จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 387

สรุปบท บทที่ 387 แค่ขยะพวกแกยังเอามาเป็นของล้ำค่า: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

บทที่ 387 แค่ขยะพวกแกยังเอามาเป็นของล้ำค่า – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 387 แค่ขยะพวกแกยังเอามาเป็นของล้ำค่า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หลินหยุนมองไปยังเตาทรงกลมเล็กๆที่เซี่ยหมิงเห้าเอาออกมา โดยความสนใจเล็กน้อย

เซี่ยหมิงเห้ายิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ “เป็นไง? ไม่เคยเห็นใช่ไหม? รู้ไหมว่านี่คืออะไร? อยากจะรู้ไหมว่ามันใช้ยังไง?”

หลินหยุนยังคงไม่พูดอะไร แต่ว่าในแววตากลับเผยความขี้เล่นออกมา

คนรอบๆพอเห็นหลินหยุนโดนเซี่ยหมิงเห้าดูถูก ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป เอาแต่ถอนหายใจอยู่เงียบๆ “จบแล้ว ตอนนี้กลายเป็นการทำร้ายตัวเองแท้ๆ! เมื่อกี้หมอเทพหลินไม่น่าพูดจาใหญ่โตแบบนั้นเลย จะใช้วิธีเดียวกันกับเจ้าเด็กนั้นในการรักษาอาการป่วยของคนไข้”

“ไม่งั้น ตอนนี้ยังสามารถใช้วิชาการฝังเข็มในการรักษาได้!”

“ดูจากท่าทางของหมอเทพหลิน ดูเหมือนจะไม่เคยเห็นวิชาการกลั่นยามาก่อน คราวนี้ได้ขายขี้หน้าแน่!”

คนส่วนใหญ่ก็เอาแต่ก้มหน้า ไม่อยากไปมองหน้าที่กำลังได้ใจของเซี่ยหมิงเห้า

เซี่ยเจี้ยนโก๋เองก็ถอนหายใจ “เฮ้อ เสี่ยวหยุนยังคงเด็กเกินไป!ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ ตอนนี้เรียกได้ว่าทำตัวเองแท้ๆ!”

หลินหยุนกวาดสายตากลับมา มองไปยังหน้าของเซี่ยหมิงเห้าที่กำลังได้ใจ แล้วพูดอย่างสงบนิ่งว่า “ข้าแค่อยากจะรู้ว่า วิชาการกลั่นยาของเจ้า เมื่อเทียบกับวิชาการกลั่นยาของหุบเขาเทพยา มันจะเป็นยังไง?”

สีหน้าของเซี่ยหมิงเห้าเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก มองหลินหยุนด้วยความตกใจ “เจ้ารู้จักหุบเขาเทพยาด้วยเหรอ?”

จากนั้นเซี่ยหมิงเห้าก็แอบสงสัยในใจ “หรือว่าเจ้าเด็กนี่จะรู้วิชาการกลั่นยาด้วย?”

“ไม่ เป็นไปไม่ได้! ต่อให้เขาจะเป็นนักบู๊ ก็ไม่แน่สักหน่อยว่าลักษณะร่างกายของเขาจะสามารถเป็นนักกลั่นยาได้ ถ้าอยากจะใช้ชี่แท้ในการปล่อยไฟออกมา จำเป็นต้องมีลักษณะร่างกายที่มีแค่หนึ่งในหมื่น แถมยังต้องได้รับการสั่งสอนจากผู้อาวุโสของโลกนักกลั่นยา ไม่งั้นไม่มีทางที่จะเป็นนักกลั่นยาได้!”

เซี่ยหมิงเห้าค่อยๆสงบลง เขารู้สึกว่าบางทีหลินหยุนอาจจะเคยได้ยินชื่อของหุบเขาเทพยาจากที่ไหนสักที่ก็ได้

“เจ้าหนุ่ม ดูเหมือนว่าเจ้าเองก็เป็นคนที่รู้เรื่องของโลกมิใช่น้อย กลับเคยได้ยินชื่อของหุบเขาเทพยาสักด้วย!”

“หุบเขาเทพยาอยู่ในจุดสูงสุดของโลกนักกลั่นยา วิชาการกลั่นยาของข้าเมื่อเทียบกับพวกเขา แน่นอนว่ายังห่างชั้นอยู่มาก!”

“แต่ว่าเจ้าถามเรื่องนี้ทำไมกัน? หรือว่าเจ้ายังเคยเอาชนะยอดฝีมือในการกลั่นยาของหุบเขาเทพยาด้วยรึไง? ฮ่าๆๆๆ!”

เซี่ยหมิงเห้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยความได้ใจ คำพูดสุดท้ายเป็นการพูดเยาะเย้ยหลินหยุนอย่างไม่ต้องสงสัย

หลินหยุนหัวเราะออกมาอย่างช้าๆ “นึกไม่ถึงว่าหุบเขาเทพยากลับเป็นจุดสูงสุดในโลกนักกลั่นยาของพวกแก”

ในน้ำเสียงของหลินหยุน เต็มไปด้วยความดูถูก

“ทักษะแค่นั้นของหุบเขาเทพยา ในสายตาของข้ามันก็เป็นแค่ขยะ นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะเอามาเป็นของล้ำค่า”

“ข้าจะให้เจ้าได้เห็นว่าอะไรคือวิชาการกลั่นยาที่แท้จริง”

พูดจบ หลินหยุนก็เริ่มขยับ จากนั้นจู่ๆก็มีส่วนผสมของยาลอยออกมาจากแหวนเก็บของ ลอยอยู่กลางอากาศราวๆสามฟุตของหลินหยุน

หมอธรรมดาพวกนั้นต่างก็ตื่นตกใจ ภาพตรงหน้าของพวกเขาเหมือนกับเวทมนตร์อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ว่า นักบู๊อย่างกู่เชียนซานและพวกเซี่ยหมิงเห้า สีหน้ากลับเปลี่ยนไปอย่างมาก

พวกเขาเคยได้ยินว่ามีความสามารถหนึ่งที่ชื่อ คาถาแขนเสื้อเอกภพ

นั่นเป็นวิชาที่มีเพียงแค่ยอดปรมาจารย์ที่สามารถใช้ได้

หลินหยุนอายุน้อยขนาดนี้ จะไปมีความสามารถเทพขนาดนั้นได้ยังไงกัน!

“วิชาการกลั่นยาที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องใช้เตากลั่นยา”

หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ กางแขนทั้งสองข้างออกมาในระดับเดียวกัน จากนั้นก็เอามือประสานกัน

จากนั้น ก็มีเปลวไฟออกมาจากอากาศ และเริ่มกลั่นส่วนผสมของยาพวกนั้น

ครั้งแรกที่หลินหยุนกลั่นยาปฐมภูมิ ใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมง ตอนนั้นความแข็งแกร่งของเขาเพิ่งอยู่ในแดนปฐมภูมิ

ตอนนี้ความแข็งแกร่งของหลินหยุนอยู่ในแดนแด่เทพเจ้าแล้ว แค่สิบนาที ก็สามารถกลั่นยาปฐมภูมิได้สำเร็จ

มีกลิ่นหอมละมุนลอยเข้ามาจมูก มีโอสถที่โปร่งใสกำลังลอยอยู่กลางอากาศ และกำลังเปล่งประกายออกมาราวกับหยก

ทุกคนต่างก็ตกตะลึง!

แม้แต่ใบหน้าของเซี่ยหมิงเห้าเองก็เต็มไปด้วยความตกใจ

นี่ นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ!

“แม้ว่ามันไม่สามารถรักษาโรคของคุณได้ แต่อย่างน้อยมันก็ยังสามารถช่วยให้คุณมีชีวิตอยู่ได้อีกห้าปี”

ยาปฐมภูมิที่แท้จริงของโลกเซียน คนธรรมดาเมื่อกินเข้าไปเหมือนได้เกิดใหม่ แต่ว่าด้วยข้อจำกัดด้านส่วนผสมยาปฐมภูมิที่หลินหยุนกลั่นออกมา แน่นอนว่าผลของยาก็ต้องหายไปเยอะ

“ห้า......ปี!” ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มองหลินหยุนเหมือนไม่อยากจะเชื่อ กุมโอสถด้วยมือทั้งสองข้าง ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า

“ขอบคุณมากหมอเทพ!”

ผู้หญิงน้ำตาไหลริม แล้วกินโอสถของหลินหยุน ส่วนโอสถสีดำไม่น่ามองที่เซี่ยหมิงเห้าเป็นคนกลั่นออกมา ผู้หญิงคนนี้ยังไม่ได้กลืนมันลงไป แถมแน่นอนว่าตอนนี้ก็คงไม่กินมันอีกแล้ว

พอเห็นว่าผู้หญิงคนนี้กินโอสถลงไป สายตาของทุกคน ต่างก็จ้องมองไปที่ตัวของเธอ

โอสถแค่มีรูปลักษณ์ดีมันยังไม่พอ ต้องใช้การได้ด้วย

หลังจากนั้นหนึ่งนาที อาการป่วยของโรคบนใบหน้าของผู้หญิงเริ่มเบาลงอย่างเห็นได้ชัด

ท่านหลิวมองไปยังเซี่ยหมิงเห้า แล้วถามด้วยเสียงจริงจังว่า “ตอนนี้คุณส่งคนมากับฉันเพื่อไปตรวจสอบผลของโอสถเถอะ!”

ใบหน้าของเซี่ยหมิงเห้าดูหมองมาก ยิ้มอย่างขมขื่น “ยังต้องตรวจสอบอะไรอีก!ข้าแพ้แล้ว ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!”

วิชาการกลั่นยาอันน่าอัศจรรย์ที่หลินหยุนแสดงออกมา ทำให้เซี่ยหมิงเห้ายอมรับจากใจจริง ทำให้เขาไม่สามารถหาอะไรมาโต้แย้งได้อีก

เซี่ยหมิงเห้ายอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตัวเอง ก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่าโอสถของหลินหยุนเหนือชั้นกว่า

แม้แต่คนที่หยิ่งยโสอย่างเซี่ยหมิงเห้า ยังยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตัวเอง แน่นอนว่าไม่มีใครที่คิดจะสงสัยผลโอสถของหลินหยุนอีก

ท่านหลิวเองก็ดูสบายมาก ประกาศผลในทันที “ถ้าเกิดรอบนี้คุณยอมรับความพ่ายแพ้ งั้นก็เท่ากับว่าคุณแพ้ไปสองรอบแล้ว การแข่งนี้หลินหยุนก็จะกลายเป็นผู้ชนะ”

เซี่ยหมิงเห้าจึงเพิ่งได้สติ มองไปยังหลินหยุน แววตาได้เผยความยกย่องออกมา “ข้าแพ้แล้ว ตามกฎที่ระบุเอาไว้ เจ้าสามารถขออะไรกับตระกูลเซี่ยก็ได้หนึ่งข้อ”

“ไม่ว่าเจ้าจะขอวิชาการฝังเข็มที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลเซี่ย หรือจะเป็นวิชาการกลั่นยา พวกเราก็จะไม่ปฏิเสธ”

หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ “ข้ามีแค่คำขอเดียว”

จากนั้น หลินหยุนก็มองไปยังเซี่ยเจี้ยนโก๋ “คุณมาพูดด้วยตัวเองดีกว่า!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์