จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 327

ตุบ!

โลงศพไม้สีดำนั้น ได้ถูกโยนลงไปบนพื้นไม้ที่แข็งแกร่งทนทานอย่างรุนแรง ทุ่มลงไปจนถึงขนาด ทำให้รู้สึกว่าสั่นสะเทือนไปทั้งห้องโถง

สายตาของทุกคนนั้น ได้ถูกสองคนนี้ดึงดูดเอาไว้โดยพลัน

พวกผู้มีชื่อเสียงแห่งเจียงหนานที่อยู่ในห้องโถงทั้งหมด ต่างจ้องมองหน้าซึ่งกันและกัน

วันนี้เป็นวันสำคัญที่คุณอีได้เปิดตัวลูกสาว และยังเป็นวันเกิดของคุณอีหลีงด้วย นึกไม่ถึงว่าในวันที่ดีมีความหมายเช่นนี้ยังมีคนกล้าที่จะส่งมอบโลงศพมาให้!

นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตระกูลอีต่อหน้าทุกคนเหรออย่างไร กำลังสาปแช่งตระกูลอีอยู่งั้นเหรอ?

ตกลงเป็นใครกัน ที่หาญกล้ามากขาดนี้!

อีกทั้ง โลงศพนั้น เกรงว่าน่าจะหนักหลายสิบกิโลกรัม แต่ชายหนุ่มสองคนที่มีรูปร่างผอมบางนั้น กลับที่จะสามารถแบกยกเข้ามาด้านในได้อย่างง่ายดาย

สองคนนี้มีพละกำลังมากจริง ๆ!

อีหยุ่นมองไปที่สองคนนี้ ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม หยุดการพูดคุยกับผู้มีชื่อเสียงแห่งเจียงหนาน สองคนนั้น แล้วก็แยกตัวออกมา พาลูกน้องสี่คนออกไปต้อนรับขับสู้

ผู้มีชื่อเสียงแห่งเจียงหนานทุกคน ก็ติดตามอยู่ด้านหลังของอีหยุ่นเพื่อเดินเข้าไปหาด้วยกัน

ทางด้านนี้ อาฉินก็มองไปที่ชายหนุ่มสองคนนั้น ใบหน้าแก่ชราที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น ได้ปรากฏท่าทางโมโหขึ้น

“คุณหนู คุณรออยู่ตรงนี้ห้ามไปไหน เดี๋ยวข้าจะไปดูว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น! ”

“อืม” อีหลิงพยักหน้าตกลง ขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ชายหนุ่มชุดดำสองคนนั้นที่หน้าปากประตู ซึ่งแม้ว่าอีหลิงจะมาอยู่ที่บ้านตระกูลอีเป็นเวลาไม่นานนัก แต่ก็สามารถมองออกได้ว่า ทั้งสองคนนี้เป็นคนไม่ดี

ป๋ายรุ่ยเหวินและพวกคุณชายลูกเศรษฐีแห่งเจียงหนาน ต่างก็เบี่ยงเบนความสนใจมายังชายหนุ่มสองคนนี้แล้ว โดยที่ปล่อยหลินหยุนเอาไว้ก่อนชั่วคราว

เซี่ยหยู่เวยและคนอื่น ๆ สายตาของทุกคนต่างก็จ้องมองมายังชายหนุ่มที่แปลกประหลาดสองคนนั้น ด้วยสีหน้าท่าทางที่อยากรู้อยากเห็น

“คนพวกนี้เป็นใครกัน กล้าดีอย่างไรถึงได้มาสร้างความวุ่นวายที่ตระกูลอี! ”

หลินหยุนมองไปที่สองคนนั้น ต่างก็มีพลังความสามารถอยู่ในขั้นพรแสวงสูงสุด ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เขาเกิดความสนใจอะไรขึ้นมาเลย

แต่ว่า เขาเองก็แปลกใจอยู่บ้าง ตระกูลอีเป็นถึงผู้มีอิทธิพลใหญ่แห่งมณฑลเจียงหนาน ตกลงเป็นใครกัน ถึงได้กล้ามาสร้างความวุ่นวายที่บ้านตระกูลอี

อีหยุ่นมีสีหน้าหม่นหมอง มองไปยังสองคนนั้น ถามขึ้นว่า: “พวกนายเป็นใครกัน? ทำไมถึงต้องมาสร้างความวุ่นวายที่บ้านตระกูลอีด้วย? ”

ชายหนุ่มทั้งสองคนมีท่าทางที่ไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก เหมือนกับว่าไม่ได้ยินที่อีหยุ่นพูดอย่างไร อย่างนั้น

อีหยุ่นมีสีหน้าที่ย่ำแย่ แล้วก็ทำตาส่งสัญญาณให้กับลูกน้องทั้งสี่คนด้านหลัง ลูกน้องสองคนในจำนวนนั้นก็ได้พุ่งกระโจนเข้าไปในทันที เพื่อลงมือจู่โจมชายหนุ่มชุดดำที่แปลกประหลาดทั้งสองคนนั้น

ตุบ!

ลูกน้องสองคนของอีหยุ่น เพียงแค่ได้เข้ามาปะทะซึ่ง ๆ หน้า ก็ถูกชายหนุ่มชุดดำสองคนนั้นชกกระเด็นไปไกล ล้มลงไปกองกับพื้น มีสีหน้าท่าทางหวาดกลัว

อีหยุ่นหน้านิ่วคิ้วขมวด ลูกน้องสองคนนี้ของเขา ไม่ใช่คนธรรมดาต่างก็เป็นนักบู๊ผู้พรแสวงชั้นต้นที่ไม่มีทักษะติดตัวมาแต่เกิด แต่เกิดขึ้นจากการฝึกฝนในภายหลัง โดยทั่วไปพวกเขาคนเดียวสามารถต่อสู้กับคนธรรมดาทั่วไปได้ทีละกี่สิบคน ตอนนี้เพียงแค่ปะทะหน้ากันก็ถูกชกกระเด็นลอยออกมาแล้ว

นั่นแสดงว่า ชายหนุ่มที่แปลกประหลาดสองคนนี้ ก็เป็นนักบู๊ และยังมีการบำเพ็ญฝึกฝนที่เหนือกว่า

อาฉินทำเสียงฮึอย่างเย็นชา เงาร่างแวบพุ่งไป ยืนบังอยู่ด้านหน้าของอีหยุ่น ด้วยร่างกายที่หลังค่อมง่อนแง่น แล้วก็มองไปยังชายหนุ่มสองคนนั้นด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง

เหมือนว่ารับรู้ได้ถึงลมหายใจอันแกร่งกล้าในตัวของอาฉิน ชายหนุ่มสองคนมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย และมองไปที่อาฉินด้วยสีหน้าท่าทางที่ระมัดระวัง

“ลำพังแค่ความสามารถระดับขั้นพรแสวงสูงสุด คิดที่จะมาสร้างความวุ่นวายที่บ้านตระกูลอี ทำเป็นมารังแกว่าโดยนึกว่าตระกูลอีของเราไม่มีคนมีฝีมือความสามารถหรืออย่างไรกัน”

อาฉินพูดจบ เงาร่างก็แวบพุ่งไป โดยใช้หมัดสองข้างที่มีพลังดุจเสือร้าย จู่โจมไปยังชายหนุ่มชุดดำสองคนนั้น

ชายหนุ่มสองคนรีบเผชิญหน้ารับมือกับศัตรูที่กำลังจู่โจมเข้ามา โดยใช้พลังที่ฝึกฝนมาทั้งหมด ต่อต้านพลังหมัดของอาฉิน

ตุบ!

สภาพการณ์เปลี่ยนแปลงไปโดยทันที ชะตากรรมของชายหนุ่มชุดดำสองคนนั้น ก็เหมือนกับลูกน้องสองคนของตระกูลอีเมื่อครู่นี้ โดนอาฉินชกกระเด็น

“ฮ่าฮ่า! ”

เสียงหัวเราะดังที่แก่ชรา แต่กลับแฝงไปด้วยความหยิ่งยโส ดังผ่านมาเข้าจากภายนอก

จากนั้น ชายชราในชุดคลุมสีดำถือไม้เท้าคนหนึ่ง เดินตัวสั่นเงอะงะเข้ามาด้านใน

ชายหนุ่มชุดดำสองคนที่เดิมทีนอนกองอยู่ที่พื้น ก็อดทนต่อความเจ็บปวดแล้วรีบคลานลุกขึ้นมา ยืนอย่างเคารพอยู่ทั้งสองข้าง ทำท่าทางแสดงการต้อนรับ โดยก้มศีรษะลงและไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง

ชายชราในชุดคลุมสีดำกวาดสายตามองไปที่ชายหนุ่มสองคนนั้นด้วยสีหน้าหม่นหมอง ตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “เจ้าสองคนไม่ได้เรื่องเสียเลย! ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์