พวกคุณชายลูกเศรษฐีแห่งเจียงหนานมองไปที่หลินหยุน โดยยิ้มอย่างเย็นชาและดีใจกับความ โชคร้ายของคนอื่น
ผู้คนที่มาในวันนี้ ทั้งรวยและมีระดับ ต่อให้เป็นพวกเพื่อนผู้หญิงของอีหลิง หลังจากที่ทราบถึงสถานะของอีหลิงแล้ว ต่างก็ได้เตรียมของขวัญที่มีมูลค่าราคาแพงไม่น้อย
พูดได้ว่า ของขวัญที่มอบให้กับอีหลิงครั้งนี้ อย่างน้อยต้องมีราคาขั้นต่ำที่หลายพันหยวน ไม่ว่าอย่างไรก็คงจะมีมูลค่ามากกว่าจี้หยกแบกะดินของหลินหยุนอย่างแน่นอน!
ป๋ายรุ่ยซินเห็นว่าหลินหยุนไม่พูดไม่จา ก็มีสีหน้าท่าทางดีใจขึ้นโดยพลัน เธอคิดว่าครั้งนี้ได้พูดแทงตรงใจดำของหลินหยุนเข้าให้แล้ว
แต่ว่า เท่านี้ยังคงไม่เพียงพอ เธอต้องการจะใส่ไฟให้มากขึ้น ทำให้หลินหยุนอับอายขายหน้าอย่างถึงที่สุด
ป๋ายรุ่ยซินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และมองไปที่ป๋ายรุ่ยเหวิน พูดขึ้นว่า: “พี่ ของขวัญที่พี่ได้เตรียมไว้ยังไม่ได้มอบให้กับคุณอีหลิงเลยไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้นำออกมาให้ทุกท่านได้ดูชมกันได้แล้ว! ”
ทุกคนต่างตะลึง ใช่สิ เมื่อครู่เพียงแต่จ้องมองไปที่หลินหยุน กลับลืมไปเลยว่าของขวัญของ ป๋ายรุ่ยเหวินยังไม่ได้นำออกมามอบให้เลย
“คุณชายป๋าย รีบนำของขวัญที่เตรียมไว้ให้กับคุณอีหลิงออกมาได้แล้ว ให้ทุกคนได้ชมได้เห็นกัน และก็จะได้ให้คนจนบางคนได้เห็นด้วยว่า ของแบกะดินของเขาชิ้นนั้นมันช่างกระจอกมากเพียงใด! ”
“ใช่เลย คุณชายป๋าย รีบนำออกมาดูให้เร็ว ๆ สิ จะได้ทำให้ไอ้คนจนนั้นอับอายขายหน้าไปเลยทีเดียว! ”
สายตาของทุกคน ต่างก็จับจ้องมาที่ป๋ายรุ่ยเหวิน แม้แต่อีหลิงก็อดไม่ได้ที่จะหันมองมาทางเขาด้วย
ป๋ายรุ่ยเหวินมีสีหน้าท่าทางที่กระหยิ่มยิ้มย่อง จึงได้ค่อย ๆ เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วก็นำกล่องขนาดเล็กที่สวยงามออกมา เดินเข้าไป มอบให้กับอีหลิง: “คุณอีหลิง น้ำใจเล็กน้อย หวังว่าคุณคงจะไม่รังเกียจ! ”
อีหลิงมีสีหน้าท่าทางที่อึดอัด ป๋ายรุ่ยเหวินแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะเปรียบเทียบกับหลินหยุน แต่หากว่าไม่ยอมรับของขวัญจากป๋ายรุ่ยเหวิน ก็จะเป็นการไม่เหมาะสม
อีหลิงแอบมองไปที่หลินหยุนเล็กน้อย พบว่าหลินหยุนไม่ได้มีความโกรธเคืองแต่อย่างใด เธอจึงรับของขวัญจากป๋ายรุ่ยเหวิน ยิ้มและพูดขึ้นว่า: “ขอบคุณ! ”
“คุณอีหลิง รีบเปิดออกมาดูสิ ของขวัญของคุณชายป๋ายชิ้นนี้ต้องรอจนคนสุดท้ายถึงจะนำออกมามอบให้ คงจะมีความพิเศษอย่างแน่นอน! ” กู้ซิวหรั่นพูดขึ้นด้วยท่าทางยิ้มแย้ม ซึ่งถ้าหากอีหลิงเปิดกล่องของขวัญต่อหน้าทุกคน ก็ทำให้เกิดการเปรียบเทียบของขวัญทั้งสองชิ้น ซึ่งจะทำให้หลินหยุนต้องอับอายขายหน้าอย่างรุนแรง
สีหน้าของพวกคุณชายลูกเศรษฐีทั้งหลาย ต่างก็ปรากฏรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ออกมาในทันที และตะโกนกันขึ้นว่า: “ใช่เลยคุณอีหลิง รีบเปิดออกมาดูเร็ว ๆ เพื่อสนองตอบความอยากรู้อยากเห็นของพวกเรา! ”
หลายคนเอะอะโวยวายขึ้น หวางเสี่ยวซีก็วิ่งเข้ามาอยู่ด้านข้างของอีหลิง แล้วมองไปที่กล่องขนาดเล็กสวยงามนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น และพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น: “อีหลิง เปิดออกมาดูสิ ดูว่าด้านในคืออะไร คนจำนวนมากต่างก็รอคอยกันอยู่ คุณห้ามทำให้ทุกคนผิดหวังอย่างเด็ดขาด! ”
เดิมทีอีหลิงไม่อยากที่จะเปิดออกต่อหน้าทุกคน เธอกังวลว่าหากของขวัญที่ป๋ายรุ่ยเหวินมอบให้นี้มีมูลค่ามาก ก็จะทำให้หลินหยุนเสียหน้า
แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าสายตาของทุกคน และยังมีหวางเสี่ยวซีที่ยื่นคอยาวรอดูอยู่ข้าง ๆ อีหลิงจึงไม่สามารถที่จะปฏิเสธความต้องการของทุกคนได้
“เสี่ยวซี ในเมื่อคุณอยากรู้อยากเห็นมาก งั้นก็ให้คุณมาเปิดกล่องแทนฉันแล้วกัน! ” อีหลิงยิ้มและพูดขึ้น ซึ่งเมื่อพูดจบก็หันไปมองหลินหยุนด้วยท่าทางที่แสดงถึงการขอโทษ
เห็นหลินหยุนมีสีหน้าปกติทั่วไป อีหลิงจึงเบาใจลงได้บ้าง
หวางเสี่ยวซีชิงกล่องมาจากมือของอีหลิง แล้วก็เปิดขึ้นอย่างตื่นเต้น สร้อยคอสีเขียวมรกตหนึ่งเส้นวางอยู่ในกล่อง โดยที่อยู่ภายใต้แสงไฟสีทอง ทำให้ส่องประกายระยิบระยับสวยงาม
“ว้าว นี่มันคือแสงแห่งความหวังของท่านอาจารย์ไมน์ ผู้ที่เป็นนักออกแบบอัญมณีเครื่องประดับชื่อดังระดับโลก! ”
สร้อยคอประกอบขึ้นจากเพชรสีเขียวมรกตสิบเอ็ดเม็ด ที่ร้อยด้วยแพลตตินั่ม โดยเรียงจากเม็ดขนาดใหญ่ไปสู่เม็ดขนาดเล็ก โดยเม็ดที่อยู่ตรงกลาง มีขนาดใหญ่เท่ากับไข่นกกระทาเลยทีเดียว
สีเขียวมรกตที่อยู่บนเพชรทั้งสิบเอ็ดเม็ดนั้น บริสุทธิ์สดใสกว่าสีเขียวมรกตอื่นใดในโลกนี้ ซึ่งด้านในนั้นเหมือนมีคลื่นแสงเคลื่อนที่ไปมา
“นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแสงแห่งความหวังของท่านอาจารย์ไมน์! ซึ่งมีเพียงแค่สามเส้นบนโลกใบนี้! ”
“สิ่งนี้ทำขึ้นมาจากหยกน้ำแข็งสีเขียวจักรพรรดิระดับสูงสุด หรือที่เรียกกันว่าราชาแห่งหยกน้ำแข็ง เพราะว่าท่านอาจารย์ไมน์ได้กำหนดไว้ว่าสีเขียวคือสีแห่งความหวัง ดังนั้นผลงานชิ้นนี้จึงได้รับการขนานนามว่าแสงแห่งความหวัง”
“สำหรับแสงแห่งความหวังอีกสองเส้นที่เหลือ ได้ยินว่าเส้นหนึ่งอยู่กับราชินีอังกฤษ ส่วนอีกเส้นหนึ่งนั้นได้ถูกประธานสมาคมอัญมณีระดับสูงแห่งอเมริกาเก็บสะสมเอาไว้ ซึ่งคิดไม่ถึงว่าคุณชายป๋ายจะสามารถครอบครองเส้นสุดท้ายนี้ไว้ได้! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...