เพียงแต่ว่า มันต่างจากสถานการณ์ที่ยอดฝีมือมนุษย์กองกำลังหลักเผ่ามนุษย์ ต่างๆ มารวมตัวกัน ทางฝั่งยอดฝีมือเผ่าอื่นๆ อยู่กระจัดกระจาย และไม่ได้รวมตัวด้วยกัน
ในขณะนี้ ถึงแม้ต่างก็กำลังรอคอยกัน แต่บรรยากาศก็ดูแปลกมาก
ทางฝั่งยอดฝีมือเผ่าอื่นๆ แม้ว่าจำนวนคนน้อยกว่า แต่พลานุภาพกลับยิ่งมีพลังยับยั้งมากขึ้น
เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าเผ่าอื่นๆ เป็นฝ่ายที่กระจัดกระจายยิ่งกว่า
ไม่มีการร่วมมือเข้าด้วยกัน
หลินหยุนมองอยู่ไกลๆ ทางเผ่ามนุษย์ มียอดฝีมือแดนจ้าวแห่งเต๋า 10 กว่าคน
ในหมู่กองกำลังเหนือชั้นทั้งห้า แต่ละฝ่ายต่างก็มียอดฝีมือระดับจ้าวแห่งเต๋า 2 คน
ถึงขนาดที่ว่าหลินหยุนก็ยังอยู่ในนั้น มองเห็นชายวัยกลางคนที่หน้าตาคล้ายคลึงกันกับหูเหยียนเขตน้ำประมาณ 70%
ในใจของหลินหยุนรู้ดี ว่าคนนี้ น่าจะเป็นพ่อของหูเหยียน หนึ่งในสิบนายพลทหารแห่งเขตน้ำ หูเทียน
ในหมู่คนที่เหลือ เหมือนว่าหลินหยุนจะคุ้นหน้าคุ้นตาพวกคนเหล่านี้แล้ว ราวกับว่าเขามีความสัมพันธ์กันในชาติที่แล้ว
แต่ชื่อของคนเหล่านี้ เขาเรียกไม่ออกอยู่แล้ว แต่เป็นแค่แดนจ้าวแห่งเต๋าเท่านั้นเอง
ไม่มีทางที่จะมาดำรงอยู่ต่อหน้าหลินหยุนในชาติที่แล้ว
ส่วนหมื่นโลกทางฝั่งนั้น ซึ่งนำโดย สี่ภพศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ ยังมีการดำรงอยู่ของยอดฝีมือสุดยอดอาณาจักร 10 กว่าคน
ยอดฝีมือแห่งแดนจ้าวแห่งเต๋า เกินกว่า 30 คนแล้ว
แน่นอนว่า ยังมียอดฝีมือเผ่าเล็กๆอีกไม่น้อยเลย
หากรวมยอดฝีมือเผ่าอื่นๆทุกฝ่ายเข้าด้วยกัน เฉพาะจ้าวแห่งเต๋า ก็มากกว่า 50 คนแล้ว
ส่วนผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรมะ เหนือแดนสู่ธรรมะ งั้นก็ยังมีอีกมาก
ดังนั้น ยอดฝีมือเผ่าอื่นๆอยู่ที่นี่ สำหรับยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ มีจำนวนมากกว่าหลายเท่า
หากเกิดสงครามขึ้นเช่นนี้ แล้วในกรณีที่ไม่มีตัวแปร เผ่ามนุษย์จะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่น่าสงสัย
หลินหยุนมองอยู่นาน
ที่จริงทั้งสองฝ่ายต่างก็กำลังยับยั้งชั่งใจอยู่
และไม่อยากลงมือจริงๆจังๆ
หลินหยุนหยิบป้ายหยกออกมา หลังจากพอรับรู้บ้างเล็กน้อย ทันใดนั้นก็พบจุดแสงสิบกว่าจุด
จุดแสงทุกๆจุด ต่างก็แสดงถึงคนของกลุ่มโจรดวงดาว หลินหยุนมองสักพัก หนึ่งในนั้นไม่ได้มีการมีอยู่ของจ้าวแห่งเต๋า
ทั้งหมดก็คือผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรมะ
ถึงขั้นที่ว่าแม้แต่ผู้บำเพ็ญเหนือสู่ธรรมะก็ไม่มี
ดูเหมือนว่า ในมือของหวูเหวยไม่มีใครแล้วจริงๆ
หลินหยุนยืนอยู่รอบนอกตลอดมา และพิจารณาสถานการณ์เช่นนี้ ว่าจะจัดการปัญหานี้อย่างไร
“ทั้งสองฝั่ง ตอนนี้น่าจะยังไม่รู้ กลุ่มโจรดวงดาว จนกระทั่งคนของหอซิวซิน ได้เข้าไปในโลกครุฑทองตั้งนานแล้ว”
“นี่กลับเป็นจุดที่สามารถใช้ประโยชน์ได้”
“แต่ว่า ตราบใดที่แค่โลกเปิด แค่เกรงว่าความลับนี้ก็ไม่มีทางรักษาไว้ได้แล้ว!”
ต่างก็แบ่งผลกำไรบางส่วน?
เช่นนี้ดูเหมือนว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่กลุ่มโจรดวงดาวคนเหล่านี้จะมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ไหม?
เกรงว่าจะยากมากๆ
เนื่องจากยอดฝีมือทางฝั่งเผ่ามนุษย์ เดิมทีลงมือกับยอดฝีมือเผ่าอื่นๆ ไม่ใช่เพื่อคนของกลุ่มโจรดวงดาว!
งั้นผลลัพธ์ก็คือ รอหลังจากที่นำสมบัติออกมา คนก็ไม่สามารถอยู่รอดแล้ว
ที่เรียกกันว่าสูญเสียทั้งคน สูญเสียทั้งทรัพย์สิน ก็คือความหมายแบบนี้เอง!
หลินหยุนขมวดคิ้วแน่น
ในใจ คิดถึงตัวเลือกทุกแบบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงตัวเลือกที่นำพามาซึ่งความเป็นไปได้
แต่ไม่ว่าเขาจะคิดยังไง ผลสุดท้าย ก็เป็นการสูญเสียทั้งคนและสูญเสียทั้งทรัพย์สิน !
เนื่องจากในสถานการณ์เช่นนี้ แทบไม่มีที่ว่างให้ดำเนินการได้เลย
กลุ่มโจรดวงดาว จัดอยู่ในการดำรงอยู่แบบหนูข้างถนน ไม่เพียงแค่เผ่าอื่นๆเมื่อพบแล้วจะฆ่า ผู้บำเพ็ญเซียนเผ่ามนุษย์ก็เป็นเช่นนี้
อย่างนี้ทำให้พื้นที่ในการปฏิบัติการแทบจะกลายเป็นไม่มี
เขาถอนหายใจยาวๆ
หลินหยุนส่ายหน้าอย่างจำใจ
สรุปว่าควรทำยังไงดี?
ถ้าตอนนี้สามารถแจ้งคนในโลกได้ งั้นก็ยังมีพื้นที่ปฏิบัติการ
น่าเสียดาย
นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
ไม่ว่าจะเป็นวิธีใด
แม้ว่าเป็นกษัตริย์ ก็ไม่อาจทำได้เช่นกัน
แต่ว่า ในตอนนี้ ดวงตาของหลินหยุนกลับเป็นประกายขึ้นมา คิดวิธีหนึ่งได้แล้ว
“ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของที่นี่ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง ก็ไม่มีที่ว่างสำหรับปฏิบัติการแล้วจริงๆ!”
“แต่ว่า ถ้าหากให้โลกภายนอกวุ่นวายก่อน เป็นเช่นนั้น ถึงจะเป็นการฉวยโอกาสในช่วงที่ชุลมุน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...