จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 326

สรุปบท บทที่ 326 คุณชายป๋ายยอมจำนน: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 326 คุณชายป๋ายยอมจำนน จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 326 คุณชายป๋ายยอมจำนน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ป๋ายรุ่ยเหวินแอบถอนหายใจ: “จบแล้ว ถูกเขามองออกจนได้! ”

อีหลิงรับจี้หยกกลับคืนมา แล้วก็ห้อยไว้ที่คออีกครั้ง พยักหน้าด้วยท่าทางที่จริงจัง: “ฉันจำเอาไว้แล้ว ขอบคุณอาฉินมาก! ”

อีหลิงมีความประหลาดใจอยู่บ้าง ตามสถานะอาฉินเป็นพ่อบ้านของตระกูลอี แต่อีหยุ่นได้เคยบอกกับอีหลิงไว้ก่อนแล้วว่า จะต้องเคารพอาฉิน เธอทราบว่าอาฉินมีพลังความสามารถเก่งกล้า แต่ว่า จากสถานะและพลังความสามารถของอาฉินแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะตั้งสติไม่อยู่เมื่ออยู่ต่อหน้าจี้หยกชิ้นนี้!

อีหลิงอดไม่ได้ต่อความสงสัยในใจ: “จี้หยกชิ้นนี้ที่หลินหยุนมอบให้กับฉัน ตกลงว่ามีความอัศจรรย์อะไรตรงไหน? ถึงทำให้อาฉินต้องปฏิบัติรักษาอย่างระมัดระวังขนาดนี้ด้วย! ”

อีหลิงอดไม่ได้จึงแอบหันมองที่หลินหยุน พบว่าหลินหยุนมีสีหน้าท่าทางเฉยเมย โดยมองไม่ออกว่าในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่

กู้ซิวหรั่นเห็นอยู่ว่าหลินหยุนกำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรง แต่ชายแก่ผู้นี้กลับปรากฏตัวออกมา ยกย่องชมเชยจี้หยกนี้อย่างถึงที่สุด

กู้ซิวหรั่นไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หัวเราะขึ้นและพูดว่า: “ก็แค่จี้หยกของแบกะดินไม่ใช่เหรอ จะมีอะไรที่พิเศษได้อย่างไร หรือว่าจะมีมูลค่ามากกว่าแสงแห่งความหวังที่คุณชายป๋ายมอบให้อย่างนั้นเหรอ? ”

ป๋ายรุ่ยเหวินหน้าแดง อยากที่จะถีบกู้ซิวหรั่นให้กระเด็นออกไป นายไม่รู้เรื่องก็อย่ามาพูดซี้ซั้วได้หรือไม่?

คำพูดแบบนี้หากพูดต่อหน้าคนธรรมดาทั่วไปก็ถือว่าไม่มีอะไร แต่นี่นายพูดต่อหน้านักบู๊ระดับพรสวรรค์สูงสุดคนหนึ่ง แบบนี้มันไม่ใช่เป็นการดูถูกตัวเองหรอกเหรอ?

แสงแห่งความหวังแม้ว่าจะล้ำค่า แต่ มันก็เป็นเพียงแค่ของเล่น จะนำไปเปรียบเทียบกับเครื่องรางที่มีพลังอัศจรรย์นั้นได้อย่างไรกัน?

เป็นไปตามนั้น อาฉินมองไปยังกู้ซิวหรั่นด้วยความเหยียดหยาม ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “วันนี้ในบรรดาของขวัญทั้งหมด จี้หยกชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุด แสงแห่งความหวังอะไรนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับจี้หยกชิ้นนี้แล้ว ก็เป็นได้แค่ขยะ! ”

“พวกนายเป็นพวกชายหนุ่มที่ด้อยความรู้ จะสามารถเข้าใจความล้ำค่าของสมบัติชิ้นนี้ได้อย่างไรกัน! นายลองพูดเองออกมาหน่อยสิ คุณชายป๋าย! ”

สายตาของอาฉินมองไปที่ป๋ายรุ่ยเหวินในทันที และยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา

ป๋ายรุ่ยเหวินอับอายอย่างมาก อยากที่จะเข้าไปชกไอ้กู้ซิวหรั่นหน้าโง่สักตั้ง โดยที่หากว่าอาฉินเป็นเพียงแค่พ่อบ้านของตระกูลอี เขาก็คงไม่ต้องไปสนใจอะไรมาก

แต่ อาฉินเป็นถึงนักบู๊พรสวรรค์สูงสุดท่านหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับอาจารย์ของเขาแล้ว ก็ด้อยกว่าเพียงแค่เล็กน้อย

ในโลกบู๊ มีกฎระเบียบเคร่งครัด ป๋ายรุ่ยเหวินอยู่ต่อหน้าคนอื่น สามารถกำเริบเสิบสานอย่างไรก็ได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้านักบู๊อาวุโสท่านหนึ่ง เขากลับไม่กล้าที่จะพูดเกินความเป็นจริง

“ท่านผู้อาวุโสพูดได้ถูกต้องแล้ว จี้หยกชิ้นนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับแสงแห่งความหวังที่ข้ามอบให้นั้น มีความล้ำค่ามากกว่าเป็นหมื่นเท่า! ”

ทุกคนต่างก็ตะลึงงัน แม้พวกเขาฝันก็ยังคงคิดไม่ถึงว่า ป๋ายรุ่ยเหวินจะยอมรับจากปากตนเองว่า ของขวัญของเขาเทียบกับของหลินหยุนไม่ได้!

กู้ซิวหรั่นขมวดคิ้ว สงสัยอยู่ในใจ เขาไม่เข้าใจว่าป๋ายรุ่ยเหวินที่มีสถานะเป็นถึงคุณชายของตระกูลป๋าย ทำไมถึงจะต้องเคารพต่อพ่อบ้านคนหนึ่งของตระกูลอีขนาดนี้ด้วย

“คุณชายป๋าย เขาเป็นเพียงแค่พ่อบ้านคนหนึ่ง จะไปทราบถึงความล้ำค่าของแสงแห่งความหวังได้อย่างไรกัน นายไม่จำเป็นต้องไปสนใจเขา! ”

ป๋ายรุ่ยเหวินหน้ามืด เกือบที่จะสลบลงไป และได้ตวาดใส่กู้ซิวหรั่นด้วยความโมโหว่า: “นายหุบปากเดี๋ยวนี้! นายไอ้คนโง่จะเข้าใจอะไร ถอยหลบออกไปซะ!”

กู้ซิวหรั่นหน้าเขียวและแดงสลับกัน ไม่รู้ว่าทำไมป๋ายรุ่ยเหวินถึงได้โมโหขึ้นอย่างกะทันหันแบบนี้ แต่ก็ไม่กล้าที่จะโต้แย้งกลับไป แม้ว่าตระกูลกู้จะมีอิทธิพลอยู่บ้างในหลิงหนาน แต่ในมณฑล เจียงหนาน ไม่มีใครที่จะให้เกียรติเห็นแก่หน้าตระกูลกู้

ป๋ายรุ่ยเหวินดุด่าเขาเหมือนกับดุด่าลูกชายอย่างไรอย่างนั้น

และหลังจากที่เขาโดนด่าแล้ว พวกคุณชายลูกเศรษฐีแห่งเจียงหนาน ไม่เพียงไม่มีคนที่เห็นอกเห็นใจเขา กลับยังยิ้มเยาะแสดงท่าทางดีใจที่เขาโชคร้าย

อาฉินหัวเราะอย่างเย็นชา และมองไปที่ป๋ายรุ่ยเหวินอย่างมีความหมาย ดวงตาปรากฏความชื่นชมขึ้นมาแวบหนึ่ง

จากนั้น อาฉินมองไปยังหลินหยุนที่ไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก พูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “ขอบคุณมากที่นายได้นำสมบัติอันล้ำค่าชิ้นนี้มอบให้กับคุณหนู แม้ว่าข้าจะมองไม่ออกว่าสิ่งของชิ้นนี้มีคุณประโยชน์สำคัญอะไร แต่ข้าก็ขอขอบคุณแทนคุณหนูก่อน! ”

พูดจบ อาฉินก็โค้งคำนับต่อหลินหยุน เป็นการแสดงความเคารพ!

ทุกคนต่างตะลึงงัน!

ป๋ายรุ่ยเหวินมีสีหน้าที่ย่ำแย่อย่างมาก เพราะอีหลิงนั่นคือว่าที่ภรรยาของเขา! แต่ตอนนี้นึกไม่ถึงว่าเธอจะส่งสายตาสื่อความรู้สึกให้กับไอ้หลินหยุนนั่น

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอาฉิน ป๋ายรุ่ยเหวินก็ไม่กล้าที่จะโวยวายอะไร ทำได้เพียงอดทนยอมรับเงียบ ๆ

ป๋ายรุ่ยซินเห็นหลินหยุนได้ทีทำเป็นออกหน้าออกตา จึงไม่ค่อยพอใจอย่างมาก: “ฮึ จะมีอะไรที่อัศจรรย์กัน! ครั้งหน้าข้าจะซื้อจี้หยกชิ้นที่ใหญ่และดีกว่านี้ มอบให้กับอีหลิง! ”

อาฉินยิ้มอย่างเหยียดหยาม ไม่ใช่ว่าชิ้นที่ใหญ่กว่าดีกว่าจะไปมีประโยชน์อะไรได้ จี้หยกชิ้นนี้ที่ หลินหยุนมอบให้กับอีหลิงนั้น ชัดเจนว่าเป็นเครื่องรางที่ได้ทำขึ้นมาเป็นอย่างดี คนธรรมดาอย่างป๋ายรุ่ยซิน ไม่มีทางที่จะเข้าใจในมูลค่าของมันได้

สำหรับการแสดงความเคารพของอาฉิน หลินหยุนก็น้อมรับอย่างเต็มใจ โดยยืนอยู่ที่เดิมในท่าทางเฉยชา ไม่พูดจาอะไรแม้แต่คำเดียว

ดูเหมือนว่า อาฉินที่อยู่เบื้องหน้าของเขา ก็ไม่แตกต่างอะไรกับพวกลูกชายเศรษฐีเหล่านั้น

อาฉินไม่แปลกใจอะไรเลย เขาติดตามอีหยุ่น และได้เคยพบเจอกับหลินหยุนแล้วสองครั้ง โดยที่ท่าทางหยิ่งยโสของหลินหยุนนั้น เขาค่อนข้างเข้าใจดี

อีกทั้ง ในใจอาฉินยังมีความสงสัยเพิ่มมากขึ้นว่า หลินหยุนคงจะไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเป็นแน่

“ตอนแรกที่อยู่ในห้องพักผ่อน เขาตั้งใจที่จะปลดปล่อยลมหายใจที่แกร่งกล้าต่อหน้าข้า โดยที่ไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย ตอนนี้ ได้นำเครื่องรางชิ้นหนึ่งมาเป็นของขวัญมอบให้กับคุณอีหลิง ซึ่งไม่ใช่ว่าคนธรรมดาทั่วไปจะสามารถทำอย่างนี้ได้! ”

“ไอ้หนุ่มนี้ ตกลงว่ามีสถานะอะไรกันแน่? ”

ในขณะที่อาฉินกำลังแอบคาดเดาสถานะของหลินหยุนอยู่นั้น ก็มีเสียงดังโครมขึ้น ประตูใหญ่ได้ถูกเปิดขึ้นด้วยพลังอันรุนแรง

ยามสองคนที่อยู่ในชุดปฏิบัติงาน ถูกต่อยกระเด็นลอยเข้ามา ล้มลงไปกองบนพื้นอย่างกระเซอะกระเซิงแล้วก็สลบไป

จากนั้น ชายหนุ่มสองคนในชุดฝึกบู๊สีดำ ได้แบกหามโลงศพสีดำโลงหนึ่ง เดินเข้ามาด้านใน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์