บทที่ 235 นัดกับเธอ – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 235 นัดกับเธอ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลินหยุนกลับไปที่หอพักพร้อมเพื่อนๆหลายคน
ลับหลังหลินหยุนและคนอื่นๆนักศึกษาเหล่านั้นต่างพากันสนทนา
หลินหยุนได้ยินคำพูดไม่กี่คำ เมื่อกี้หลายคนต่างประหลาดใจกับพลังของเลยเฉียง!
ในเมื่อมีศัตรูมาหาถึงที่แล้ว ฐานะตัวตนของเลยเฉียงคงจะถูกเปิดเผย แต่เรื่องนี้ก็อธิบายได้ง่าย
การต่อสู้ระหว่างนักบู๊พรสวรรค์นั้น ไม่ได้ลวงตาเกินไป
หากเปลี่ยนเป็นพรสวรรค์สูงสุด หรือการต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์ขั้นสูงสุด อย่างนั้นคนทั้งโลกจะต้องตกตะลึงแน่นอน
กลับมาที่ห้องนอน จางซือจู่และคนอื่นๆสอบถามหลินหยุนอีกครั้ง
หลินหยุน อธิบายตามตรง ช่วงนี้นายได้โชคอัศจรรย์ๆมาจากไหน ทำไมถึงได้เก่งกาจขนาดนี้!” จางซื่อจู่ถามอย่างสงสัย
หลินหยุนยิ้มจางๆ “ฉันได้พบกับ(คุณปู่)คนหนึ่ง ที่สอนสองกระบวนท่าง่ายๆให้กับฉัน”
“โกหก?” จางซื่อจู่ทำสีหน้าดูหมิ่น “ถ้าวันนี้นายไม่ยอมพูดความจริง นายก็อย่าฝันจะได้นอนหลับสบาย!”
เลยเฉียงรีบมาช่วยหลินหยุนแก้ตัว “เอาล่ะ ทุกคนอย่าทำให้หลินหยุนลำบากใจเลย ใครๆก็ต้องมีความลับส่วนตัว!”
“สิบแปดมงกุฎ คราวที่แล้วรูปของนายที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอยู่ในโทรศัพท์ ฉันยังเก็บไว้อยู่?”
หยางเทียนโย่วสีหน้าตกตะลึงทันที “เทพฟ้าผ่า นายไม่รักษาคำพูด! นายบอกว่าลบทิ้งแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“เอาโทรศัพท์ออกมา แล้วลบทิ้งเดี๋ยวนี้!”
จางซือจู่จ้องมองหลินหยุนอย่างประหลาดใจ หลินหยุนยิ้ม และเดาไม่ออกว่าหลินหยุนกำลังคิดอะไรอยู่
“ช่างมันเถอะ เห็นแก่ที่นายช่วยเหลือเทพฟ้าผ่า จะยอมปล่อยนายไป!”
“หลินหยุนยิ้มและพูดว่า “ถ้าเช่นนั้นฉันต้องขอบคุณนายมาก”
จางซือจู่ทำตาเหลือกใส่เขา และพูดว่า “ขอบคุณนั้นไม่จำเป็น แค่พาคุณปู่ออกมาให้ก็พอ”
หลินหยุนพูด “ไม่มีคุณปู่แก่ แต่มีคุณปู่ตัวน้อยๆคนหนึ่ง นายต้องการไหม”
“พุด!” เลยเฉียงเกือบจะสำลัก
“เอาล่ะๆ พวกนายอย่าเพิ่งสร้างปัญหาตอนนี้ ยังมีเรื่องสำคัญต้องบอกหลินหยุน!” เลยเฉียงพูดอย่างเคร่งขรึม
ดูเหมือนจางซือจู่จะนึกขึ้นได้ มองไปที่หลินหยุน และพูดอย่างจริงจัง “ใช่สิหลินหยุน หลายวันที่ผ่านมาพวกเราได้รับแจ้งจากมหาลัย วันที่25เดือนนี้ ในสตูดิโอของหยางหยิงจะมีฉากการออดิชันเพื่อคัดเลือกนักแสดง”
“วันนี้วันที่20 ยังเหลืออีกห้าวัน สองสามวันนี้นายอย่าไปที่ไหน เตรียมตัวให้พร้อม หากได้รับเลือกจริงๆ ไม่ต้องรอรับปริญญา พวกเราก็สามารถมีอนาคตที่รุ่งโรจน์แล้ว!”
จางซือจู่ดูตื่นเต้น
ในอดีตสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวมีนักศึกษาหลายคนถูกบริษัทบันเทิงพบเห็นและถูกใจ ชั่วขณะพวกเขาก็ดัง และกลายเป็นดาราได้รับความนิยมสูงมาก
นายยังต้องมาลำบากรอจนกว่าจะสำเร็จการศึกษา ไปทำงานบริการเบ็ดเตล็ดให้คนอื่น และถ้าโชคดีอาจได้เล่นเป็นตัวร้าย แต่คนอื่นๆยังได้จบจากมหาลัย พวกเขาก็ถูกบริษัทบันเทิงรายใหญ่แย่งชิงกัน
ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการออดิชันในสถานที่มหาลัย สำหรับนักศึกษาในสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์ จึงเป็นการต่อสู้ที่ต้องนองเลือด
ผู้ชนะกลายเป็นผู้สูงส่ง และเป็นที่ต้องการของผู้อื่น ผู้แพ้ ไม่ว่าคุณจะเป็นดาวหรือเดือนในมหาลัย ก็จะเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป ถูกลืมเลือนไปพร้อมกับฝูงชนมากมาย
ทุกครั้งสถานที่ในการออดิชัน ใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ความสัมพันธ์อะไรที่สามารถนำมาใช้ จะถูกนำมาใช้
ถึงตอนนั้น ไม่มีพี่น้อง ไม่มีแฟน มีแต่คู่แข่ง
“ที่นายพูดถึงดาราหญิงคนนั้นชื่ออะไรนะ?” หลินหยุนถาม
จางซือจู่พูดอย่างเป็นกันเอง“หยางหยิง! ก็คือนางในฝันที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ตอนนี้เธอดังมาก ฉันเป็นแฟนคลับตัวยงของเธอ ฉันยังเคยเป็นหัวหน้าทีมของทีมแฟนครับหิ่งห้อย108 อย่าบอกฉันนะว่านายไม่เคยได้ยินเรื่องนี้!”
เป็นเธอจริงๆ!
หยางหยิงเป็นดาราหญิงที่มีเรื่องอื้อฉาวน้อยที่สุด ดาราหญิงที่มีชื่อเสียงในทางที่ดีมากที่สุด และก็มีหน้าตาสะสวยมาก
แฟนคลับของเธอเรียกตัวเองว่าหิ่งห้อย
และก็คือดาราโด่งดังที่หลินหยุนเคยใช้วิชานึ่งกระดูกช่วยไว้
ในชาติก่อนเขาจำได้ว่าสตูดิโอของหยางหยิงเคยมาที่สถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวเพื่อทำการออดิชัน และหลินหยุนก็แอบตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน โดยหวังว่าจะได้รับเลือก
ตอนนี้มันเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง และคนในสนามหญ้าก็มีน้อยมาก แต่ถึงกระนั้น แม้เป็นเช่นนี้ อีหลิงก็ยังถูกดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมาย
หลินหยุนเดินไป ยิ้มและเรียก “อีหลิง”
ผู้หญิงนิ่งอึ้งเล็กน้อย ทันใดนั้นสองมือก็ไม่รู้จะวางไว้ที่ใด รู้สึกเกร็งเล็กน้อย
งานเลี้ยงฉลองมหาลัยมันรีบร้อนเกินไป ในขณะที่อีหลิงถูกกู้ซิวหรั่นและหวางหยู่หันบีบบังคับ ให้ยอมรับในที่สาธารณะว่าเธอชอบหลินหยุน
จากนั้นหลินหยุนก็ได้เก็บตัวฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาสองเดือน ตอนที่อีหลิงพยายามตามหาเขา โทรศัพท์ก็โทรไม่ติดเลย
อีหลิงคิดว่า หลินหยุนจงใจหลบหน้าเธอ
“นาย มาแล้วเหรอ!” อีหลิงดูเขินอายเล็กน้อย ใบหน้าเหมือนหยกของเธอแดงเล็กน้อย แสงในตอนกลางคืน เหมือนอยู่ในความฝันช่างน่ารักมาก
“อืม” หลินหยุนพยักหน้าเบาๆ ไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือในชาตินี้ เขาไม่ใช่คนที่ชอบคุย
สถานที่เงียบไปเล็กน้อย และในที่สุด อีหลิงก็พูดว่า “ไปเดินเล่นกันเถอะ!”
“ดี” หลินหยุนพยักหน้าอีกครั้ง
ลมฤดูใบไม้ร่วงช่างเยือกเย็น ข้างสนามหญ้าถนนถนนจุนสีที่เงียบสงบ ผู้ชายและผู้หญิงเดินเคียงข้างกันบนถนน ภายใต้แสงไฟบนถนนมีเงาที่ทอดยาว
ภาพอันอบอุ่น ได้ขับไล่อารมณ์ฤดูใบไม้ร่วงที่เยือกเย็นนี้ออกไป
“จริงสิ ในช่วงสองเดือนนี้นายไปไหนมา? โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้?” อีหลิงถามเสียงเบา ท่าทางขุ่นเคืองเล็กน้อย เป็นใครก็สามารถฟังออกถึงน้ำเสียงที่แสดงความกังวล
“มีเรื่องบางอย่างทำให้ล่าช้า” เรื่องการเก็บตัวฝึกฝน หลินหยุนไม่สามารถบอกความจริงกับอีหลิง
เมื่อเห็นหลินหยุนไม่อยากจะพูด อีหลิงก็เข้าใจและไม่ได้ถามต่อ
“เรื่องนั้น เรื่องงานเลี้ยงฉลองมหาลัย ฉันขอโทษ! ถ้ามันส่งผลกระทบต่อนาย หวังว่านายจะให้อภัยได้!” อีหลิงหยุดเดิน และโค้งคำนับให้หลินหยุนอย่างลึกซึ้ง ผมยาวสีดำของเธอเลื่อนลงมาที่ไหล่ทั้งสองข้าง ท่าทางยั่วยวนใจ
ดวงตาของหลินหยุนเหมือนดวงดาวที่คมลึก แสดงรอยยิ้มเล็กน้อย ไม่แสดงสีหน้าใดๆ “ไม่เป็นไร”
“สามารถได้รับความรักจากดาวประจำมหาลัย เป็นเกียรติสำหรับฉัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...