จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 325

สรุปบท บทที่ 325 นี่ต่างหากที่เป็นสมบัติล้ำค่า: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 325 นี่ต่างหากที่เป็นสมบัติล้ำค่า จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 325 นี่ต่างหากที่เป็นสมบัติล้ำค่า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลินหยุนยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบเงียบ เงาร่างของเขาดูโดดเดี่ยวและหดหู่ เหมือนกับว่าถูกโลกใบนี้ทอดทิ้งแล้ว

บริเวณโดยรอบต่างก็เป็นคำพูดที่เย็นชา เยาะเย้ย ดูถูก เหยียดหยาม ราวกับลูกศรแทงทะลุผ่านร่างเข้าไปยังหัวใจทีละดอกทีละดอก ทำให้เขาตายกลายเป็นศพที่น่าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง

อีหลิงก็รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาทันที มองไปยังพวกคุณชายลูกเศรษฐีที่อยู่โดยรอบ สีหน้าปรากฏความโกรธเคืองขึ้นบ้างเล็กน้อย

“พวกคุณทำกันเกินไปแล้ว! ”

“เมื่อครู่ฉันได้พูดแล้วว่า ฉันไม่ได้สนใจว่าของขวัญจะเป็นอะไร เพียงแค่ทุกคนสามารถมาหาฉัน ฉันก็ดีใจมากที่สุดแล้ว”

เสียงของอีหลิงเย็นชา และพูดออกมาด้วยความโกรธเคืองเล็กน้อย ทำให้ทุกคนเงียบสงบลงในทันที

ทุกคนต่างก็ฟังออก อีหลิงโมโหขึ้นแล้ว

สายตาของอีหลิง พร้อมกับคำขอโทษ มองไปที่หลินหยุน แล้วพูดขึ้นว่า: “หลินหยุน คำพูดของพวกเขาคุณอย่าได้ถือสาหาความเลย จี้หยกที่คุณมอบให้ฉัน ฉันชอบมาก ฉันจะห้อยมันติดตัวไว้ตลอดเวลา! ”

พวกคุณชายลูกเศรษฐี สีหน้าดูย่ำแย่ เพราะอีหลิงปกป้องเข้าข้างหลินหยุน ชัดเจนมากเกินไปแล้ว

นี่เป็นการทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้เสียหน้ากันไปทั้งหมด!

ป๋ายรุ่ยเหวินโมโหมากจนหน้าเขียว เดิมทีคิดว่าการเหยียดหยามหลินหยุนต่อหน้าอีหลิง อีหลิงจะสามารถเห็นตัวตนที่แท้จริงของหลินหยุน และรังเกียจหลินหยุน

แต่คิดไม่ถึงว่า เรื่องราวกลับตรงกันข้าม อีหลิงกลับเห็นใจหลินหยุนขึ้น ถึงขนาดยอมที่จะแตกคอกับทุกคนเพื่อหลินหยุน!

ป๋ายรุ่ยซินขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า: “พี่ พี่สะใภ้หลงใหลในตัวของไอ้หนุ่มนั่นไม่น้อยเลย! จากนี้พวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี? ”

เซี่ยหยู่เวยก็ตะลึงอยู่บ้าง เธอคิดไม่ถึงว่าอีหลิงจะทำเพื่อหลินหยุน ถึงขนาดล่วงเกินกับพวกคุณชายลูกเศรษฐีแห่งเจียงหนาน

เซี่ยหยู่เวยสีหน้าดูย่ำแย่ ในใจเต็มไปด้วยความริษยาและโกรธแค้นต่อหลินหยุน อีกทั้งยังกล่าวโทษอีหลิงอีกด้วย

หลินหยุนมีสีหน้าเมินเฉย กวาดสายตามองไปที่ทุกคนอย่างเย็นชา โดยที่แววตาแฝงไปด้วยความ ดูถูก: “ของขวัญที่ข้าหลินชางฉองได้มอบให้นั้น จะนำมาเปรียบเทียบกับของธรรมดาเหล่านี้ได้อย่างไรกัน! ”

จากนั้น หลินหยุนก็ชี้นิ้วออกไป ลำแสงสีเขียวก็พุ่งไปที่จี้หยกที่ด้านหน้าหน้าอกของอีหลิง

ลำแสงสีเขียวหายวับดับลงไป พลังทิพย์ได้กระตุ้นให้ค่ายกลและพลังฟ้าดินภายในจี้หยกตื่นตัวขึ้น กระแสลมเย็น ได้โบกพัดไปทั่วทั้งสถานที่ในทันที

ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น และต่างก็รู้สึกว่าสดชื่นสบายตัว

วัสดุที่นำมาผลิตจี้หยกป้องกันตัวชิ้นนี้นั้น เป็นหยกทิพย์ชั้นดี ภายในหยกทิพย์ จะประกอบไปด้วยพลังฟ้าดินที่แข็งแกร่งหนักแน่น

พลังฟ้าดินเหล่านี้ มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ซึ่งหลังจากที่หลินหยุนใช้พลังทิพย์กระตุ้นแล้วนั้น ก็จะทำให้เกิดผลดีช่วยให้สมองสดชื่นปลอดโปร่ง

คนธรรมดาเหล่านั้น จะแค่รู้สึกว่ามีลมพัดผ่านไปชั่วขณะ รู้สึกสดชื่นสบายตัว แต่ พวกเหล่านักบู๊นั้นกลับสั่นไหวไปทั่วทั้งร่างกาย ตื่นตระหนกตกใจกันใหญ่!

โลกนี้ขาดแคลนชี่ทิพย์ ซึ่งหยกทิพย์ที่ประกอบด้วยพลังฟ้าและดินเช่นนี้ก็มีหลงเหลืออยู่น้อยมาก ซึ่งคงไม่ต้องพูดถึงหยกทิพย์ชั้นดีนี้ว่าจะมีจำนวนอยู่แค่เท่าไหร่กัน

เมื่อครู่ที่ชี่ทิพย์ได้แสดงพลังออกมานั้น ก็ทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์อยู่บ้าง ภายในห้องโถง ที่มีนักบู๊สิบกว่าคนซ่อนตัวอยู่ สายตาก็ร้อนผ่าวขึ้นในทันที มองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจหาต้นตอที่มาของคลื่นชี่ทิพย์

ป๋ายรุ่ยเหวินเองก็เป็นนักบู๊แดนพรสวรรค์ และอยู่ใกล้กับอีหลิงมากที่สุด พลังทิพย์อันแกร่งกล้าที่ปลดปล่อยออกมาจากจี้หยก เขาก็รู้สึกและสัมผัสได้อย่างรุนแรง

“เป็นไปได้อย่างไรกัน! จี้หยกชิ้นนี้ หรือว่าจะเป็น......เครื่องราง! ”

ป๋ายรุ่ยเหวินตกตะลึงเป็นอย่างมาก ตอนที่เขาอยู่ในสำนัก มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อาจารย์ได้พูดถึงเครื่องรางขึ้น

เขาจำได้อย่างชัดเจนว่า ตอนที่อาจารย์ได้พูดถึงเครื่องราง สีหน้าท่าทางเคร่งขรึม รวมถึงแววตาทั้งสองข้างปรากฏถึงความเลื่อมใสศรัทธา

อาจารย์ของเขาที่มีระดับฝีมือความสามารถที่แข็งแกร่งนั้น เพียงแค่พูดถึงเครื่องราง ก็เคร่งขรึมจริงจังขนาดนี้ หากว่าได้เห็นเครื่องรางกับตาของตนเอง เกรงว่าคงจะถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าในทันที

ส่วนหลินหยุน คิดไม่ถึงว่าจะนำเครื่องรางที่มีความสำคัญมากต่อนักบู๊มาเป็นเครื่องประดับ มอบเป็นของขวัญให้กับคนธรรมดาทั่วไป!

นี่มันเป็นการทำลายสิ่งของอันล้ำค่าตามอำเภอใจ!

ไอ้คนล้างผลาญชัด ๆ!

แต่ว่า ป๋ายรุ่ยเหวินไม่มีทางที่จะพูดออกมาเองอย่างเด็ดขาด เขาต้องการอย่างมากที่จะให้ หลินหยุนถูกเหยียดหยาม

“หุบปาก! ”

เสียงตะโกนที่แก่ชราดังขึ้น ผู้อาวุโสอาฉินที่อยู่ด้านข้างของอีหยุ่นได้เดินเข้ามา

อาฉินแม้ว่าจะเป็นเพียงพ่อบ้านที่ดูแลอีหยุ่น แต่ ทุกคนทราบดีว่า อาฉินมีสถานะที่สูงศักดิ์ในตระกูลอี แม้แต่คุณอีเองก็ยังเคารพและปฏิบัติอย่างสุภาพต่อเขา

“อาฉิน! ” อีหลิงตะโกนเรียกเสียงเบา ๆ ด้วยท่าทางที่เคารพ

อาฉินเป็นคนหลังค่อมง่อนแง่น แต่ว่า ดวงตาที่แก่ชราทั้งสองข้างของเขากลับมีความเฉียบคม ยิ่งนักซึ่งกำลังมองไปที่จี้หยกที่หน้าอกของอีหลิง ยิ่งดู สีหน้าของอาฉินก็ยิ่งจริงจังขึ้น

“คุณอีหลิง สามารถที่จะถอดจี้หยกนั้นออกมาให้ข้าดูหน่อยได้ไหม? ” อาฉินพูดขึ้นด้วยเสียงที่แหบ

อีหลิงมองไปที่หลินหยุน เห็นว่าหลินหยุนหันหน้ามองไปที่อื่น และแสดงท่าทางที่ไม่ใส่ใจ จึงได้ตอบขึ้นว่า: “ได้สิ! ”

ขณะพูด ก็ถอดจี้หยกนั้นออกมา ใหกับอาฉิน: “อาฉินเชิญดูได้เลย! ”

“ขอบคุณคุณหนู! ” อาฉินรับจี้หยกนั้นมา สองมือโอบอุ้มเอาไว้ ราวกับว่าเป็นสมบัติ

ทุกคนมองไปที่อาฉินด้วยความไม่เข้าใจ ในใจคิดว่าก็แค่จี้หยกที่เป็นของแบกะดินไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ด้วย?

อาฉินตั้งใจมองดูชั่วครู่ ยื่นมือออกมาแล้วก็ปล่อยชี่แท้ ลงไปบนจี้หยกนั้น ก็ปรากฏลำแสงสีเขียวขึ้นแวบหนึ่งอีกครั้ง แต่ ลำแสงมีขนาดเล็กกว่าเมื่อครู่มาก และเวลาการปรากฏขึ้นก็สั้นกว่ามากเช่นกัน

ได้เกิดความรู้สึกเย็นสบายขึ้นอีกครั้งในห้องโถง แต่ว่า เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แล้วก็หายไป

อาฉินนำจี้หยกคืนกลับให้อีหลิง ถอนหายใจและพูดว่า: “แม้ว่าข้าจะสามารถกระตุ้นมันได้เพียงแค่เล็กน้อย แต่ข้ารับรองได้อย่างแน่นอน นี่คือสมบัติอันล้ำค่าที่สุด! ” อาฉินพูดออกมาอย่างจริงจังเป็นอย่างมาก

“คุณหนู ไม่ว่าจะที่ไหนเวลาใด คุณควรจะนำจี้หยกชิ้นนี้ห้อยติดตัวไว้ตลอด! จำเอาไว้ จำเอาไว้! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์