จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1923

ตามที่หลินหยุนได้คาดการณ์เอาไว้นั้น ด้วยความเข้าใจของหมิงหนีที่มีต่อระดับชั้นของต้าเต๋า เขาไม่สามารถที่จะนำพลังแห่งธรรมไปดับทำลาย จิตมารที่เกิดขึ้นและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องได้

แต่กลับกลายเป็นว่า วันนี้ต้าเต๋าของหมิงหนีไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่จิตมารกลับสูญสิ้นไปแล้ว

หมิงหนีมีแววตาท่าทีที่เย็นชา ไม่ได้ตอบกลับคำถามของหลินหยุน แต่พูดขึ้นว่า “โยมหลิน นายยังมีโอกาสเลือกตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย จะจากไปในตอนนี้ หรือว่าจะถูกควบคุมกักตัวเอาไว้ที่โลกพุทธ ตลอดไป! โดยอาศัยเต๋าแห่งพุทธะหล่อหลอมขัดเกลาจิตใจที่อาฆาตสังหารของนาย! ”

หลินหยุนยิ้มและพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ต้าเต๋าแห่งบูชาของนายมีความแข็งแกร่งอย่างมากก็จริง แต่หากคิดที่จะควบคุมกักตัวฉันเอาไว้นั้น? มันยังคงห่างชั้นอยู่อีกมาก! ”

หลินหยุนสูดหายใจลึก กระโดดย่ำขึ้นไปในอากาศ ในมือถือกระบี่ฟาดสวรรค์ ผมยาวพลิ้วไสวขึ้นอย่างอัตโนมัติ ท่วงท่าอันองอาจของมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในตัวเขาได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

เขาหันหลังกลับมาอย่างกะทันหัน และมองไปยังผู้บำเพ็ญเซียนจำนวนมากเหล่านั้นทีอยู่ด้านนอกโลกพุทธ พร้อมกับตะโกนด้วยเสียงดังกึกก้องว่า “พวกนายไม่ต้องคาดการณ์อะไรอีกต่อไปแล้ว! เป็นดั่งที่พวกนายเห็นกันนั้น ฉันหลินชางฉอง กลับมาแล้ว! วันนี้ ฉันจะสังหารกวาดล้างโลกพุทธให้สิ้นซาก สำหรับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ควรที่จะออกห่างจากที่แห่งนี้ไป ไม่อย่างนั้นแล้ว จะต้องรับผลกระทบที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง! ”

เมื่อเขาพูดจบลง ก็กระโดดออกไปยังด้านนอกของโลกพุทธ

ขณะนั้นหลินหยุนใช้นิ้วชี้มาที่ตรงกลางระหว่างคิ้ว เลือดสารจิงหยดหนึ่งกระเด็นพุ่งออกมาในอากาศ จากนั้นทุกคนก็พลันมองเห็น โลกชางฉองขนาดใหญ่ ปรากฏขึ้นที่ตรงเบื้องหน้า

โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรกัน ที่โลกชางฉองนี้ได้ถูกเคลื่อนย้ายมายังด้านนอกของโลกพุทธแล้ว

ก็เหมือนกับกับในโลกพุทธ ที่หมิงหนีมีความได้เปรียบมหาศาล เวลานี้เมื่อมีโลกชางฉองมาอยู่ที่นี่แล้ว พลังความสามารถของหลินหยุนก็จะเพิ่มมากขึ้นทันใดด้วยเช่นกัน!

เพียงแต่การเพิ่มขึ้นในลักษณะนี้ ก็จะค่อนข้างมีขีดจำกัด

เพราะว่านี่ไม่ใช่โลกที่แท้จริง

มีกฎเกณฑ์ต้าเต๋าแข็งแกร่งขึ้น แต่กฎเกณฑ์ต้าเต๋าเหล่านี้ เกิดขึ้นโดยผ่านการบ่มเพาะมาเป็นเวลานาน

ซึ่งไม่ได้เหมือนกับโลกที่แท้จริงอย่างนั้น ที่เป็นต้าเต๋าที่แท้จริงโดยการบุกเบิกเกิดขึ้นเองในโลก

สำหรับสวรรค์ชางฉองที่หลินหยุนบุกเบิกขึ้นมาเองนั้น โลกที่แท้จริงแบบนั้น ถึงจะสามารถเพิ่มระดับพลังได้อย่างเหนือจินตนาการ

แต่เมื่อมาเปรียบเทียบกับโลกชางฉองและโลกพุทธแล้ว ก็ยังคงมีความแตกต่างห่างไกลกันลิบลับ

เพราะว่าตั้งแต่ที่โลกชางฉองได้ถูกบุกเบิกขึ้นมา จวบจนถึงวันนี้ยังไม่เกินหนึ่งหมื่นปีเลย

ส่วนโลกพุทธนั้นดำรงอยู่มาอย่างยาวนานมากกว่าหนึ่งแสนปีแล้ว

ยุคสมัยนี้ได้เริ่มต้นขึ้นมาไม่นานเท่าไร สำนักพระธรรมก็ตามหาผู้สืบทอดจนพบแล้ว อมิตาพุทธก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็ก่อตั้งโลกพุทธ

แต่ที่หลินหยุนกล้าทำแบบนี้นั้น ก็เป็นเพราะว่าโลกชางฉองของเขาผสมผสานกับต้นกำเนิดโลก ต่อให้มาเปรียบเทียบกับโลกที่ดำรงอยู่อย่างอย่างยาวนานก็ไม่หวาดกลัว

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะทำลายโลกชางฉองลงด้วย!

ด้านนอกของโลกพุทธ แววตาของหลินหยุนเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เขายิ้มเยาะและพูดว่า “หมิงหนี นี่คือของขวัญชิ้นที่สองที่ฉันจะมอบให้กับนาย! นายรับไว้ดี ๆ นะ! ”

ทั่วทั้งโลกชางฉองได้ถูกพลังเลือดสารจิงของเขาปกคลุมไว้ทั้งหมด โดยได้พุ่งชนเข้าใส่โลกพุทธด้วยความรวดเร็วอย่างที่สุด ทั่วทั้งโลกพุทธเปล่งประกายแสงสีทองเจิดจ้า เหมือนจะกลายเป็นฉากกั้นที่แข็งแกร่งทนทานอย่างที่สุดอยู่ในเวลานี้

แต่ก็ไม่สามารถที่จะสกัดกั้นการพุ่งชนของโลกชางฉองเอาไวได้

นี่ก็คือความแข็งแกร่งจากการที่ผสมผสานกับต้นกำเนิดโลก จึงทำให้โลกแข็งแกร่งทนทานอย่างที่สุด!

หลังจากที่ชั้นฟ้าชั้นดินสั่นสะเทือนกึกก้องแล้ว โลกพุทธก็แหลกสลายลง และโลกชางฉองได้พุ่งเข้าไปสู่ภายในของโลกพุทธแล้ว

ขณะเดียวกัน ในที่สุดสีหน้าท่าทางของหมิงหนีก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว

แท่นบัวทองที่เขานั่งอยู่ด้านบนนั้นก็ปลดปล่อยลำแสงสีทองออกมาจำนวนมาก ก่อตัวเป็นชั้น ฉากกั้นแสงสีทอง แล้วก็ปกคลุมหมิงหนีเอาไว้ภายใน

แต่โลกชางฉองในเวลานี้ ก็ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นเป็นจำนวนมาก

ขณะนั้น หลินหยุนจึงตะโกนเสียงแข็งขึ้นว่า “ระเบิด! ”

จากเสียงตะโกนที่ดังสนั่นของเขาดังขึ้น ทันใดนั้น ทั่วทั้งโลกชางฉองกับโลกพุทธในสภาพที่กำลังทับซ้อนกันก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างกะทันหัน

พลังการระเบิดที่รุนแรงมหาศาลทำให้พลังต้าเต๋าแหลกสลายลงไปด้วย ทั่วทั้งท้องฟ้าล้วนพังทลายลงมา และเกิดลมพัดโชยไปมาอย่างไม่สิ้นสุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์