จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 338

สรุปบท บทที่ 338 ปรมาจารย์ถูกสังหารโดยไม่ทันสังเกต: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

บทที่ 338 ปรมาจารย์ถูกสังหารโดยไม่ทันสังเกต – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 338 ปรมาจารย์ถูกสังหารโดยไม่ทันสังเกต จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

แล้วมีความสงสัยตามมาว่า ในร่างกายของผู้หญิงคนนี้มีเครื่องรางได้อย่างไร?

เข้าใจแล้ว ต้องเป็นไอ้หนุ่มคนนั้นที่มอบให้แน่นอน ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเขาถึงทนเห็นหญิงสาวถูกคนอื่นทำให้เสียโฉมได้ และไม่แยแส

คงเป็นเพราะมีที่พึ่งพาเลยไม่กังวลมั้ง!

“ฮึ่ม ฉันไม่เชื่อ แค่จี้หยกเล็กๆอันหนึ่ง จะสามารถขวางฉันได้?”

ทันใดนั้นอีเฉินเย่าก้าวถอยหลังทันที แล้วต่อยลงไปที่อีหลิงอย่างแรง

ลมหมัดอันทรงพลัง ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆอีหลิง ตกใจจนกรีดร้องเสียงดัง วิ่งหนีกันโกลาหล

อ๊ะ!” อีหลิงคาดไม่ถึงว่าอีเฉินเย่าจะโจมตีกะทันหัน กรีดร้องด้วยความตกใจ ใช้มือปิดตาไว้

“อีหลิง!” อีหยุ่นตะโกน สีหน้ากังวลใจ

ทุกคนตกใจจนหัวใจเต้นกระตุก เมื่อกี้อีเฉินเย่าเพิ่งใช้นิ้วกีดที่ใบหน้าอีหลิงเบาๆ แน่นอนคงจะไม่ใช้แรงมาก

เพียงแต่ว่า ตอนนี้หมัดนี้ของอีเฉินเย่า เป็นการโจมตีแบบเต็มรูปแบบอย่างชัดเจน เครื่องรางที่ปกป้องอีหลิง ยังสามารถสำแดงฤทธิ์อัศจรรย์ออกมาได้ไหม?”

บูม!

มีเสียงดังกระหึ่ม แสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และยาวนานกว่าเมื่อสักครู่สองเท่า

แขนทั้งสองข้างของอีเฉินเย่าสะเทือนจนชา และอีหลิงยังคงไม่ได้รับอันตรายใดๆ ยืนอยู่ที่เดิมอย่างมั่นคง

“นี่มัน……เหลือเชื่อจริงๆ!”

ทุกคนประหลาดใจ

ยิ่งกว่านั้น ในที่สุดทุกคนก็มองเห็นได้ชัดเจน แสงสีเขียวนั้นมาจากหน้าอกของอีหลิง

“มันคือจี้หยกที่หลินหยุนมอบให้อีหลิง!”

“โอ้ พระเจ้า! จี้หยกนั่นสามารถป้องกันการโจมตีของปรมาจารย์บู๊ได้จริงๆ!”

“ไม่น่าแปลกใจที่หลินหยุนพูดว่าจี้หยกของเขานั้นสิ่งของในโลกมนุษย์ไม่สามารถเทียบได้ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ!”

“ลุงฉินพูดว่าจี้หยกที่หลินหยุนมอบให้อีหลิงเป็นของล้ำค่าที่สุด เมื่อกี้ฉันไม่เชื่อ ตอนนี้ฉันยอมเชื่อแล้ว!”

“ถ้าใครเป็นเจ้าของจี้หยกนี้ ยังดีกว่าสวมเสื้อเกราะ ในอนาคตหากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ยังสามารถช่วยชีวิตได้ ถ้าเอาจี้หยกมาเทียบกับแสงแห่งความหวัง แสงแห่งความหวังก็เป็นแค่ขยะ!”

กลุ่มเศรษฐีหนุ่มจากเจียงหนานพูดซุบซิบกัน มองจี้หยกบนหน้าอกของอีหลิง ด้วยความอิจฉา

สีหน้าป๋ายรุ่ยเหวินดูน่าเกลียดมาก เขาใช้เงินไปเยอะมากเพื่อซื้อแสงแห่งความหวังนี้มา ตอนนี้กลับมีคนพูดว่ามันเหมือนขยะ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะโกรธ เขาก็ไม่สามารถตอบโต้ได้ เขาเป็นนักบู๊ และเข้าใจคุณค่าของจี้หยกนั้นมากกว่าคนทั่วไป

จากพลังที่จี้หยกนั้นปรากฏออกมา ป๋ายรุ่ยเหวินสรุปได้ว่า จี้หยกนั้นสามารถป้องกันการโจมตีจากปรมาจารย์ระดับเล็กขั้นสูงสุด

กล่าวคือ นักบู๊ที่มีระดับต่ำกว่าปรมาจารย์ระดับเล็กนั้น ไม่สามารถทำร้ายอีหลิงได้เลย

เดิมทีเซี่ยหยู่เวยมีใบหน้าที่สวยงามและไม่มีใครเทียบได้ ตอนนี้หน้าดำคร่ำเครียดสุดๆ

เมื่อมองจี้หยกบนหน้าอกของอีหลิง มีความอิจฉาริษยา

ผู้หญิงมักจะเป็นเพศที่เสียเปรียบ ดังนั้นสำหรับผู้หญิงทุกคนเครื่องรางชนิดนี้ที่สามารถปกป้องตัวเอง จึงเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่ใฝ่ฝัน

เซี่ยหยู่เวยก็ใฝ่ฝันที่จะครอบครองสมบัติล่ำค่าชนิดนี้ โดยเฉพาะสมบัติชนิดนี้อยู่ในมือของหลินหยุน

หลินหยุน เป็นสามีในนามของเธอ ในแง่ของความสัมพันธ์ เธอกับหลินหยุน สนิทสนมกันมากกว่าอีหลิงอย่างแน่นอน

แต่ว่า ทั้งสองดำเนินชีวิตด้วยกันมาสิบกว่าปีแล้ว และหลินหยุนไม่เคยมอบสิ่งของดีๆให้เธอเลย แต่กลับมอบให้อีหลิงแทน

มันทำให้ผู้หญิงที่หยิ่งยโสอย่างเซี่ยหยู่เวยจะทนได้อย่างไร?

หวางเสี่ยวซีในเวลานี้ บังเอิญจับมือของเซี่ยหยู่เวยด้วยความตื่นเต้น และตะโกนว่า “หยู่เว่ย เธอเห็นไหม จี้หยกที่หลินหยุนมอบให้อีหลิงนั้น มันทรงพลังเช่นนี้!”

ก่อนหน้านี้พวกเราทุกคนเข้าใจเขาผิดไป!”

“ใช่สิ เธอเป็นภรรยาของหลินหยุน เขาต้องมอบให้เธอด้วยใช่ไหม? รีบเอาออกไปให้พวกเราดูหน่อย!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเซี่ยหยู่เวยยิ่งแย่ขึ้น

อีหยุ่นก็ตกตะลึงเช่นกัน “ไม่คาดคิดว่าแต่ก่อนฉันโจมตีเขามากขนาดนั้น แต่เขากลับมอบสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ให้กับอีหลิง ดูเหมือนว่าไอ้หนุ่มคนนี้จริงใจกับอีหลิงจริงๆ!”

“ในยามยากลำบากเห็นความจริงใจ! แต่ก่อนฉันเข้าใจเขาผิดไป!”

สายตาของทุกคน มองไปที่หลินหยุนที่นั่งเงียบๆบนเก้าอี้ ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึง

ฉากต่อหน้า ทุกคนไม่สามารถจินตนาการได้จริงๆ

ความแข็งแกร่งของอีเฉินเย่า เมื่อกี้ทุกคนก็ได้เห็นมาแล้ว

เพียงแต่ว่า หลินหยุนใช้ตะเกียบอันเดียว เพื่อฆ่าอีเฉินเย่าที่ดุร้ายและทรงพลัง

ทั้งหมดนี้ ได้ลบล้างความรู้ความเข้าใจเดิมๆของมนุษย์ที่มีต่อโลกนี้

ถ้าไม่ใช่เห็นด้วยตาของตัวเอง แม้คนอื่นจะพูดขนาดไหน พวกเขาคงไม่เชื่อว่าตะเกียบอันเดียวจะสามารถฆ่าคนได้ และคนที่โดนฆ่าคือปรมาจารย์บู๊ที่ทรงพลังมาก

แน่นอนตะเกียบไม่สามารถฆ่าคนได้ นับประสาอะไรกับอีเฉินเย่าเป็นถึงปรมาจารย์บู๊

แต่ว่า ที่สำคัญคือคนที่ใช้ตะเกียบ

คุณปู่เจ็ดเห็นชัดเจน ตะเกียบที่หลินหยุนขว้างออกไปนั้น ถูกห่อหุ้มด้วยพลังทิพย์ที่ทรงพลัง และเจาะทะลุหัวใจของอีเฉินเย่าโดยตรง

สามารถปลดปล่อยพลังทิพย์ได้นั้น มีเพียงนักบู๊ที่เข้าสู่ขั้นสูงสุดเท่านั้นที่สามารถทำได้ ซึ่งก็หมายความว่าชายหนุ่มที่มีอายุยี่สิบกว่าปีที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ ที่แท้ก็เป็นปรมาจารย์ขั้นสูงสุดอย่างแท้จริง!

ปรมาจารย์ขั้นสูงสุดที่มีอายุยี่สิบกว่าปี……

บ้าไปแล้ว โลกใบนี้มันบ้าไปแล้ว!

คุณปู่เจ็ดไม่สามารถจินตนาการได้ว่าอนาคตของหลินหยุนจะมีพลังที่ไร้ขอบเขตเพียงใด

ไม่แน่ แม้แต่(แดนในตำนาน) บางทีเขาอาจจะสัมผัสได้

บางทีคนธรรมดาอาจไม่เข้าใจความหมายของปรมาจารย์ แต่ผู้คนที่อยู่ในโลกบู๊ เข้าใจชัดเจนมาก

โดยที่ตระกูลอีเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่สุดในเจียงหนาน มีปรมาจารย์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ต้องการ ตระกูลแบบนี้สามารถก่อตั้งได้อย่างรวดเร็ว

ตระกูลอีเพียงเพราะมีคุณปู่เจ็ด ถึงสามารถเหนือกว่าตระกูลป๋าย และกลายเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่สุดในเจียงหนาน

ลุงฉินตกใจ และพึมพำกับตัวเอง “ปรมาจารย์อายุยี่สิบกว่าปี ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ถึงตายฉันคงไม่เชื่อ แม้แต่เทพแห่งสงครามเจียงร่อโจ๋ในเมืองหลวง ก็ด้อยกว่าเขามาก

“อนาคตของคนนี้ ไร้ขีดจำกัด!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์