จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 221

เซี่ยเจี้ยนโก๋ออกเสียงว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับปัญหาเรื่องความรู้สึกของคนหนุ่มสาว อันที่จริงก็เท่ากับสนับสนุนการกระทำของเซี่ยหยู่เวย

ฝูงชนต่างแอบเยาะเย้ยในใจ “ทั้งๆที่เห็นแก่อำนาจของตระกูลเว่ยชัดๆเลย อยากจะเขี่ยลูกเขยของตัวเองทิ้ง แต่กลับพูดว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับปัญหาเรื่องความรู้สึกของคนหนุ่มสาว เซี่ยเจี้ยนโก๋คนนี้ช่างเป็นจิ้งจอกเฒ่าจริงๆ”

ภายในฝูงชน โจวเถียนเถียนยืนมองฉากนี้ด้วยความตะลึงงัน และดูเหมือนจะยังไม่ตื่นจากอาการช็อก

“พี่หยู่เวยทำแบบนี้มันเกินไปหรือเปล่า ?” โจวเถียนเถียนพูดพึมพำ หลินหยุนช่วยให้พ่อของเธอได้เข้าบริษัทชิรงกรุ๊ป เธอยังคงรู้สึกขอบคุณต่อหลินหยุนอยู่

“เฮ้อ พวกเราอย่าไปยุ่งเรื่องนี้เลย เธอไม่เห็นเหรอว่าคนที่ยืนอยู่ข้างพี่หยู่เวยเป็นใคร ? นั่นเป็นคุณชายของบ้านรองนายกเว่ยเลยนะ !” น้องชายลูกพี่ลูกน้องของโจวเถียนเถียนกล่าว

“ฉันรู้สึกว่าพี่หยู่เวยน่าจะเลือกคุณชายเว่ย อำนาจของคุณชายเว่ยมีมากกว่าพี่เขยหลินหยุนตั้งเยอะ ถ้าฉันเป็นพี่หยู่เวยนะ ฉันก็คงเลือกทิ้งหลินหยุนอย่างไม่ลังเลเลย” หญิงสาวคนหนึ่งของตระกูลโจวพูดขึ้นอย่างเป็นเหตุเป็นผล

โจวเฟินเอามือกุมหน้าอก มองไปทางเซี่ยหยู่เวยอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แล้วพูดอย่างปวดร้าวใจว่า “เสี่ยวเวย ลูกยังเป็นลูกสาวของแม่อยู่หรือเปล่า ? ทำไมลูกถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ! ลูกทำแบบนี้เคยคิดถึงความรู้สึกของหลินหยุนไหม ? ลูกรู้ไหมว่าทำแบบนี้มันสร้างความเจ็บปวดให้เขามากขนาดไหน ?”

เซี่ยหยู่เวยก้มหน้า “คุณแม่ ขอโทษนะคะ ! คุณแม่คิดถึงแต่ความรู้สึกของเขา แล้วคุณแม่เคยคิดถึงความรู้สึกของหนูไหมคะ ? ให้หนูใช้ชีวิตอยู่กับไอ้ตัวไร้น้ำยานี่ทั้งคืนทั้งวัน ขอโทษนะคะ หนูทำไม่ได้จริงๆ !”

ตอนที่เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แววตาของเซี่ยหยู่เวยก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

โจวเฟินโกรธจนหน้ามืด เท้าโอนเอน จนเกือบจะล้มพับ

หลินหยุนตาไวมือไว รีบก้าวเข้าไป พยุงตัวโจวเฟินไว้ “น้าเฟินครับ ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ ?”

โจวเฟินมองดูหลินหยุนด้วยความสงสาร น้ำตาอาบแก้ม “เสียวหยุน ฉันต้องขอโทษนายด้วยนะ !”

“น้าเฟิน คุณไม่ต้องเสียใจหรอกครับ ผมไม่เป็นไร จริงๆครับ ผมไม่เป็นอะไร” หลินหยุนยิ้มออกมา ราวกับว่าคนที่ถูกยกเลิกการแต่งงานต่อหน้าฝูงชน ขายขี้หน้าต่อหน้าฝูงชน ไม่ไว้หน้าต่อหน้าฝูงชนคนนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย

โจวเฟินเห็นหลินหยุนรู้ความขนาดนี้ ในใจก็ยิ่งเศร้า “เสียวหยุน นายไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันพักสักเดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว ถ้านายรู้สึกเสียใจ ก็ร้องไห้ ก่นด่า และระบายออกมา อย่าฝืนทนเอาไว้เลย ถ้าอดกลั้นจนส่งผลเสียต่อร่างกายขึ้นมาจะแย่เอา !”

หลินหยุนยิ้มบางๆแล้วพูดว่า “น้าเฟิน ผมไม่เป็นไรจริงๆ ในเมื่อเธออยากจะหย่า ก็หย่าแล้วกัน”

“นายไม่เป็นไรจริงๆเหรอ ?” โจวเฟินจ้องมองหลินหยุนด้วยความสงสัย เธอรู้สึกว่าหลินหยุนดูสงบนิ่งเกินไปหน่อย

“ไม่เป็นไรจริงๆครับ !” หลินหยุนพูดพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง

โจวเฟินหันไปถลึงตาใส่เซี่ยหยู่เวยอย่างโกรธเคือง ดึงมือของหลินหยุนแล้วพูดว่า “เสียวหยุน นายพูดถูกแล้ว เธออยากจะหย่าก็หย่าไปเลย !”

“เสียวหยุน นายเป็นเด็กดี ถ้าเธอไม่เห็นค่านาย ก็ถือเป็นความเสื่อมเสียของเธอ แม่เชื่อ ว่าในอนาคตเธอจะต้องเสียใจแน่นอน”

หลินหยุนยิ้มแล้วพูดว่า “น้าเฟิน เดี๋ยวผมพยุงคุณไปพักผ่อนนะครับ !”

“อืม” โจวเฟินเผยสีหน้าโล่งใจออกมา

ผู้คนในห้องโถงต่างก็อ้าปากตาค้าง

“ยอมตกลงง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ ?”

“ไอ้หนูนี่มันคุยง่ายเกินไปหรือเปล่า !”

“ฮ่าฮ่า ฉายาไอ้ตัวไร้น้ำยานี่ไม่เสียเปล่าจริงๆ !”

“ก็ถูก มีแต่เผลอตั้งชื่อผิด ไม่มีเผลอตั้งฉายาผิดหรอก ! ไอ้หนูนี่ ช่างเป็นไอ้ตัวไร้น้ำยาจริงๆ !”

สายตาที่ทุกคนมองไปทางหลินหยุน ต่างก็ยิ่งดูถูกดูแคลนเข้าไปใหญ่

ตัวหลักของงานอย่างเซี่ยเจี้ยนโก๋รู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง เดิมทีเขาคิดว่าหลินหยุนอาจจะอาละวาดสักยกใหญ่เสียอีก หรืออาจจะโวยวายกับฝูงชน คิดไม่ถึงเลยว่าหลินหยุนจะตอบตกลงทันทีแบบนี้

“แบบนี้ก็ได้ แก้ปัญหาอย่างสันติ ยังไงทุกคนก็เป็นครอบครัวเดียวกัน”

แต่ว่า ในใจของเซี่ยหยู่เวยกลับไม่คิดแบบนั้น

ที่เธอเลือกที่จะประกาศเรื่องหย่าต่อหน้าญาติสนิทมิตรสหายทุกคนในวันนี้ ก็เพื่ออยากจะทำให้หลินหยุนอับอายขายขี้หน้า

ใครใช้ให้หลินหยุนมาหัวเราะเยาะเธอว่าเป็นพวกมดปลวก แถมยังบอกว่าเขากับเธออยู่กันคนละโลก

ถูกแล้ว พวกเธออยู่กันคนละโลกจริงๆ เพียงแต่เซี่ยหยู่เวยรู้สึกว่าโลกของเธอนั้น ชั่วชีวิตของหลินหยุนคงทำได้แค่แหงนมองเท่านั้น

การถูกเหยียดหยามอย่างใหญ่หลวงแบบนี้ ถึงแม้หลินหยุนจะเป็นหุ่นดินเผา ยังไงก็ต้องโมโหจนตัวสั่นอยู่แล้วสินะ !

แน่นอนว่า ยิ่งหลินหยุนแสดงออกว่าโมโหขนาดไหน เซี่ยหยู่เวยก็จะยิ่งรู้สึกสะใจ และยิ่งดีใจมากเท่านั้น

แต่ว่า ตอนนี้การแสดงออกของหลินหยุนกลับไม่เหมือนกับที่เซี่ยหยู่เวยคิดเอาไว้เลยแม้แต่นิดเดียว

ไม่เพียงแต่ไม่โมโหเลยแม้แต่น้อย แต่กลับยังคงดูท่าทางสบายอกสบายใจเหมือนเดิม ราวกับว่าสิ่งที่เขาสูญเสียไปไม่ใช่ภรรยาที่งดงามราวดอกไม้ แต่เป็นเพียงของประดับชิ้นหนึ่งที่จะมีหรือไม่มีก็ได้

พอเห็นสีหน้าที่ไร้คลื่นอารมณ์ของหลินหยุนแล้ว เซี่ยหยู่เวยก็รู้สึกว่า หรือเธออาจจะไม่ได้เป็นแม้กระทั่งของประดับด้วยซ้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์