สรุปเนื้อหา บทที่ 323 ของแบกะดิน – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 323 ของแบกะดิน ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
กู้ซิวหรั่นได้เริ่มพูดขึ้น ทำให้พวกคุณชายลูกเศรษฐีเหล่านั้นที่ไม่ชอบในตัวของหลินหยุนก็โวยวายขึ้นตามทันที
“ใช่สิ ไอ้หนุ่มน้อย นายเตรียมของขวัญอะไรให้กับคุณอีหลิงล่ะ? ”
“ไม่ใช่ว่าไม่มีแม้แต่เงินที่จะซื้อของขวัญให้กับคุณอีหลิงหรอกนะ! ”
“มาเฉลิมฉลองวันเกิดให้กับคุณอีหลิง นึกไม่ถึงว่าแม้แต่ของขวัญก็ยังไม่นำมามอบให้ นายเข้ามาร่วมงานเพื่อที่จะหลอกกินหลอกดื่มเท่านี้ใช่ไหม! ”
“ฮ่าฮ่า......”
ทุกคนหัวเราะเยาะเย้ยอย่างเหยียดหยามกันยกใหญ่
หวางเสี่ยวซีสังเกตไปที่หลินหยุน พบว่าหลินหยุนมาด้วยมือเปล่า จึงพูดเหยียดหยามขึ้นทันทีว่า: “คงไม่ใช่หรอกนะหลินหยุน วันนี้เป็นวันเกิดของอีหลิง นึกไม่ถึงว่านายจะไม่ได้เตรียมของขวัญมา นายนี่มันตระหนี่ขี้เหนียวชะมัด! ”
เซี่ยหยู่เวยก็ขมวดคิ้ว และมองไปที่หลินหยุนอย่างเหยียดหยาม: “วันเกิดอีหลิง นึกไม่ถึงว่าแม้แต่ของขวัญนายก็ยังไม่ได้เตรียมมา แสดงว่าในใจของนายไม่มีอีหลิงแม้แต่น้อย ฉันจะไม่ยอมให้นายหลอกลวงความรู้สึกของอีหลิงเด็ดขาด”
เดิมทีทุกคนก็แค่คาดเดา แต่เมื่อเห็นว่าหลินหยุนมาด้วยมือที่ว่างเปล่า อีกทั้งไม่มีการอธิบายแก้ตัวใด ๆ ขณะนั้น ทุกคนต่างก็คิดว่าหลินหยุนไม่ได้เตรียมของขวัญมาจริง ๆ
แม้แต่อีหลิงเอง ก็เชื่อตามนั้นด้วยเช่นกัน
อีหลิงรีบพูดแทนขึ้นว่า: “ทุกคนสามารถมาร่วมฉลองงานวันเกิดของฉันได้ ฉันก็ซาบซึ้งใจเป็นที่สุดแล้ว ส่วนที่ว่าของขวัญอะไรนั้น ฉันไม่ได้สนใจหรอก! ”
“หลินหยุนอาจจะมาร่วมงานอย่างรีบร้อน จึงลืมซื้อก็เท่านั้น ทุกคนอย่าเข้าใจผิดไป”
แม้ปากจะพูดว่าไม่สนใจ แต่อีหลิงก็แอบผิดหวังเสียใจอยู่ในใจเล็กน้อย เธอคิดว่าหลินหยุนได้เตรียมของขวัญเพื่อที่จะมอบให้กับเธอ ที่สำคัญคือเป็นของขวัญพิเศษที่ไม่เหมือนใคร
ทุกคนเห็นว่าอีหลิงได้ออกตัวเสนอหน้า พูดแทนหลินหยุนด้วยตัวเอง จิตใจก็ยิ่งจะอิจฉาริษยามากขึ้นอีก สายตาที่มองไปยังหลินหยุน ก็ยิ่งจะดูถูกเหยียดหยามมากขึ้น
กู้ซิวหรั่นถอนหายใจขึ้นทันที: “คุณอีหลิงจิตใจกว้างขวาง สามารถที่จะไม่สนใจได้ แต่ในเมื่อพวกเราเป็นเพื่อนของคุณอีหลิง มาร่วมงานวันเกิดเฉลิมฉลองให้กับคุณอีหลิง จะมาด้วยมือเปล่าได้อย่างไรกันล่ะ? นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการดูถูกคุณอีหลิงหรอกเหรอ? ”
“ต่อให้ไม่มีเงิน อย่างน้อยก็เลือกซื้อของขวัญที่ราคาถูกก็ได้ ซึ่งไม่ควรที่จะมามือเปล่าแบบนี้! ”
“ทุกคนว่าจริงหรือไม่จริงล่ะ? ” กู้ซิวหรั่นตะโกนถามไปยังทุกคน
ทุกคนรีบให้ความร่วมมือตะโกนตอบรับในทันที: “ใช่ คนที่ตระหนี่ขี้เหนียวแบบนี้ แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังไม่อยากที่จะจ่าย ข้าดูถูกเหยียดหยามพวกคนแบบนี้มาก! ”
“ข้าก็ดูถูกเหยียดหยามเช่นกัน! ”
“คนแบบนี้ไม่สมควรที่จะอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณอีหลิง ควรที่จะขับไล่เขาออกไป! ”
“จริงด้วย ขับไล่ขยะสังคมแบบนี้ออกไป! ”
เห็นทุกคนมีอารมณ์ฮึกเหิมกันใหญ่ อีหลิงก็ร้อนใจ จึงรีบพูดขึ้นว่า: “ทุกคนหยุดเอะอะโวยวายได้แล้ว! ฉันพูดแล้วไงว่า ฉันไม่ได้สนใจของขวัญอะไรนั่นเลย เพียงแค่ทุกคนสามารถมาร่วมงานกันที่นี่ได้ ฉันก็ขอบคุณทุกคนมากแล้ว”
“พวกคุณอย่าได้พูดถึงเรื่องของขวัญอีก มิเช่นนั้นฉันจะโมโหแล้ว! ”
อีหลิงมีสีหน้าที่เคร่งขรึม และแอบมองไปที่หลินหยุน พบว่าหลินหยุนยังไม่มีท่าทีโกรธเคือง จึงเบาใจลงได้บ้าง
เห็นว่าอีหลิงนั้นกระวนกระวายใจแทนหลินหยุน ทำให้ความอิจฉาริษยาของทุกคนที่มีต่อหลินหยุน กลับเพิ่มมากขึ้นถึงที่สุด
เวลานี้ หลินหยุนก็หัวเราะอย่างแปลกประหลาดขึ้นกะทันหัน และทำท่าทางเหมือนกับเล่นมายากลโดยที่ได้นำเอาจี้หยกใสชิ้นหนึ่งออกมา อีกทั้งยังผูกร้อยด้วยเส้นเชือกสีแดง
“ฉันทำจี้หยกด้วยตนเองขึ้นมาชิ้นหนึ่ง เพื่อมอบให้กับคุณ! ”
อีหลิงดีอกดีใจขึ้นในทันที แล้วมองไปยังหลินหยุนพร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางเบิกบานใจว่า: “ขอบคุณ! ”
“เดี๋ยวฉันจะเป็นคนห้อยไว้ที่คอให้กับคุณเอง! ” หลินหยุนพูดขึ้น
อีหลิงก้มศีรษะลง หน้าตาแดงก่ำ และตอบตกลง
เพียงแต่เสียงที่พูดนั้นคล้ายกับเสียงของยุงฮึมฮึม: “อืม! ”
หลินหยุนเดินเข้าไป แล้วนำจี้หยกห้อยไว้ที่คอที่ขาวผ่องของอีหลิง และกำชับไว้ว่า: “ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน ก็ห้ามถอดออกมาเด็ดขาด จำไว้แล้วหรือยัง? ”
ภาพเหตุการณ์นี้ ทุกคนที่เห็นต่างก็เกิดความอิจฉาริษยาไปตาม ๆ กัน
โดยเฉพาะป๋ายรุ่ยเหวิน กำหมัดทั้งสองข้างอย่างแน่น ถึงขนาดที่เล็บใกล้จะจิกเข้าไปในเนื้อแล้ว
ได้ยินที่กู้ซิวหรั่นพูด สายตาของทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังจี้หยกชิ้นเล็กที่ห้อยอยู่ที่หน้าอกของ อีหลิงในทันที
“เป็นเช่นนั้นอย่างที่พูดจริงด้วย เมื่อครู่ไม่ได้สังเกต แต่ตอนนี้มองอย่างละเอียดแล้ว พบว่าการแกะสลักของจี้หยกชิ้นนี้ไม่ประณีตเป็นอย่างมาก”
“สีของหยกก็ไม่ใช่เช่นกัน มองดูว่าสีสวยสดใส แต่ส่วนใหญ่หยกที่ยิ่งสดใส ก็มีโอกาสมากที่จะเป็นหยกปลอม ส่วนหยกชิ้นนี้นั้นกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์คงน่าจะซื้อมาจากแผงขายของแบกะดิน ซึ่งราคาคงจะชิ้นละไม่กี่หยวน”
พวกคุณชายลูกเศรษฐีคนนี้พูดคำหนึ่งคนโน้นพูดอีกคำหนึ่ง จนทำให้จี้หยกชิ้นนี้ของหลินหยุนดูตกต่ำไร้มูลค่าไร้ราคาไปเลยทีเดียว
แม้ว่าอีหลิงจะไม่ได้สนใจว่าของขวัญที่หลินหยุนมอบให้กับเธอนั้นมีมูลค่าราคาเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่เชื่อว่าหลินหยุนจะนำเอาของแบกะดินที่ราคาไม่กี่หยวนมาหลอกลวงเธอ อีหลิงอดทนไม่ไหว จึงดูจี้หยกที่หน้าอกอีกครั้ง
หวางเสี่ยวซีพูดขึ้นด้วยความโมโหว่า: “หลินหยุน นายมากเกินไปแล้ว! เดิมทีฉันคิดว่านายได้เตรียมของขวัญให้กับอีหลิง ก็ถือว่านายมีใจแล้ว ซึ่งไม่เสียแรงที่ก่อนหน้านี้อีหลิงได้ช่วยเหลือนายมาหลายครั้ง”
“แต่ คิดไม่ถึงว่านายกลับนำเอาของแบกะดินชิ้นหนึ่ง มาหลอกลวงอีหลิง! นายนี่มันขี้เหนียวมากเกินไปแล้ว! ”
คุณชายโจวยิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดขึ้นว่า: “ใช่สิ ต่อให้นายเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าไปอยู่กับฝ่ายภรรยา ไม่มีเงิน แต่ไม่กี่ร้อยหยวนก็คงจะต้องมีบ้างสิ! ก็ยังดีกว่าที่จะนำของแบกะดินไม่กี่หยวนมาหลอกลวงคนอื่น! ”
“หรือว่าที่นายรีบร้อนที่จะกลับออกไป คงน่าจะกลัวคนอื่นสังเกตเห็น ทำให้ตนเองอับอายขายหน้าล่ะสิ! ”
อีหลิงไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่าของขวัญที่หลินหยุนมอบให้กับเธอนั้นจะเป็นเพียงแค่ของแบกะดินราคาไม่กี่หยวน แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าสายตาที่เหยียดหยามของใครหลายคน อีหลิงก็ใบหน้าร้อนผ่าว รู้สึกว่าจี้หยกที่หน้าอกนั้น ได้กลายเป็นต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น
“พวกนายหยุดพูดซี้ซั้วได้แล้ว ไม่เคยได้ยินหรือไงว่าแม้ของขวัญจะดูไม่มีมูลค่าไม่มีราคาแต่ความรักความสัมพันธ์ช่างแสนลึกซึ้งยิ่ง? ” อีหลิงรีบร้อนที่จะช่วยโต้แย้งแทนหลินหยุน
มือข้างหนึ่งของหลินหยุนแตะเบา ๆ ไปที่ไหล่ของอีหลิง พูดขึ้นว่า: “วางใจเถอะ ฉันจะเอาของ แบกะดินมามอบให้เป็นของขวัญกับคุณได้อย่างไรกันล่ะ! ”
พูดจบ สายตาของหลินหยุนจ้องมองไปยังกู้ซิวหรั่น ที่แอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อยู่ด้านหลังของกลุ่มคน
“กู้ซิวหรั่น ตั้งแต่ตอนแรกนายก็ยุยงให้พวกคนเหล่านี้รุมโจมตีข้า หากว่าวันนี้ไม่ใช่งานวันเกิดของ อีหลิงแล้วล่ะก็ ข้าคงจะตบนายตายไปตั้งนานแล้ว! ”
กู้ซิวหรั่นยังไม่ทราบถึงความสามารถของหลินหยุน คิดว่าหลินหยุนเป็นเพียงวิชาการแพทย์ ดังนั้นเขาจึงไม่เกรงกลัวต่อหลินหยุน
“ฮ่าฮ่า ทำไมเหรอ? นายสามารถมอบของแบกะดินไม่กี่หยวนให้กับอีหลิง หรือว่าจะไม่อนุญาตให้คนอื่นเปิดโปงออกมาอย่างนั้นเหรอ?
“ของขวัญที่ทุกคนมอบให้ต่างก็รวมกันอยู่ตรงนี้ นายสามารถนำแต่ละชิ้นออกมาเปรียบเทียบกันดูได้ หากว่ามีชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่แย่กว่าของนาย ข้ายอมที่จะคุกเข่าก้มลงขอโทษ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...