หลินหยุนมองไปที่ฉินหลัน ถามขึ้นว่า: “ถ้าหากฉันไปแล้ว เขากลับมาแก้แค้น คุณจะทำอย่างไร?”
ฉินหลันยิ้มอย่างเย็นชาและพูดขึ้นว่า: “น่าขันสิ้นดี ฉันคือผู้ช่วยของประธานกรรมการบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป เขากล้าจะทำอะไรฉันได้?”
“นายรีบไปเถอะ!หากช้าไปกว่านี้คงจะไม่ทันการแล้ว!”
หลินหยุนครุ่นคิด พูดขึ้นว่า: “เอาอย่างนี้แล้วกัน พวกเรารอกันอยู่ที่นี่ครึ่งชั่วโมง ถ้าหากไอ้คนนั้นไม่กลับมา คุณก็ไล่ฉันออกได้เลย”
“ถ้าหากเขากลับมาภายในเวลาครึ่งชั่วโมง และก็ตอบตกลงที่จะพาคุณไปร่วมการประชุมสุดยอดขนาดเล็ก คุณก็จ้างงานฉันต่อ ว่าอย่างไรล่ะ?”
ฉินหลันมองไปที่หลินหยุนด้วยความสับสน ขมวดคิ้วและพูดว่า: “นายบ้าไปแล้วเหรอ?คนนิสัยแบบเหยียนรุ่ยเหวินมีความแค้นก็จะต้องชำระ ซึ่งเขาจะต้องกลับมาแก้แค้นเอาคืนอย่างแน่นอน!นายยังจะกล้ารออยู่ที่นี่อีกครึ่งชั่วโมงอย่างนั้นเหรอ!”
“นายรีบไปเถอะ!อย่ามามัวชักช้าอยู่เลย นายเป็นเพียงแค่คนนอก ฉันไม่ต้องการจะลากนายเข้ามาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ด้วย”
หลินหยุนอยากที่จะพูดออกไปว่าที่จริงแล้วเขาไม่ใช่คนนอกแต่อย่างไร
แต่ว่า เพื่อไม่ให้กระทบกับการดำเนินไปของประวัติศาสตร์ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะแสดงตัวเปิดเผยสถานะที่แท้จริงออกมา
“รออีกเพียงครึ่งชั่วโมง” หลินหยุนท่าทางแน่วแน่
ฉินหลันเหมือนกับว่าถูกโน้มน้าวด้วยความมั่นใจของหลินหยุน ตอบตกลงออกไปอย่างไม่ตั้งทันตัวว่า: “ตกลง!ฉันจะลองบ้าไปกับนายสักครั้ง แต่ว่า หากภายในครึ่งชั่วโมงแล้วเหยียนรุ่ยเหวินยังไม่กลับมา นายจะต้องรีบไปในทันที!”
“ตกลง” หลินหยุนพยักหน้าตอบรับ
ที่มุมหนึ่งของบันได เหยียนรุ่ยเหวินที่วิ่งหนีออกมาอย่างหัวซุกหัวซุนรีบโทรศัพท์ไปหาพ่อของเขาในทันที
“คุณพ่อ ฉันโดนบอดี้การ์ดคนหนึ่งของฉินหลันทำร้ายร่างกาย!ท่านต้องแก้แค้นแทนฉันด้วย พวกเราตอนนี้รีบถอนหุ้นออกมา!ฉันต้องการให้ไอ้สารเลวนั่นคุกเข่าขอร้องต่อหน้าของฉัน!”
โทรศัพท์ฝั่งนั้น เสียงของชายวัยกลางคนผู้หนึ่งตวาดดังขึ้น: “ไร้สาระ!แกคิดเรื่องอะไรหัดใช้มันสมองเสียบ้าง!ตอนนี้คือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงมือจัดการกับหวางซูเฟิน แกจะให้ข้าถอนหุ้น?สมองของแกมีปัญหาผิดปกติไปแล้วงั้นเหรอ!”
เหยียนรุ่ยเหวินพูดขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม: “แล้วควรทำอย่างไรล่ะ?ปล่อยให้ฉันถูกทำร้ายร่างกายฟรี ๆ อย่างนั้นเหรอ?”
“รุ่ยเหวิน จำคำพูดหนึ่งไว้นะว่า ไม่ยอมอดทนต่อเรื่องเล็กน้อยจะทำให้เสียการใหญ่ได้ แกกลับบ้านไปก่อน ทำเหมือนว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หรือจะยอมแสดงความขอโทษต่อเธอ เพื่อเป็นการไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น รอจนถึงตอนที่พวกเราร่วมมือกันกับตระกูลส้ง ครอบครองบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปแล้ว เวลานั้นแกคิดจะแก้แค้นเอาคืนฉินหลันอย่างไร ก็ตามแต่ที่แกต้องการเลย”
เหยียนรุ่ยเหวินสีหน้าแสดงออกถึงความตื่นเต้นดีใจ แววตาเป็นประกายร้อนผ่าว
“คุณพ่อ ฉันก็ยังลืมความแค้นในครั้งนี้ไม่ลง หรือไม่ท่านก็ช่วยคิดหาวิธีทางอย่างอื่น ลงมือจัดการกับไอ้บอดี้การ์ดที่สมควรตายผู้นั้นของฉินหลันก่อน?”
โทรศัพท์ฝั่งนั้นเงียบลงไปชั่วครู่ และพูดขึ้นว่า: “ไม่ใช่ว่าฉินหลันจะไปร่วมการประชุมสุดยอดขนาดเล็กเพื่อหาเงินทุนสำรองไม่ใช่เหรอ?แกก็ไปหาคนในการประชุมสุดยอดขนาดเล็กเพื่อลงมือจัดการกับบอดี้การ์ดของเธอสิ!”
เหยียนรุ่ยเหวินดวงตาเป็นประกาย: “ยืมมือคนอื่นมาสังหาร!รับทราบ คุณพ่อท่านยอดเยี่ยมเสียจริง!”
ในห้องโถง ฉินหลันกับหลินหยุนนั่งรออยู่ในโซนพักผ่อน
เวลาที่หลินหยุนกับฉินหลันตกลงกันไว้ครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ผ่านพ้นไปแล้วสิบนาที
ฉินหลันมองไปที่หลินหยุนที่นั่งพิงโซฟา หลับตาพักผ่อนอย่างสบายใจ
“หึ ดูเหมือนว่านายจะไม่กระวนกระวายใจอะไรเลย นายมั่นใจมากขนาดนี้เลยเหรอว่าเหยียนรุ่ย เหวินจะกลับมา?”
หลินหยุนลืมตาขึ้น ยิ้มเล็กน้อย: “ฉันก็เชื่อมั่นในตนเองสูงแบบนี้อยู่แล้ว”
ฉินหลันเงียบกริบ: “นายคือบอดี้การ์ดที่อวดเก่งมากที่สุดที่ฉันเคยพบเจอมา ถ้าหากครั้งนี้เป็นไปตามที่นายพูดเอาไว้จริง ฉันก็จะเพิ่มเงินค่าแรงให้นายหนึ่งเท่า”
หลินหยุนพูดว่า: “ไม่ต้องเพิ่มเงินค่าแรงหนึ่งเท่าให้ฉันหรอก หากว่าครั้งนี้ฉันชนะ ถ้าอย่างนั้นต่อไปหากตอนที่ประสบกับอันตราย คุณห้ามไล่ฉันออกอีกก็พอแล้ว”
ฉินหลันมองไปยังดวงตาของหลินหยุน ดูเป็นประกายมีสีสันมากขึ้นซึ่งยากที่จะอธิบาย
เมื่อวานตอนพิธีเปิดงานการประชุมสุดยอดจงโจว ตอนที่เธอพบเจอกับหลินหยุนเป็นครั้งแรก ก็รู้สึกว่าแววตาของหลินหยุนที่มองมาที่เธอนั้นดูแปลก ๆ เมื่อครู่ที่หลินหยุนแสดงออกถึงความเป็นห่วงกังวลในตัวเธอ มันก็มากเกินกว่าท่าทีของบอดี้การ์ดทั่วไปที่พึงจะมี
ตอนนี้ แม้แต่เพิ่มค่าแรงขึ้นก็ไม่ต้องการ กลับยังต้องการที่จะเสี่ยงอันตรายไปพร้อมกับเธออีก
หากว่าหลินหยุนเป็นเพียงบอดี้การ์ดคนหนึ่งที่ต้องการเงินทอง ฉินหลันจะสามารถเชื่อได้อย่างไรกันล่ะ?
“หลินหยุน นายพูดความจริงมานะว่า ที่นายพยายามใกล้ชิดกับฉัน มีเป้าหมายอะไรกันแน่?”ฉินหลันถามด้วยเสียงหนักแน่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...