จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 386

สรุปบท บทที่ 386 วิชาการกลั่นยาของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 386 วิชาการกลั่นยาของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 386 วิชาการกลั่นยาของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“ความสามารถที่แท้จริง!”

ทุกคนต่างก็ตื่นตกใจ

หรือว่าเซี่ยหมิงเห้ายังมีทักษะการแพทย์ที่อัศจรรย์อยู่อีกรึไง?

คนรอบๆนึกไม่ออกจริงๆ ยังมีทักษะการแพทย์ ที่เหนือยิ่งกว่าวิชาการฝังเข็มขั้นเทพของหลินหยุนอีก!

นั่นเป็นวิชาปาฏิหาริย์ที่สามารถยืดชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายได้เลยนะ!

ฉู่หยุนหวากลับมีสีหน้าที่เคร่งขรึม แอบพูดออกมาว่า “จะแสดงฝีมือที่แท้จริงแล้วเหรอ?”

เซี่ยเจี้ยนโก๋ทำหน้าร้อนรน เขาถูกขับไล่ออกจากตระกูลตั้งนานแล้ว แม้แต่เขาก็เดาไม่ออกว่าเซี่ยหมิงเห้ายังซ่อนไพ่ตายใต้อะไรเอาไว้!

กู่เชียนซานหัวเราะด้วยใบหน้าที่เย็นชา แล้วมองไปยังเซี่ยหมิงเห้า ด้วยแววตาที่ตื่นเต้น “ในฐานะที่เกิดในตระกูลเซี่ยที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน หรือว่าจะมีฝีมือแค่นี้รึไง? แสดงฝีมือที่แท้จริงของแกออกมาเถอะ!”

ใบหน้าของกู่เซิงยู่เต็มไปด้วยความดุร้าย “หลินหยุน แกอย่าเพิ่งได้ใจ อย่าเพิ่งได้ใจไป อีกเดี๋ยว แกก็จะได้เห็นฝีมือที่แท้จริงของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนแล้ว!”

“ยืดชีวิตไปได้สองปีแล้วมันจะทำไม ความสามารถที่แท้จริงของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน สามารถชุบชีวิตคนตายได้ เมื่อเทียบกับพวกเขา แกมันก็แค่ขยะ!

ท่านหลิวมองไปยังเซี่ยหมิงเห้า แล้วจู่ๆก็พูดด้วยเสียงโทนต่ำว่า “รอบแรก คุณหลินเป็นฝ่ายชนะ”

“ก่อนที่จะเริ่มการแข่งรอบที่สอง ทั้งสองฝ่ายต้องการที่จะพักผ่อนรึไหม?”

เซี่ยหมิงเห้าจ้องมองท่านหลิวด้วยแววตาแห่งความโกรธ “เจ้าเฒ่า เจ้าจงใจใช่ไหม!”

ท่านหลิวตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ “ข้าก็แค่ทำตามกฎที่ถูกระบุเอาไว้ กรุณาตอบด้วยว่าท่านต้องการพักผ่อนหรือไม่?”

“ไม่จำเป็น!” เซี่ยหมิงเห้าพูดด้วยความโมโห

หลินหยุนก็พูดด้วยเสียงที่สงบนิ่งว่า “ข้าเองก็ไม่ต้องการ”

ท่านหลิวทำหน้าเครียด เขาจงใจจริงๆนั่นแหละ อยากจะให้หลินหยุนพักสักหน่อย แล้วหาทางรับมือกับการโต้ตอบของเซี่ยหมิงเห้าจากนี้ยังไงดี

แต่ว่า หลินหยุนไม่ยอมรับการช่วยเหลือ

เซี่ยหมิงเห้าหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “เจ้าเฒ่า ได้ยินหรือยัง เขาไม่ต้องการ รีบประกาศการแข่งรอบที่สองได้แล้ว!”

ท่านหลิวพูดด้วยเสียงจริงจังว่า “ในเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการพักผ่อน งั้นผมขอประกาศ การแข่งรอบที่สอง เริ่ม ณ บัดนี้!”

เซี่ยหมิงเห้าพูดด้วยใบหน้าที่หยิ่งยโสและรอยยิ้มที่เย็นชาว่า “เจ้าเด็กน้อย รอบที่แล้วเจ้าโชคดีไป ถือว่าเจ้าชนะก็แล้วกัน ตามกฎที่ระบุเอาไว้ รอบนี้น่าจะถึงตาข้าที่ต้องเป็นคนเลือกหัวข้อแล้ว”

“แต่ว่าข้าเป็นคนใจกว้าง ครั้งนี้ข้าจะไม่จำกัดว่าต้องเป็นทักษะการแพทย์อะไร เจ้าจะใช้วิชาการฝังเข็มก็ได้ หรือจะใช้ยาต้มก็ตามใจ ขอแค่เจ้าสามารถเอาชนะข้าได้ รอบที่สองนี่ถือเป็นความพ่ายแพ้ของข้า!”

คนรอบๆต่างก็จ้องมองไปยังเซี่ยหมิงเห้าด้วยความสงสัย “ทำไมจู่ๆนิสัยของเจ้าเด็กคนนี้ถึงเปลี่ยนไปล่ะ? ทำไมถึงกลายเป็นคนง่ายๆแบบนี้!”

เซี่ยหมิงเห้าเห็นสีหน้าของคนรอบๆที่กำลังสงสัยอยู่อย่างชัดเจน แอบหัวเราะและคิดในใจว่า “ยังไงซะเดี๋ยวข้าก็จะใช้โอสถในการรักษา ข้าไม่สนว่าเขาจะใช้วิธีอะไร? ยังไงซะเขาก็ต้องแพ้อยู่แล้ว แบบนี้พวกแกก็ไม่มีใครที่สามารถด่าข้าได้ว่าชนะอย่างไม่เป็นธรรม”

เซี่ยหมิงเห้าได้คิดไตร่ตรองมาแล้ว

เซี่ยเจี้ยนโก๋รู้สึกโล่งอก แล้วพูดเสียงเบาว่า “โชคดีจัง แบบนี้หลินหยุนก็ยังสามารถใช้วิชาการฝังเข็มสู้ต่อได้!”

หลินหยุนพูดอย่างสงบนิ่งว่า “เจ้าใช้วิธีอะไร ข้าก็จะใช้วิธีแบบนั้น ข้าไม่เอาเปรียบเจ้าหรอก”

เซี่ยหมิงเห้าแอบดีใจ แล้วพูดเสียงดังว่า “ดี เจ้าเป็นคนพูดเองนะ!”

“ตอนนี้ ข้าจะให้พวกแกชมเป็นขวัญตา ความสามารถที่แท้จริงของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน!”

“ให้คนป่วยเข้ามาได้!” เซี่ยหมิงเห้าหันไปตะโกนใส่ท่านหลิว

การแข่งขันระหว่างหมอ แตกต่างจากการแข่งของนักบู๊ นักบู๊สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้ในทันที แต่ว่าถ้าเกิดอยากจะรู้ผลแพ้ชนะของทักษะการแพทย์ ก็ต้องดูว่าจะสามารถรักษาคนป่วยได้หรือเปล่า

ท่านหลิวได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ เอาคนป่วยที่เตรียมไว้เข้ามาตั้งแต่แรกแล้ว

ผู้ป่วยในครั้งนี้ เป็นผู้หญิงอายุราวๆสี่สิบ

ทั้งตัวเต็มไปด้วยแผลพุพอง และบวม ดูแล้วน่ากลัวเป็นอย่างมาก

ดูจากลักษณะของโรคที่เด่นชัดตามตัวของผู้หญิงคนนี้ ทุกคนต่างก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นโรคอะไร

“HIV!”

ถูกแล้ว โรคเอดส์นั่นเอง

ทุกคนต่างรู้กันดี ตอนนี้โรคHIVเป็นโรคร้ายแรง สามารถควบคุมได้ แต่รักษาไม่หาย

โรคนี้จะค่อยๆกัดกินระบบภูมิคุ้มกัน จนทำให้ผู้ป่วยเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ จนตายในที่สุด

“โอสถเหรอ! นั่นเป็นยาทิพย์ที่ได้ฉายาว่าสามารถชุบชีวิตคนตายได้!”

“คราวนี้หมอเทพหลินต้องลำบากแล้ว!พวกเราล้วนเป็นหมอ ยาต้มกับวิชาฝังเข็มก็ยังดี แต่ใครรู้วิธีการกลั่นยาบ้างล่ะ?”

“น่าสิ ไม่ยุติธรรมเลย!”

“อะไรที่ไม่ยุติธรรม เมื่อกี้เจ้าเด็กจากตระกูลใหญ่การแผนแพทย์จีนก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ? หมอเทพหลินสามารถใช้วิธีอื่นในการรักษาได้ ไม่จำเป็นต้องใช้โอสถสักหน่อย!”

“แต่ว่าเมื่อกี้หมอเทพหลินก็พูดออกมาจากปากของตัวเอง เพื่อที่จะไม่เอาเปรียบเซี่ยหมิงเห้า จะใช้วิธีเดียวกับที่เขาใช้ในการรักษาโรคของคนไข้”

“งั้นก็จบแล้ว”

การสนทนาของคนรอบๆ หลินหยุนได้ยินทั้งหมด

แต่ว่า สีหน้าของเขาก็ยังสงบนิ่งเหมือนเดิม

ฉู่หยุนหวาได้เตือนเขาตั้งแต่แรกแล้ว วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน น่าจะเป็นวิชาการกลั่นยา

เป็นอย่างนั้นจริงๆด้วย!

แต่ว่า ก็ไม่รู้ว่า วิชาการกลั่นยาของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน เมื่อเทียบกับหุบเขาเทพยาแล้ว ใครเหนือกว่ากัน?

ทุกคนต่างก็จ้องมองเซี่ยหมิงเห้าที่กำลังกลั่นโอสถอยู่ตรงสนามด้วยสนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่โชคดีได้เห็นการกลั่นยา แต่ว่าพวกเขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้ ถ้าเกิดใส่ส่วนผสมเดียวกันกับโอสถลงไปในยาต้ม ผลของยาจะออกมาเหมือนกันหรือเปล่า?

ไม่เคยมีใครลองมาก่อน เพราะว่าส่วนผสมของยาที่เซี่ยหมิงเห้าใช้ในการกลั่นยา มีสมุนไพรมากมายที่คนอย่างพวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หัวของเซี่ยหมิงเห้าก็มีเหงื่อไหลออกมาให้เห็น โอสถที่มีขนาดพอๆกับตาแมวก็กลั่นเสร็จแล้ว

โอสถนั่นดูแล้วดำจนไม่น่ามอง รูปร่างก็ดูน่ากลัวมาก

แต่ว่า เซี่ยหมิงเห้ากลับดูได้ใจมาก แล้วหันไปสั่งวัยรุ่นสองคนนั้นว่า “เอาไป ให้นางกินพร้อมกับน้ำอุ่น!”

“ครับ!”

วัยรุ่นทั้งสองทำตามทันที

เซี่ยหมิงเห้าหันกลับมา มองหลินหยุนด้วยใบหน้าที่หยิ่งยโส และหัวเราะอย่างเย็นชาด้วยท่าทางที่เหนือกว่าแล้วพูดว่า “เจ้าเด็กน้อย เจ้าบอกว่าจะใช้วิธีเดียวกับข้าในการรักษาโรคของคนไข้ ตอนนี้เริ่มลงมือได้แล้ว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์