เวลานี้ สายตาของทุกคนได้มองกลับไปยังหลินหยุนอีกครั้ง แต่ไม่ปรากฏท่าทางการดูถูกดูแคลนอีกแล้ว
หากใครกล้าที่จะพูดออกมาว่าหลินหยุนเป็นเพียงแค่บอดี้การ์ดต่ำต้อยคนหนึ่งล่ะก็ เกรงว่าจะถูกรุมตำหนิต่อว่ากันยกใหญ่
บอดี้การ์ดของใครที่ไหนกันที่สามารถทำให้ผู้มีอิทธิพลอำนาจและพวกเศรษฐีของทั้งสิบแปดเมืองในมณฑลหลิงหนาน กล้าที่จะเสี่ยงอันตรายเผชิญหน้ากับตระกูลส้งผู้ที่มีอิทธิพลในมณฑลจงโจว โดยแสดงตัวออกมาเพื่อสนับสนุนบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป!
ถ้าหากมีบอดี้การ์ดลักษณะนี้แล้ว นายรีบว่าจ้างมาทำงานให้ข้าหนึ่งพันคนก่อนเลย!
แต่ว่า คุณชายหลี่กับพวกลูกเศรษฐีทั้งหลาย กลับไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงแค่มองไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วรู้สึกตะลึงงัน สีหน้าท่าทางตระหนกตกใจ
“มันเป็นไปได้อย่างไรกัน! ไอ้หนุ่มผู้นั้นเป็นเพียงแค่บอดี้การ์ดต่ำต้อยคนหนึ่ง พวกผู้มีอิทธิพลอำนาจและพวกเศรษฐีของทั้งสิบแปดเมืองในมณฑลหลิงหนานเหล่านี้คงจะโง่เขลาไม่เบาเลยทีเดียว? นึกไม่ถึงว่าในเวลานี้จะแสดงตัวออกมาเพื่อที่จะสนับสนุนในตัวเขา! ”
“ตกลงว่าเขาทำมันได้อย่างไรกัน! ”
พวกลูกเศรษฐีทั้งหลายครุ่นคิดเท่าไหร่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี บอดี้การ์ดต่ำต้อยคนหนึ่งที่ถูกพวกเขาหัวเราะเยาะเย้ย เวลานี้นึกไม่ถึงว่าเพียงคำพูดเดียวก็ทำให้พวกผู้มีอิทธิพลอำนาจและพวกเศรษฐีของทั้งสิบแปดเมืองในมณฑลหลิงหนาน แสดงตัวออกมาเพื่อที่จะสนับสนุนบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป
ตอนนี้คุณชายเฉินยังคงอ้าปากค้าง พึมพำกับตนเองว่า: “ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ตกลงว่าเขาทำมันได้อย่างไร? ”
ประธานหูก็อยู่ในอาการตื่นตระหนกเช่นกัน: “เขา นึกไม่ถึงว่าเขาทำมันสำเร็จแล้ว! นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? ”
หากไม่ใช่เรื่องจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว ต่อให้พูดอย่างไรกับพวกประธานหูและพวกคนเหล่านี้ พวกเขาก็คงไม่มีทางที่จะเชื่ออย่างแน่นอน!
“คุณน้องเหยียน ไอ้หนุ่มนั้นเป็นเพียงแค่บอดี้การ์ดคนหนึ่งที่ฉินหลันว่าจ้างมาทั่วไปอย่างนั้นเหรอ? ”
“ถ้าหากว่าจ้างธรรมดาทั่วไปเป็นแบบนี้จริงล่ะก็ ถือว่าเป็นโชคดีของฉินหลันเลยทีเดียว”
เวลานี้เหยียนต้าวหมิงเองก็มีอยู่ในอาการตะลึงงัน จ้องมองไปที่ลูกชายของตนที่มีสีหน้างุนงง ถามขึ้นด้วยเสียงหนักแน่นว่า: “แกไม่ใช่บอกว่าเขาคือบอดี้การ์ดที่ฉินหลันว่าจ้างมาโดยทั่วไปไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้? ”
เหยียนรุ่ยเหวินหวาดกลัวจนเกือบที่จะร้องไห้แล้ว: “คุณพ่อ เขาคือบอดี้การ์ดที่ฉินหลันว่าจ้างมาโดยทั่วไปจริง ๆ! ฉันได้ไปสืบเสาะฟังความมาเป็นอย่างดีแล้ว ฉินหลันกับเขานั้นรู้จักกันในพิธีเปิดงานการประชุมสุดยอดจงโจว”
เหยียนต้าวหมิงตะโกนด้วยความโกรธ: “แล้วทำไมเขาถึงต้องลำบากยุ่งยากเพื่อที่จะช่วยเหลือบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปด้วยล่ะ? บอดี้การ์ดคนหนึ่ง สามารถทำให้พวกผู้มีอิทธิพลอำนาจและพวกเศรษฐีของทั้งสิบแปดเมืองในมณฑลหลิงหนานสนับสนุนเขาโดยไม่มีเงื่อนไขได้อย่างไรกัน? ”
เหยียนรุ่ยเหวินมีสีหน้าที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม: “ฉัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน! เขาเป็นเพียงแค่ บอดี้การ์ดคนหนึ่งเท่านั้นจริง ๆ! ”
เหยียนรุ่ยเหวินรู้สึกว่าโลกใบนี้มันช่างบ้าบอเสียจริง พระเจ้านี่มันเป็นการล้อเล่นตลกกับเขาอย่างรุนแรงเลยทีเดียวเชียว!
แม้แต่ขนาดคุณชายส้ง ส้งอันหมิง เวลานี้ก็มีสีหน้าที่หม่นหมอง
“ไอ้หนุ่มน้อย ข้าเองก็มองข้ามนายจนเกินไป! คิดไม่ถึงว่า นายจะมีความสามารถมากถึงเพียงนี้ ทำให้พวกผู้มีอิทธิพลอำนาจและพวกเศรษฐีของทั้งสิบแปดเมืองในมณฑลหลิงหนานแสดงตัวออกมาช่วยเหลือสนับสนุนนายได้! ”
หวางซูเฟินกับฉินหลัน มีสีหน้าที่งุนงงเช่นกัน กล่าวได้ว่าผู้ที่ตกตะลึงมากที่สุดก็คงเป็นพวกเธอ
เดิมทีคิดว่าภายใต้ความน่าเกรงขามของตระกูลส้ง จะไม่มีผู้ใดแสดงตัวออกมาช่วยเหลือพวกเขาแล้ว การกระทำทุกอย่างของหลินหยุนเมื่อสักครู่นั้น ก็คือการปั่นป่วนในแบบวัยรุ่นทั่วไป
คิดไม่ถึงว่า เพียงชั่วครู่จะมีผู้ที่แสดงตัวจำนวนสามสิบกว่าคนเต็มใจที่จะให้การสนับสนุนบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป!
“ท่านประธานกรรมการ เขาทำสำเร็จแล้ว! นึกไม่ถึงว่าเขาจะทำสำเร็จแล้ว! ”
“นี่มันน่าเหลือเชื่อมากเลยทีเดียว! ” ฉินหลันมองไปที่พวกผู้มีอิทธิพลอำนาจและพวกเศรษฐีของทั้งสิบแปดเมืองในมณฑลหลิงหนาน และดีอกดีใจจนน้ำตาไหล เธอตื้นตันใจเป็นอย่างมาก!
หวางซูเฟินก็ไม่ได้ว่าจะแข็งแกร่งไปกว่าฉินหลันสักเท่าไหร่ มองไปที่หลินหยุนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ที่มี สีหน้าท่าทางที่เฉยเมย
ในแววตาของหวางซูเฟิน ปรากฏถึงความตื่นตระหนกอย่างลึกซึ้ง: “เดิมทีฉันคิดว่าเขาคุยโม้โอ้อวด ซึ่งคิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความสามารถจริง ๆ”
“และเมื่ออยู่ต่อหน้ากับพวกผู้มีอิทธิพลอำนาจและพวกเศรษฐีของทั้งสิบแปดเมืองในมณฑลหลิงหนาน เด็กผู้นี้กลับไม่มีท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ อะไรแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ โชกโชนแล้ว คงจะไม่มีทางอยู่ในสภาพนี้เป็นแน่”
“ก่อนหน้านี้ ฉันมองข้ามเขาเกินไปจริง ๆ! ”
เจี่ยงสงเป็นคนแรกที่เดินเข้ามาหาหวางซูเฟิน แล้วก็โค้งคำนับแสดงความเคารพ: “ประธานกรรมการหวาง ตอนที่ฉันอยู่ที่หลินโจว ก็เคยได้ยินชื่อเสียงของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่ ไฟแรงในจงโจว วันนี้ได้พบเจอ สมกับคำเล่าลือเสียจริง! ”
หวางซูเฟินรีบลุกยืนขึ้น แสดงความเคารพตอบ: “ท่านเจี่ยงเกรงใจกันเกินไปแล้ว ขอบคุณมากที่ท่านได้แสดงตัวออกมาเพื่อสนับสนุนบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปในเวลานี้ ท่านคือผู้มีพระคุณของฉัน! ”
“เชิญรับการคารวะจากฉันด้วย! ”
เหตุการณ์นี้ทำให้เจี่ยงสงถึงกับตกใจเป็นอย่างมากทีเดียว แม้ว่าเขาไม่ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างหวางซูเฟินกับหลินหยุน แต่ในเมื่อเป็นผู้ที่ปรมาจารย์หลินต้องการจะช่วยเหลือ พวกเขาก็จะต้องให้การสนับสนุนช่วยเหลืออย่างสุดกำลังอย่างแน่นอน
เมื่อครู่หลินหยุนแสดงท่าทางเชื่อฟังว่านอนสอนง่ายต่อหน้าของหวางซูเฟิน เจี่ยงสงและทุกคนต่างก็เห็นกันอย่างชัดเจน เขาจะกล้ารับการคารวะจากหวางซูเฟินได้อย่างไรกันล่ะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...