จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 250

สรุปบท บทที่ 250 ลอบลงมือ: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 250 ลอบลงมือ – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 250 ลอบลงมือ ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หลินหยุนมองไปที่ฉินหลัน ยิ้มและพูดขึ้นว่า: “ที่จริงคุณสวยงามกว่าเธอเสียอีก”

ฉินหลันจ้องมองไปที่หลินหยุน หัวเราะและพูดติดตลกว่า: “คิดไม่ถึงว่านายอายุยังน้อย จะพูดจาลิ้นลมคมคายได้ขนาดนี้! ”

“ยอมรับความจริงมานะว่า ได้เคยหลอกลวงความรู้สึกเพื่อนนักเรียนหญิงที่มหาวิทยาลัยเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะสิ? ”

“มีที่ไหนกัน? ฉันก็พูดตามความเป็นจริง หรือว่าพี่ฉินหลันไม่เคยส่งกระจกเหรอ? ” หลินหยุนพูดขึ้นด้วยท่าทางที่ไม่มีความผิด

ฉินหลันคิ้วขมวดทันที แล้วมองไปที่หลินหยุนด้วยความสงสัย: “น่าแปลก ทำไมนายถึงทราบชื่อของฉันด้วยล่ะ? ”

หลินหยุนตกใจ ยุ่งแล้วเชียว ปากพูดออกไปไวเสียจริง เกือบที่จะถูกจับผิดได้แล้ว

“อ้อ เมื่อครู่ได้ยินที่พวกเขาเรียกกัน” หลินหยุนพูดตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน

“ใช่เหรอ? ฉันจำได้ว่าเมื่อครู่พวกเขาต่างก็เรียกฉันว่าผู้ช่วยฉินทั้งนั้น! ”

ฉินหลันแสดงท่าทางที่กำลังครุ่นคิด แต่ว่ารายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ ถือว่าถูกหลินหยุนแปลกปลอมผ่านด่านไปก็แล้วกัน

หลินหยุนพูดว่า: “มีคนเรียกกันตั้งมากมาย คุณคงไม่ได้สนใจ แต่ฉันได้ยินแล้ว”

“ตามนี้ เอาเบอร์โทรศัพท์ของนายให้ฉัน พรุ่งนี้ฉันจะโทรติดต่อไปหานายเอง! ” ฉินหลันกล่าว

“อืม”

หลินหยุนกับฉินหลันได้แลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ซึ่งกันและกัน

ฉินหลันพูดว่า: “ฉันจะโอนเงินตอบแทนของวันพรุ่งนี้ให้นายก่อน ถือว่าเป็นเงินมัดจำ จากนี้ต่อไปจะจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายวันไป”

“ตกลง! ” หลินหยุนตอบตกลงอย่างเบิกบานใจ สายตาจ้องมองไปที่ฉินหลันโดยตลอด สำหรับเรื่องเงินแล้ว เขาไม่เคยใส่ใจเลยแม้แต่น้อย

ฉินหลันสังเกตได้ว่าแววตาที่หลินหยุนมองมาที่เธอนั้นค่อนข้างแปลก เลยอดไม่ได้ที่จะจ้องมองกลับไป และพูดเตือนขึ้นว่า: “เจ้าหนุ่มน้อย ฉันขอเตือนนายไว้ก่อนนะว่าอย่าคิดวางแผนร้ายอะไร มิเช่นนั้นฉันจะให้นายรับผิดชอบกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด! ”

หลินหยุนรีบชูมือสองข้างขึ้น ทำท่าทางยอมศิโรราบ: “เปล่า ฉันสาบานได้ ว่าฉันไม่ได้คิดวางแผนเรื่องร้ายอะไรเลย! ”

หลินหยุนรำพึงในใจว่า ฉันคิดแต่เรื่องที่ดีงามทั้งนั้น

“งั้นก็ดีไป ฉันมีธุระอีก ขอตัวไปก่อน นายไม่ต้องติดตามฉันมาแล้ว” ฉินหลันกล่าว

“รับทราบ” หลินหยุนยิ้มและพูดตอบรับ แล้วก็มองส่งฉินหลันเดินจากไป

ฉินหลันขณะเดินไปก็หันหลังกลับมามอง เหมือนว่าจะไม่ค่อยวางใจหลินหยุนสักเท่าไหร่

“หนุ่มน้อยนี้มองฉันด้วยสายตาที่แปลกมาก? รู้สึกว่าเหมือนจะรู้จักกับฉันมาเป็นเวลานานแล้ว! ”

“แต่ฉันก็ไม่ได้สังเกตพบว่าสายตาของเขามีเจตนาร้ายอะไร แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วงความเอาใจใส่มากกว่า”

“เป็นเด็กหนุ่มที่แปลกเสียจริง! ”

เมื่อเห็นฉินหลันจากไปแล้ว หลินหยุนก็เก็บสำรวมรอยยิ้มขึ้น

“พี่ฉินหลัน ฉันแปลกใจมาก พรุ่งนี้คุณเตรียมที่จะทำอะไร! ”

ฉินหลันแอบว่าจ้างหลินหยุนเป็นบอดี้การ์ด แสดงว่าเตรียมที่จะไม่ใช้บอดี้การ์ดของบริษัทตงหวาง กรุ๊ป พูดได้ว่า เรื่องที่ฉินหลันจะไปกระทำนั้น เป็นการลักลอบกระทำโดยที่ไม่ให้หวางซูเฟินทราบ

หลินหยุนเชื่อว่าฉินหลันไม่มีทางที่จะทำเรื่องทรยศหักหลังคุณแม่เป็นแน่ ดังนั้น หลินหยุนยิ่งคิดก็ยิ่งแปลกใจ ฉินหลันจะกระทำอะไรกันแน่?

บนเวที การแสดงของหยางหยิงสิ้นสุดลง และได้เปลี่ยนนักแสดงอีกคนหนึ่งขึ้นแสดงบนเวทีแล้ว

หลินหยุนรู้สึกค่อนข้างคุ้นเคย แต่ลืมไปแล้วว่าดาราผู้นั้นมีชื่อว่าอะไร

หลินหยุนเดินไปยังทางเข้าด้านหลังเวที เพื่อไปเจอกับหยางหยิง

แต่ว่า ผู้จัดการนักแสดงเฉินซีเฟิ่งก็วิ่งออกมาจากทางเข้าด้านหลังเวที ผมเผ้ายุ่งเหยิง ดูกระเซอะกระเซิง

“เกิดขึ้นอะไรขึ้นเหรอ? ” หลินหยุนจิตใจไม่ค่อยดี ดูเหมือนว่าหยางหยิงจะประสบกับเรื่องร้ายแล้ว

“คุณหลิน หยางหยิงถูกเฉียนเจียเหาจับตัวไปแล้ว คุณรีบไปช่วยเธอด้วย! ” เฉินซีเฟิ่งพูดอย่างกระวนกระวายใจ

หลินหยุนสีหน้าเย็นชา เฉียนเจียเหาผู้นี้ยังไม่ยอมเลิกราเสียทีจริงเชียว!

“พาฉันไปหน่อย! ”

เฉินซีเฟิ่งรีบพูดขึ้นว่า: “คุณหลิน พวกเขานั่งรถพาตัวหยางหยิงไปแล้ว! ”

“คุณขับรถ รีบขับพาฉันตามไป” หลินหยุนกล่าว

“ตกลง! ”

ทั้งสองคนออกจากประตู รถตู้เบนซ์สีดำคันหนึ่ง ก็กำลังขับผ่านหน้าทั้งสองคนออกไป

“นั่นคือรถของเฉียนเจียเหา! ” เฉินซีเฟิ่งส่งเสียงขึ้นอย่างตกใจ

“อย่าเพิ่งตกใจ รีบขับตามไป” หลินหยุนกล่าว

จากนิสัยของเฉียนเจียเหาแล้ว เมื่อหยางหยิงตกอยู่ในกำมือของเขา โอกาสเกินครึ่งที่จะถูกย่ำยี

พวกเขาจำต้องไล่ตามเฉียนเจียเหาอย่างไม่ลดละ เพื่อไม่เหลือเวลาให้เขาทำเรื่องเลวร้าย

ทักษะการขับรถของเฉินซีเฟิ่งไม่เลวเลยทีเดียว ช่วงระยะทางหนึ่งชั่วโมงกว่า ก็ยังไล่ตามติดรถของเฉียนเจียเหาโดยตลอด

บนเรือยอชท์ มองเห็นพวกหลินหยุนทั้งสองคนลงเรือประมงแล้ว เฉียนเจียเหากับพวกลูกน้องหัวเราะเยาะกันยกใหญ่

“แม่ง ข้ามองไม่ผิดไปใช่ไหม! นึกไม่ถึงว่าไอ้หนุ่มนี้จะใช้เรือประมงไล่ตามเรือยอชท์ของพวกเรา เขาคงบ้าไปแล้ว! ”

“คุณชายเฉียน ท่านดูไม่ผิดหรอก ข้าก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกันที่ใช้เรือประมงไล่ตามเรือยอชท์! ”

“ช่างน่าขันสิ้นดี พวกนายกี่คนช่วยส่งแรงเชียร์ให้เขาหน่อย ให้เขาใช้พละกำลังที่มีอยู่ออกมาให้หมด! จะต้องไล่ตามมาให้ทันนะ อย่าหยุดไล่ตามเสียกลางคันล่ะ! ข้ารอคอยเขาสร้างปรากฏการณ์ปาฏิหารย์อยู่นะรู้ไหม? ฮ่าฮ่า......”

ใช้เรือประมงไล่ตามเรือยอชท์ เฉินซีเฟิ่งก็รู้สึกว่าหลินหยุนคงบ้าไปแล้ว ตัวเองก็บ้าเช่นกัน

แต่ว่า ตอนที่หลินหยุนกำลังเริ่มต้นพายเรือนั้น ลูกตาของเฉินซีเฟิ่งแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า!

ความเร็วในการพายเรือของหลินหยุนนั้น เห็นเป็นเพียงแค่เงาเลือนรางสองเส้น รวดเร็วขนาดที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้

ความเร็วของเรือประมง นึกไม่ถึงว่าจะเทียบเท่ากับเรือยอชท์

บนเรือยอชท์ พวกลูกน้องของเฉียนเจียเหาอดไม่ได้ถึงกับต้องขยี้ตา และพูดขึ้นด้วยท่าทางตะลึงว่า: “คุณชายเฉียน ข้าตาฝาดไปแล้วใช่ไหม? ทำไมข้าถึงเห็นว่าความเร็วของเรือประมงนั้นรวดเร็วกว่าเรือยอชท์ของพวกเราเสียอีก! ”

“นายไม่ได้ตาฝาดไป ข้าก็มองเห็นแล้ว! ” เฉียนเจียเหาพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่อึ้งทึ่ง

จากนั้น เฉียนเจียเหาก็เหมือนกับแมวที่ถูกเหยียบหาง พูดตะโกนใส่ลูกน้องที่กำลังขับเรือยอชท์อยู่ว่า: “เพิ่มความเร็วให้ถึงขีดสุด! รวดเร็วขึ้นอีก!”

“ทิ้งหนีพวกเขาไปให้ได้! ”

เฉียนเจียเหาใช้มือบีบไปที่ลำคออันขาวนวลของหยางหยิง พูดขึ้นด้วยความโมโหว่า: “แกไปหาไอ้คนประหลาดนี้มาจากที่ไหนกัน? กัดไม่ยอมปล่อยเลยจริง ๆ! ”

หยางหยิงถูกมัดมือไว้ด้านหลัง ปากก็ถูกปิดด้วยเทปใส ทำได้เพียงส่งเสียงขัดขืนอือๆ ออกมาเท่านั้น

เฉินซีเฟิ่งพูดขึ้นอย่างตึงเครียดว่า: “คุณหลิน พวกเขาเร่งความเร็วแล้ว! ”

“ฉันทราบแล้ว”

หลินหยุนไม่กล้าที่จะเพิ่มความเร็วขึ้นอีก แม้ว่าความเร็วของเขาจะยังไม่ถึงขีดสุด แต่เพราะเรือประมงนั้นถึงขีดสุดของมันแล้ว

หากว่าหลินหยุนเร่งความเร็วขึ้นอีก เรือประมงทั้งลำจะต้องแตกพังกระจาย

ความเร็วของทั้งสองฝ่ายค่อย ๆ เว้นระยะห่าง แต่ว่าเรือยอชท์ของเฉียนเจียเหากับพวกพ้อง ก็ไม่ได้ทิ้งหนีเรือประมงของหลินหยุนไปไกลมากเท่าไหร่นัก

ทุกคนต่างสามารถมองเห็นอีกฝ่ายหนึ่งได้

ลูกน้องคนหนึ่งพูดขึ้นว่า: “คุณชายเฉียน ด้านหน้าปรากฏเรือสำราญลำหนึ่ง พวกเราจะเทียบเคียงเข้าไปใกล้หรือไม่! ”

เฉียนเจียเหาหัวเราะเสียงดังขึ้นทันที: “ฮ่าฮ่าฮ่า เรือสำราญมันฮักในที่สุดพวกเราก็มาถึงแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์