โชคชะตที่ประคับประคองกัน
เช่นเดียวกับผลกระทบของผีเสื้อ ผีเสื้อตัวเล็กๆที่กางปีกออก อยู่ชายฝั่งมหาสมุทรอันไกลโพ้น อาจทำให้เกิดพายุขนาดใหญ่
โชคชะตาไม่ใช่เรื่องที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง แต่โชคชะตากำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ชะตากรรมของซูเย่นหนิง แม้แต่หลินหยุนก็ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เพียงแต่ว่า อย่างน้อยจากสิ่งที่เขารู้จากชาติที่แล้ว ชะตากรรมตลอดเส้นทางของซูเย่นหนิงก็ราบรื่น
ดังนั้น แม้ว่าจะรู้ว่าเพื่อนที่ดีของเขามีพรสวรรค์ หลินหยุนก็ไม่ต้องการที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชะตาชีวิตของซูเย่นหนิง เพื่อไม่ให้เกิดสิ่งที่เขาไม่สามารถคาดเดาได้
สำหรับโม่หยู่ที่ก้มหัวและไม่พูด แต่หลินหยุนพบฉากที่ทำให้เขาประหลาดใจ
โม่หยู่ ที่แท้ก็คือผู้ฝึกฝนคนหนึ่ง
แม้ว่าเธอจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเก็บซ่อนออร่าของตัวเอง แต่ด้วยความแข็งแกร่งของหลินหยุน สามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็ว
นึกถึงโม่หยู่ในชาติที่แล้วมักจะทำสิ่งลึกลับ และในที่สุดเธอก็หายสาบสูญไปจากโลกนี้ ในที่สุดหลินหยุนก็เข้าใจเหตุผลนั้น
ไม่น่าแปลกใจที่โม่หยู่ไม่ชอบติดต่อกับคนแปลกหน้า คิดว่าเธอคงมีเหตุผลที่ทำให้ลำบากใจ
เมื่อเห็นสายตาของหลินหยุน จ้องมองไปที่โม่หยู่ ซูเย่นหนิงก็หัวเราะและพูดว่า “น้องชาย นายชอบคุณหนูโม่ของเราใช่ไหม? เธอยังไม่มีแฟนเลย? เพียงแต่ว่า คุณหนูโม่ของเราเป็นคนจู้จี้จุกจิกมาก คนธรรมดาทั่วไม่เข้าตาเธอหรอก!”
“ซูเย่นหนิง!” โม่หยู่กลอกตาใส่ซูเย่นหนิงอย่างโกรธจัด
ซูเย่นหนิงหัวเราะ และเดินเข้าไปหาหลินหยุนและพูดต่อ “น้องชาย ฉันคิดว่านายไม่ใช่คนธรรมดา ไม่แน่บางทีอาจนายอาจจะจีบสาวงามได้สำเร็จ! สู้สู้ ฉันเชื่อใจแน่!”
หลินหยุนยิ้มโดยไม่พูดอะไร เขาไม่คิดว่าซูเย่นหนิงพูดเพื่อความสนุกสนาน เขารู้สึกว่าซูเย่นหนิงต้องการค้นพบบางสิ่งบางอย่าง
ไม่เพียงแต่ค้นพบโม่หยู่ แต่ยังค้นพบตัวเองด้วย
ผู้มีพรสวรรค์แบบนี้ ดูถูกไม่ได้จริงๆ!
มู่เฉิงพูดว่า “จริงสิน้องหลินหยุน ทำไมคุณถึงมาที่นี่?”
“เรื่องบังเอิญ” หลินหยุนไม่สามารถบอกความจริงได้ มิฉะนั้นเขาจะถูกคนพวกนี้คิดว่าเป็นคนประหลาดแล้วนำไปศึกษาค้นคว้า
“นั่นหมายความว่าพวกเรามีพรหมลิขิต!” มู่เฉิงมีความสุขมาก เขาคิดว่าตั้งแต่แยกจากกันจากที่บ้านของเขาแล้ว มันยากมากที่จะได้เจอหลินหยุนอีก คิดไม่ถึงว่าจะพบหลินหยุนอีกครั้งในตอนบ่ายวันนี้
“จริงสิ ฉันมีเรื่องอยากถามนาย” หลินหยุนมองที่มู่เฉิงแล้วพูด
“โอ้ เรื่องอะไร? ขอเพียงฉันรู้ ฉันต้องบอกคุณทุกอย่าง” มู่เฉิงพูดอย่างมีความมั่นใจมาก
“นายรู้จักผู้รับผิดชอบที่จัดงานเลี้ยงฉลองที่อำเภอจีหมิงงานหรือไม่?” หลินหยุนถาม
สีหน้ามู่เฉิงดูแปลกไปเล็กน้อย “คุณถามเรื่องนี้ทำไม? อันที่จริง ครอบครัวของเราเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเชิญให้ไปงานเลี้ยงฉลองนี้ เพียงแต่ว่างานเลี้ยงฉลองนี้ อันที่จริง……”
มู่เฉิงดูเหมือนไม่รู้จะอธิบายยังไง
ซูเย่นหนิงที่อยู่ข้างๆพูดว่า “อันที่จริงงานเลี้ยงฉลองนี้ เป็นเพียงการแสดง! ส่วนสิ่งที่จะแสดง? แน่นอนว่าเป็นการโชว์มนุษย์สัมพันธ์ที่กว้างขวาง!”
“ทุกคนมารวมตัวกัน เปรียบเทียบใครมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกว่า มนุษย์สัมพันธ์ที่กว้างขวาง ก็จะได้รับความสำคัญจากผู้รับผิดชอบในอำเภอจีหมิง!”
สายตาของหลินหยุนเย็นชาเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าจะมีงานเลี้ยงฉลองเช่นนี้ ไม่น่าแปลกใจที่พ่อของเขาจะเศร้าใจ
ตามความเข้าใจของหลินหยุนที่มีต่อหลินตงหัว ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง เขาเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต และงานทั้งหมดทำอย่างเป็นทางการมีหลักการ คนแบบนี้จะเป็นคนดีที่รักประชาชนเหมือนกับลูกตัวเองอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม คนแบบนี้จะถูกกำหนดให้เป็นคนโดดเดี่ยวอย่างแน่นอน และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีมนุษย์สัมพันธ์ที่กว้างขวาง
งานเลี้ยงฉลองของผู้อื่น สำหรับหลินตงหัว เป็นงานฉลองที่น่าอับอาย
เมื่อคิดได้ว่าพ่อของเขาหลายปีมานี้ดำเนินชีวิตยังไง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บหัวใจ รู้สึกโมโหแทนพ่อของเขา
“มู่เฉิง ช่วยฉันเรื่องหนึ่ง ฉันต้องการเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองนั้น” หลินหยุนมองที่มู่เฉิงและพูด
“เรื่องนี้ง่ายมาก พรุ่งนี้คุณสามารถเข้าร่วมกับพวกเรา” ตระกูลมู่เป็นหนึ่งในรายชื่อที่ได้รับเชิญ ดังนั้นแค่พาหลินหยุนไปด้วย ไม่ใช่เรื่องช่วยเหลืออะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...